ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 313

ญาธิดาคลี่ยิ้มรอยยิ้มที่ดูย่ำแย่มากออกมา จากนั้นก็หลุดปากพูดออกไป “เลือกไม่ได้”

“ทำไมถึงพูดว่าเลือกไม่ได้ล่ะ?” คณินเริ่มระเบิดอารมณ์ พร้อมทั้งนำถ้วยชาที่อยู่ในมือวางบนโต๊ะทันที “คุณพาผมไปหาเขาที ผมต้องการพูดคุยกับเขาหน่อย!ถ้าคุณไม่อยากไปก็ไม่ต้องไปสิ ผมไม่เชื่อว่าเขายังจะสามารถบีบคุณไปให้ได้”

ญาธิดาสูดลมเย็นๆเข้าปอด พลางหลุบตาลง “มีบางเรื่องพูดออกมาก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี”

คณินตะลึงเล็กน้อย พร้อมทั้งมองหญิงสาวที่อยู่ด้านหน้า จนหัวใจเกิดความรู้สึกแปลกพิกลขึ้นมาเป็นระยะ

เมื่อก่อนตอนที่เขาเพิ่งจะรู้จักกับเธอนั้น เธอเป็นคนไม่เกรงกลัวอะไรเลย เป็นผู้ช่วยตัวน้อยที่ทั้งเด็ดเดี่ยวและหนักแน่นมาก แต่เธอในตอนนี้กลับไม่เหมือนเดิม คิดมากขึ้น หวาดกลัวมากขึ้น จนทำให้เกิดความรู้สึกปวดใจตามอย่างไม่รู้ตัว

เขายกมือขึ้น เพื่อลูบศีรษะเธออย่างแผ่วเบา พร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงผ่อนคลายลง “ถ้าคุณไม่อยากไปจริงๆ บอกผมได้นะ ผมทนดูคุณถูกรังแกไม่ได้”

ญาธิดาได้ยินดังนั้น รู้สึกอบอุ่นในหัวใจทันที จึงเงยหน้ามองเขา พลันคลี่ยิ้มและพูดทันที “ขอบคุณนะ ประธานคณิน”

ไม่ว่าเหตุการณ์ที่คุณชายอย่างคณินช่วยแก้ไขปัญหาให้เธอในงานเลี้ยงที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ หรือตอนนี้จะเป็นผู้จัดการโครงการกิจการของJVที่ดูภูมิฐานและมีน้ำใจขึ้นมาก เขาก็คือคณินคนที่จิตใจเมตตาคนนั้น

เมื่อเห็นรอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าของหญิงสาว แววตาคณินตะลึงเล็กน้อย จังหวะที่พนักงานนำอาหารมาเสิร์ฟ ก็มาขวางหูขวางตาสายตาของเขาพอดี

เขาดึงสติกลับคืน พร้อมทั้งยื่นตะเกียบให้กับญาธิดาอย่างเอาใจ หลังจากรอให้พนักงานเดินออกไปแล้ว เขาถึงได้อ้าปากพูด “ต่อไปมีอะไรที่ต้องการให้ช่วยเหลือก็มาหาผมได้ ก็เราเป็นเพื่อนกันแล้วนี่?”

เขาเองก็ยินยอมเริ่มต้นเป็นเพื่อนกับเธอ ส่วนเรื่องรายละเอียดหลังจากนี้แล้ว เขาก็ไม่รีบร้อน

ญาธิดาก็ยังไม่ได้เข้าใจความหมายอีกชั้นหนึ่งที่อยู่ในคำพูดของเขาด้วย พร้อมทั้งยิ้มให้อย่างบริสุทธิ์ใจ “ได้เลยค่ะ คุณต้องการให้ฉันช่วย ก็มาหาฉันได้เหมือนกันค่ะ”

ทั้งสองคนต่างสบตาและยิ้มให้กัน พอคุยกันสักพัก และรับประทานอาหารได้อย่างออกรสออกชาติ

ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เอง มุมห้องของร้านอาหาร มีผู้ชายคนหนึ่งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา กดชัตเตอร์ถ่ายรูปของญาธิดากับคณินเอาไว้ อย่างรวดเร็ว

หลังจากรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อยแล้ว คณินก็พาญาธิดามาส่งที่ใต้ตึกคอนโด หลังจากบอกลากันแล้ว ญาธิดาก็เดินเข้าไปคนเดียว

คล้ายว่าบรรยากาศในการรับประทานอาหารเย็นมื้อนี้ช่างดูกลมกลืน ญาธิดาอารมณ์ดีขึ้นมาก พอกลับถึงคอนโดก็จัดการเก็บของสักพักก็พักผ่อนทันที

แต่ชีวิตที่มีความสุขเช่นนี้กลับไม่ได้อยู่ยืนนาน เช้าตรู่วันถัดมา จู่ๆก็เกิดเรื่องราวคล้ายกับมีไม้มาฟาดหัว ที่ทำให้ญาธิดาตื่นตัวทันที

เธอกำลังทำงานมือเป็นระวิงอยู่ตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว จู่ๆชมพู่ที่อยู่ในห้องทำงานก็ส่งเสียงตกใจดังลั่น ถัดมาชมพู่ก็อ้าปากพูดอย่างร้อนอกร้อนใจ “ธิดา แกรีบไปดูอีเมลของบริษัทเร็ว...”

