เมื่อได้ยินดังนั้น ภวินท์ตาเป็นประกาย ขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจเล็กน้อย “แล้วเธอคิดว่าไงล่ะ”
เธอออกจากบ้านสถิรานนท์ทั้งที่ร่างกายยังบาดเจ็บอยู่แบบนั้น เขาจะไม่กังวลได้เหรอ
ญาธิดาสบตากับเขา แล้วละสายตาจากไปอย่างรวดเร็ว สายตาของเธอไปอยู่ที่ไหล่กว้างๆของเขา เธอลังเลแล้วถามว่า “แผลของคุณ...ซี้ด—”
เธอพูดไม่ทันจบ ร่างกายของเธอสั่นสะท้านด้วยความเจ็บปวด ขมวดคิ้วแน่น
ตอนนั้นเอง พยาบาลที่อยู่ข้างๆก็พูดเบา ๆ ว่า “กำลังทายาต่อนะคะ อาจจะเจ็บหน่อย อดทนหน่อยนะคะ”
ญาธิดาตอบรับเสียงเบา แล้วกำมือไว้แน่นทั้งสองมือ
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมอง มุมที่เธอพยาบาลยกขึ้นเผยให้เห็นหลังของญาธิดา ดูเหมือนงูสีดำแดงคลานมาบนผิวสีซีดของเธอ บาดแผลดูน่ากลัว
มันต้องเจ็บปวดมากแน่ๆ
ภวินท์ขมวดคิ้วโดยไม่พูดอะไรต่อ เขาดึงเก้าอี้ที่อยู่ข้างๆมานั่งลงข้างเตียง เอื้อมมือไปกุมมือเล็กๆของหญิงสาว
ตอนนั้นเอง พยาบาลก็เริ่มทายา ญาธิดาขมวดคิ้วด้วยความเจ็บปวดและหลับตาลง ไม่สนใจอะไรมากนัก จับมือใหญ่อันอบอุ่นไว้โดยไม่รู้ตัว
“ซี๊ด—”
พยาบาลค่อยๆ ดึงผ้าปูที่นอนที่คลุมแผ่นหลังของเธอออก และในที่สุด รอยแผลเป็นยาวสองเส้นก็ปรากฏขึ้น รอยแผลนั้นเด่นชัดอยู่บนแผ่นหลังที่เรียบเนียนของญาธิดา
ภวินท์ขมวดคิ้ว กลืนน้ำลาย แล้วถามขึ้นมาว่า “แผลแบบนี้จะกลายเป็นแผลเป็นไหมครับ”
เธอพยาบาลพูดเบาๆ “อาจจะเป็นค่ะ แต่ถ้ารักษาดีๆ ระวังเป็นพิเศษ แผลเป็นก็จะจางลง”
เมื่อได้ยินแบบนั้น ภวินท์ก็ขมวดคิ้วอีก
อาจจะพราะรู้สึกว่าบรรยากาศตึงเครียดเกินไปแล้ว พยาบาลยังคงทาแผลต่อไป พลางพูดขึ้นเบาๆว่า "แต่ไม่เป็นไรหรอกเนอะ ถึงจะเป็นรอยแผลเป็น แต่ถ้าแฟนไม่รังเกียจก็ไม่เป็นไรหรอก"
พูดพลาง เธอก็เหลือบมองภวินท์
จู่ๆ เขาก็มาถึงที่นี่ เป็นธรรมดาที่พยาบาลจะคิดว่าเขาเป็นแฟนของเธอ
ภวินท์เงียบไป ริมฝีปากบางขยับเล็กน้อย “ผมไม่รังเกียจ”
เมื่อได้ยินดังนั้น เธอพยาบาลก็ยิ้มกรุ้มกริ่ม มองดูญาธิดาด้วยความอิจฉาเล็กน้อย
แต่เจ้าตัวอย่างญาธิดาสนใจแค่ความเจ็บปวด ไม่มีเวลามาสนใจคำพูดอะไรพวกนั้น เธอหลับตาแน่น หยาดเหงื่อที่หน้าผากไหลออกมาเรื่อยๆ
“เดี๋ยวก็เสร็จแล้ว อดทนไว้นะคะ” เธอพยาบาลพูด รีบทายา แล้วเริ่มพันผ้าพันแผล
เพราะว่าเธอไม่ได้ดูแลแผลให้ดี แผลที่พันไว้เดิมนั้นเปิดออกมา และมีเลือดไหล จะพันแผลอีกรอบก็ต้องเจ็บกว่าเดิม
ญาธิดารู้สึกเจ็บแสบที่หลัง ร้อนผ่าว เจ็บยิ่งกว่าวินาทีที่เธอถูกแส้ฟาดซะอีก มือของเธอกำมือภวินท์ไว้แน่น
ไม่นานความเจ็บปวดก็บรรเทาลง และเธอก็ค่อยๆหายใจได้อย่างปกติ ลืมตาขึ้น
“พันแผลเสร็จแล้วนะคะ อย่าขยับเยอะอีกนะคะ แผลจะได้ไม่เปิด”
ญาธิดาพยักหน้า ลืมตาขึ้น สังเกตเห็นว่าชายที่นั่งริมหน้าต่างขมวดคิ้วและมองลงต่ำ ตอนนั้นเองเธอถึงรู้ว่าเธอจับมือเขาแน่น จนเล็บกดไปที่หลังมือของเขาจนเป็นรอยโค้ง
เธอตกใจรีบปล่อยมือ “ขอโทษค่ะ...”
“ไม่เป็นไร” ภวินท์เอามือออก ทำหน้าเครียด แล้วถามเสียงเข้ม "คุณกลัวเจ็บขนาดนี้ แล้วตอนนั้นมารับแส้แทนผมทำไม"
ประโยคนี้ติดอยู่ในใจเขามาหลายวันแล้ว นี่เป็นโอกาสดีที่จะถาม
ญาธิดาได้ยินแบบนั้น สีหน้าก็ดูลุกลนอยู่ครู่หนึ่ง ไม่นานก็กลับมาเป็นปกติ “แผนงานเคยอยู่ในความรับผิดชอบของฉัน อาจจะรั่วไหลไปตอนนั้นก็ได้ ดังนั้นฉันก็ต้องรับผิดชอบด้วย ฉันแค่รับโทษตามที่ฉันสมควรได้รับก็เท่านั้น”
น้ำเสียงของเธอจริงจังราวกับไม่ได้ผสมกับความรู้สึกส่วนตัวเลยสักนิด
ภวินท์หรี่ตาลงเล็กน้อย น้ำเสียงเย็นชา “วันนั้นที่คุณไปส่งหนังสือรายงาน นิวราก็อยู่บนรถด้วยไม่ใช่หรือไง”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...