หลังจากใช้รถไฟฟ้าใต้ดินในการเดินทางแล้ว เพื่อรีบมุ่งหน้าไปยังโรงถ่ายละคร เมื่อมาถึงหอศิลปะ ญาธิดาเดิมคิดว่าวันทำงานก็คงไม่ได้มีคน แต่พอถึงสถานที่นั้น เธอถึงได้รับรู้ว่าตนเองช่างใสซื่อจริงๆ
ภายนอกหอศิลปะต่างมีคนห้อมล้อมกันอย่างพลุกพล่าน ต่างเป็นเด็กสาววัยรุ่นอายุสิบกว่าปลายๆ ถึงยี่สิบต้นๆ ซึ่งจับกลุ่มเป็นก้อนดักอยู่ตรงบริเวณนั้น ในมือกำลังถือป้ายและโทรศัพท์ และพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน
เมื่อมองเห็นตัวอักษรตัวที่อยู่บนป้ายเหล่านั้นพร้อมทั้งเห็นรูปที่ปรากฏอยู่บนป้ายแบนเนอร์ ญาธิดาถึงตระหนักได้ทันทีว่านี่มันคืออะไร
เด็กสาวพวกนั้นเป็นบรรดาแฟนคลับของคิริน ซึ่งห้อมล้อมอยู่บริเวณประตูกันอย่างมากหน้าหลายตา ก็เพื่อจะได้เห็นหน้าเขาสักครั้งตอนที่คิรินเดินออกกมา
ญาธิดาไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาออกันอย่างมากมายขนาดนี้ เธอเดินเข้าไป เพื่อเบียดเข้าไปด้านใน แต่บรรดาเด็กสาวก็ไม่ยอมหลีกทางให้ เมื่อเห็นว่าเธอมามือเปล่า แถมดูแล้วก็ไม่คล้ายเป็นแฟนคลับสักนิด จึงไม่ยอมให้เธอเบียดไปทางด้านหน้าได้ง่าย
ญาธิดาเหลือบมองเวลา จนเกิดอาการกังวลใจขึ้นมาเล็กน้อย
เธอไม่สามารถเข้าถึงตัวของคิรินได้สักนิด แล้วจะไปเอาโอกาสที่ไหนมาสร้างความตัวตนต่อหน้าเขา เพื่อหาโอกาสในการพูดคุยเป็นพรีเซนเตอร์?
ญาธิดาเหลือบมองซ้ายขวา จู่ๆ ก็เห็นเด็กผู้หญิงหลายคนเดินออกมาจากบ้านพักเล็กๆ ที่อยู่ไม่ไกลนัก และถือป้ายไฟและรูปแสกนของคิรินอยู่ในมือ
เธอจ้องมอง ถึงได้ค้นพบว่าตรงนั้นมันคือร้านที่รับจัดทำแสดงป้ายและโปสเตอร์ ความฉลาดเฉลียวของเธอหมุนติ้วทันที พร้อมทั้งเดินไปทางนั้นอย่างรวดเร็ว
เจ้าของร้านเป็นชายวัยกลางคนรูปร่างผอมแห้ง เมื่อเห็นเธอยิ้มให้จึงสอบถามทันที “น้องเป็นFCของใครเหรอครับ?”
ญาธิดาตะลึงเล็กน้อย พร้อมทั้งเหลือบมองป้ายทุกรูปแบบต่างๆ ที่วางกระจัดกระจายอยู่ในห้อง จนตอบสนองกลับมาอย่างรวดเร็ว “คิรินค่ะ”
“ฮ่าๆ FCของคิรินเยอะมากจริงๆ วันนี้เฉพาะป้ายของเขาคนเดียวผมทำไปหลายสิบอันแล้วเนี่ย!”
เจ้าของร้านมองเธอและชี้มาที่ป้ายอย่างคล่องแคล่ว “พวกนี้ไซส์ขนาดไม่เหมือนกัน คุณจะเอาแบบไหนล่ะ?”