“หือ? ได้สิ” ญาธิดาตอบรับทันที โดยคิดว่าเป็นเอกสารที่บริษัทแจ้งอะไรไว้ และไม่ได้กดเปิดดูทันที

ไม่กี่วินาทีถัดมา ก็มีเสียงของชมพู่ดังขึ้นมาอีกครั้ง “ธิดา...แกเห็นแล้วใช่มั้ย?”

ชมพู่พูดเร่งเร้าอยู่ไม่หยุดปากเพื่อเรียกความสนใจเธอ เธอจึงเบนสายตาออกจากตารางงาน เพื่อกดหน้าต่างที่เด้งขึ้นมาจากมุมขวามือตรงด้านล่าง จึงกดเปิด

ซึ่งรูปแบบของอีเมลลักษณะไม่ค่อยเหมือนกับปกติ แถมยังมีรูปภาพประกอบ ญาธิดาแค่กวาดตามองคนที่อยู่ในรูปภาพคร่าวๆ แต่วินาทีที่สายตามองเห็นนั้น ร่างกายก็แข็งทื่อทันที

คนที่อยู่ในรูปไม่ใช่คนอื่น แต่เป็นเธอ! อีกอย่างยังเป็นชุดที่เธอใส่อยู่เมื่อวานนี้!

ในรูปนอกจากเธอแล้ว ยังมีคณินอยู่ด้วย!

ซึ่งแสดงให้เห็นได้อย่างชัดเจน รูปภาพนี้เป็นรูปภาพเมื่อวานนี้ที่โดนแอบถ่ายตอนตอนที่เธออยู่กับคณิน!ตั้งแต่ที่ทั้งสองคนเดินออกมาจากร้านเสื้อผ้าและเดินไปกินข้าวด้วย กระทั่งยังมีรูปตอนที่คณินมาส่งเธอกลับบ้าน รูปภาพทั้งเซท ซึ่งเธอถูกสะกดรอยตามความเคลื่อนไหวทุกกระเบียดนิ้ว

เธอกวาดตาอ่านรวดเดียว เพื่ออ่านตัวอักษรในอีเมลนั่น พริบตาเดียว อารมณ์โกรธเคืองมันพุ่งเข้าหัวใจ พร้อมทั้งระงับไว้ไม่อยู่!

อีเมลฉบับนี้กลับพูดถึงว่าเธอกับคณินแอบสมรู้ร่วมคิดกัน ซึ่งยังชี้ชัดว่าเธอมีส่วนเกี่ยวข้องถึงเรื่องแผนงานที่รั่วไหลออกไปอย่างมีเลศนัย!

นี่มันเป็นการหมิ่นประมาทอย่างเห็นได้ชัดเจน!

เรื่องพวกนี้ใช้วิธีการส่งอีเมลให้กับพนักงานทุกคนในบริษัท นั่นก็พูดได้ว่า วินาทีนี้ ทุกคนต่างรู้เรื่องหมดแล้ว! แม้ว่าเธอไม่ได้เป็นคนทำข้อมูลแผนงานรั่วไหลออกมา แต่โดนกระจายข่าวขนาดนี้แล้ว เกรงว่าเธอออกไปก็คงจมน้ำลายตายแน่ๆ!

มือญาธิดาที่กุมเมาส์ไว้สั่นเทาอย่างไม่รู้ตัว เธอกัดฟันพูด ในสมองขาวโพลนไปหมด

เดิมเธอคิดว่าเรื่องพวกนี้ถือว่าผ่านไปแล้ว ซึ่งไม่คาดคิดเลยว่าจะถูกขุดออกมาพูดถึงอีกครั้ง แค่เกรงว่าการเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น เธอจะตกเป็นข้อวิพากษ์วิจารณ์ของคนอื่น

ชมพู่ลังเลสักพักถึงเอ่ยถาม “ธิดา นี่มันคงไม่ใช่เรื่องจริงมั้ง...”

