ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 310

ตลอดทางที่เดินออกมาจากห้องเลขานุการจนมาถึงห้องทำงานของท่านประธาน ญาธิดาก็ได้เตรียมใจให้ตัวเองเอาไว้แล้ว ตอนที่เดินมาถึงหน้าประตูนั้น เธอก็เคาะประตูเล็กน้อย จากนั้นก็ผลักประตูเข้าไป

ภวินท์กำลังนั่งอนุมัติเอกสารอยู่ เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า หลังจากตวัดปลายปากกาเซ็นชื่อตนเองลงในเอกสารอย่างคล่องแคล่วสวยงามแล้ว จากนั้นจึงได้แหงนหน้าขึ้นมองญาธิดา

เธออ้าปากสอบถาม “คุณภวินท์คะ มีอะไรที่ต้องการจะสั่งหรือคะ?”

ภวินท์พูดอย่างเป็นทางการ “วันนี้นคุณนวิยากลับมาแล้ว คุณกลับไปที่แผนกธุรการเถอะ คุณตามเรื่องคิรินต่อ พยายามรีบเจรจาให้ได้ให้เร็วที่สุด เรื่องนี้ทำสำเร็จจะมีโบนัสให้”

ซึ่งไม่นอกเหนือการคาดเดา มือญาธิดาที่อยู่ข้างกายพลางบีบชายเสื้ออย่างไม่รู้ตัว พร้อมทั้งตอบกลับเสียงแผ่วเบา “ค่ะ”

หัวใจบิดเบี้ยวไร้การควบคุม เธอกัดฟันพูด แสร้งมองภวินท์อย่างสงบเสงี่ยม อารมณ์สับสนเป็นหมื่นเป็นพันเท่า

ตั้งแต่ที่ตนเองได้ยินลูกเกดพูดว่าวันนี้นวิยากลับมาแล้ว เธอก็พอจะเดาอะไรออก

เมื่อวานนี้ตอนที่เธอทำโอทีกับภวินท์ และกินข้าวอยู่ในห้องทำงานด้วยกันกลับถูกนิวราเห็นเข้า เธอจึงคิดว่าภวินท์คงไม่รั้งเธอไว้ที่สำนักงานCEOอีกแล้ว

เพราะนิวราใกล้จะเป็นว่าที่ภรรยาของเขาที่กำลังหมั้นหมายกันอยู่แล้ว เขาต้องแสดงอะไรออกมาให้เธอเห็น เพื่อให้เธอสบายใจ

ตัวเลือกสองอย่างที่ต้องเลือกข้อเดียว แค่นิวราเป็นคู่ต่อสู้ของเธอ เธอก็ไม่เคยชนะมาก่อนสักครั้ง

ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ตอนที่ภวินท์ช้อนตามองนั้น จึงรวบรวมกล้าจนพูดออกมา “คุณภวินท์คะ ช่วงสุดสัปดาห์พ่อฉันมีตรวจร่างกาย ฉันอยากจะอยู่เป็นเพื่อนเขา เรื่องงานหมั้น...”

เสียงเธอสะดุดไป ตอนที่สบตากับดวงตาดำขลับทอประกายคู่นั้น ในใจก็เริ่มหดหู่เล็กน้อย

ยติภัทรต้องเข้ารับการตรวจร่างกายจริงๆ เพื่อเตรียมรับการผ่าตัดในครั้งนี้ แต่มีปภาวีอยู่เป็นเพื่อน ส่วนเธอจะไปหรือไม่ไปก็เหมือนกัน การที่หยิบเอาเรื่องนี้ขึ้นมาพูด ก็เป็นเพราะว่าเธอไม่อยากไปร่วมงานหมั้นของภวินท์กับนิวรา

พลันนึกถึงตอนนั้นที่เธอกับภวินท์จดทะเบียนกัน เขาไม่เคยจัดงานแต่งงานให้เธอเลย แถมตอนนี้แค่จัดงานหมั้นกับนิวราเท่านั้น ก็ต้องจัดงานที่ใหญ่โตเอิกเกริกขนาดนี้ จนทำให้คนรอบข้างอิจฉา ทั้งเธอเห็นเต็มสองตา แต่มันกลับทิ่มทะลุทะลวงไปถึงหัวใจ

ดังนั้น สู้หาข้ออ้างมาพูดกันตรงๆเลย

ภวินท์ได้ยิน หัวคิ้วย่นเข้าหากัน ดวงตาฉายแววตาสับสนออกมาเล็กน้อย กระเดือกเขาเคลื่อนไหว หลังจากชะงัดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็พูดออกมาอย่างเย็นชา “นิวอยากให้คุณไป”

ญาธิดากำชายเสื้อไว้แน่น คล้ายหลุดปากพูดโพล่งออกไป “แต่ฉันไม่...”

เพิ่งพูดได้แค่ครึ่งประโยค เธอก็มีปฏิกิริยาตอบโต้กลับ จึงรีบหยุดทันควัน

ตอนนี้เธอกับภวินท์อยู่ในความสัมพันธ์เจ้านายกับลูกน้อง ซึ่งยังไม่ถึงขั้นอยากจะพูดอะไรออกไปก็สามารถพูดออกมาได้

ทว่ามันกลับสายเกินไปแล้ว

ภวินท์ขมวดหัวคิ้วไว้แน่นกว่าเดิม สีหน้าแสดงความเย็นชาออกมา พร้อมทั้งกวาดตามองญาธิดา จู่ๆก็วางปากกาลูกลื่นในมือลง จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งสาวเท้ามุ่งหน้ามาหาเธอ

ราวกับตกใจกับอาการโกรธเคืองของเขา ญาธิดาถอยหลังไปทีละก้าวอย่างไม่รู้ตัว รอจนชายหนุ่มต้อนเข้ามาใกล้เรื่อย พอเธอเงยหน้าขึ้น ก็สบตาดวงตาดำขลับที่ไร้แววตาคู่นั่นเตะเข้าตา จนค้นพบว่าจะหลบก็หลบไม่ทันอยู่แล้ว

ภวินท์ยื่นมือออกไป และใช้ฝ่ามือใหญ่คว้าหัวไหล่ของเธอเอาไว้ และนำความกดดันมาให้เพิ่มมากขึ้นอย่างไร้รูปร่าง “ญาธิดา ไม่ใช่เพราะว่าอาจารย์ต้องตรวจร่างกายจึงทำให้คุณไปไม่ได้ แต่เพราะว่าคุณไม่อยากไป”

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางพูดปฏิเสธทันควัน “เปล่าค่ะ...”

ภวินท์เลิกคิ้วขึ้น “ยังอยากจะปิดบังผมอีกเหรอ?”

เขาผู้ซึ่งรู้จักเธอมานานขนาดนี้แล้ว ทุกการกระทำของเธอ ทุกแววตาของเธอ เขามองออกว่ามันหมายความว่ายังไง แล้วจะมองไม่ออกได้ยังไงว่าตอนนี้เธอกำลังโกหกเขาอยู่?

“ทำไมไม่อยากไป?” เขาพูด เสียงทุ้มต่ำมาก และเป็นการซักไซ้ “ไม่อยากเห็นงานหมั้นของผมกับนิวราเหรอ?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์