“ฉันเอาแบบที่ใหญ่ที่สุดค่ะ” ญาธิดาค้นหารูปภาพใบหนึ่งมาจากโทรศัพท์อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งส่งให้เจ้าของร้านดู “ฉันจะสกรีนรูปนี้ค่ะ”
เจ้าของร้านยิ้มพร้อมทั้งพยักหน้า จากนั้นก็ให้เธอส่งรูปภาพมายังคอมพิวเตอร์ และเริ่มทำงานอย่างขะมักเขม้นทันที
ไม่ถึงสิบนาที ป้ายที่มีขนาดใหญ่มากก็ทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้านบนยังสกรีนรูปหล่อๆ ของคิรินไว้หนึ่งรูป ป้ายมีขนาดกว้าง1เมตร ถือว่าสะดุดตาจริงๆ
เมื่อครู่ญาธิดาได้สำรวจมองกลุ่มคนที่อยู่รอบๆ จนค้นพบว่าป้ายที่อยู่ในมือของเหล่าเด็กสาวเป็นป้ายชนิดขนาดเล็กที่มีราคาถูก ซึ่งสามารถยกชูได้ง่าย เมื่อเอามาเปรียบเทียบกัน ป้ายที่เธอเพิ่งสกรีนออกมาถือว่าใหญ่มากๆ
แต่เป้าหมายหลักของเธอก็คือ เธอชูป้ายขนาดใหญ่และยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน อันนี้ต้องสะดุดตาที่สุดแน่ๆ แม้ว่าจะไม่สามารถพูดคุยกับคิรินได้ก็ตาม อย่างน้อยก็สามารถทำให้เขาสนใจเธอขึ้นมาได้
เมื่อได้แผ่นป้ายใหญ่มาพร้อมทั้งจ่ายเงินเรียบร้อย ญาธิดาก็รีบเดินมุ่งหน้าเข้าไปในกลุ่มฝูงชนอย่างรวดเร็ว ตอนที่เพิ่งจะเดินเข้าไปใกล้กลุ่มนั้นก็ดึงดูดสายตาของผู้คนได้ไม่น้อย เธอเดินเข้าในตำแหน่งที่คนน้อยมาก พร้อมทั้งชูป้ายและเบียดเข้าไป จนสุดท้ายก็มาอยู่ทางด้านหน้าที่สุดอย่างรวดเร็ว
คนที่อยู่ด้านข้างต่างมองมา และมีคนเริ่มกระซิบกระซาบกันอยู่ไม่น้อย
“นี่นางบ้าไปแล้วมั้ย ถึงได้ยกป้ายใหญ่เบ้อเริ่มขนาดนี้!”
“จงใจแหละมั้ง เพื่อเรียกความสนใจของคิรินให้มองเธอ ถึงได้ยอมลงทุนจ่ายเงินมากมายขนาดนี้จ่ายออกไปจริงๆ ...
“……”
เมื่อได้ยินเสียงคำซุบซิบนินทา ญาธิดาก็ไม่ได้สนใจสักเท่าไหร่ เธอไม่ได้มีความคิดเฉกเช่นเดียวกับพวกเด็กสาว แค่เพื่อต้องการพูดคุยเรื่องความร่วมมือในการทำงานกับเขาก็เท่านั้นเอง
ญาธิดาชะเง้อมองภายในหอศิลปะ รออยู่นาน ก็ไม่เห็นเขาจะออกมาสักที เวลานี้เอง ทางด้านข้างก็มีเสียงพึมพำอย่างดูถูกดูแคลนดังขึ้น “ฉันก็คิดว่าใครที่ไหนซะอีก! ไม่คิดเลยว่าจะเป็นแก!”
พอเธอหันศีรษะกลับไปมอง ก็เห็นว่าเป็นแองจี้ เธอใส่เสื้อครอปสีฟ้าเปิดพุงน้อยๆ ท่อนล่างเป็นกางเกงหนังรัดรูป แถมยังวาดรูปแมวตัวน้อยบนใบหน้า ดูแปลกประหลาดพิกล และแสดงท่าทางเด็กสาวที่แปลกพิลึกพิลั่น
ญาธิดาตกใจทันที พร้อมทั้งแปลกใจเล็กน้อย เมื่อมองเห็นป้ายไฟในมือของเธอ จึงยกมุมปากอย่างไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...