ญาธิดาบดฟันกรามแน่น พร้อมทั้งสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งลุกขึ้นยืน “ฉันจะไปหาคุณภวินท์ เรื่องในแผนกต้องรบกวนแกด้วยนะ”

เธอพูดจบ ก็ผลักบานประตูออกจากห้องทำงาน

ตอนที่เดินผ่านออฟฟิศหลักของแผนกนั้น พริบตาเดียวสายตาของทุกคนก็เพ่งมองมาหาเธอ กระทั่งมีคนคอยชี้นิ้วมาทางเธอ พร้อมทั้งเอนศีรษะกระซิบพูดอะไรกัน

ญาธิดาร้อนใจราวกับไฟบรรลัยกัลป์สุมทรวง เวลานี้เธอไม่สนใจสายตาคนอื่นที่มองมาหาเธอ แค่อยากจะรีบไปถามภวินท์ที่สำนักงานCEOให้รู้เรื่องรู้ราวกันไป

เพราะนี่มันคือระบบการส่งอีเมลของบริษัท ตกลงว่าใครกล้าสร้างข่าวลือที่ไร้การไตร่ตรองให้รอบคอบขนาดนี้ เรื่องนี้ต้องมีคำอธิบายให้เธอให้ได้!

เธอตาลีตาเหลือกมุ่งหน้าไปถึงสำนักงานCEO ตอนที่เห็นลูกเกดยืนอยู่ด้านนอกนั้น หัวใจบีบรัดทันที พร้อมทั้งอ้าปากถามทันควัน “คุณลูกเกด คุณภวินท์อยู่ที่ไหนคะ?”

ลูกเกดกดเสียงต่ำเพื่อพูดกับเธอ “คุณภวินท์กำลังต้อนรับคุณอติวัณณ์อยู่ค่ะ เกรงว่าตอนนี้คงเจอเขาไม่ได้ ต้องรอสักพัก”

ญาธิดากัดริมฝีปาก ความร้อนอกร้อนใจมันกลับยิ่งเพิ่มพูลมากขึ้น

เวลานี้เอง รอให้ภวินท์ต้อนรับคุณอติวัณณ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เกรงว่าสถานการณ์จะยิ่งเปลี่ยนเป็นหนักหนากว่าเดิม แต่ตอนนี้เธอไม่สามารถเดินดุ่มๆเข้าไปในห้องรับรองสุ่มสี่สุ่มห้า

ญาธิดาได้แต่ถอยหลังไปหนึ่งก้าว “งั้นฉันขอรอสักพักนะ”

ลูกเกดพยักหน้าให้ พร้อมทั้งยกมือขึ้นแตะไหล่ของเธอ พร้อมทั้งพูดปลอบโยน “ไม่เป็นไรนะ รออีกสักเดี๋ยว”

ญาธิดาประสานมือเข้าหากัน และเดินดุ่มๆอยู่ด้านนอกห้องรับรอง ด้วยอารมณ์สับสน

ไม่นานนัก จู่ๆก็มีคนเดินเข้ามา และถามลูกเกด “คุณลูกเกด ทำไมห้องทำงานของคุณภวินท์ถึงไม่มีคนรับสาย?”

ลูกเกดรีบอธิบายทันควัน “คุณภวินท์กำลังต้อนรับคุณอติวัณณ์อยู่ค่ะ มีธุระอะไรรอสักเดี๋ยวค่อยคุยกันนะคะ”

คนคนนั้นไม่ยินยอมพร้อมทั้งยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย แถมพูดอย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา “หัวหน้าแผนกของเราขอเปิดประชุมเร่งด่วนค่ะ เพื่อให้คุณภวินท์ได้มีคำอธิบายถึงแผนงานให้พวกเรา เพราะว่าญาธิดาคนนั้นทำแผนงานรั่วไหล จนทำให้งานของแผนกเราเสียเวลาไปเปล่าๆ ความพินาศนี้พวกเราจะไม่แบกรักเอาไว้!”

ญาธิดายืนอยู่อีกทาง จู่ๆก็ได้ยินชื่อของตนเอง จนร่างกายแข็งทื่อ พร้อมทั้งหันหลังไปมองคนนั้น

คนนั้นคือผู้ช่วยหัวหน้าแผนกแผนงาน พอเห็นญาธิดา สีหน้าก็หม่นหมองลงทันควัน พร้อมทั้งพูดทั้งอย่างออกมาอย่างตั้งใจ “STN Groupไม่มีวันปล่อยคนทรยศอย่างแก!”

ลูกเกดได้ยิน พลางย่นคิ้วหากัน “ซึ่งตอนนี้ยังไม่รู้ว่าความจริงมันเป็นยังไงเลยค่ะ แต่ก็ไม่สามารถสรุปความได้รวดเร็วแบบนี้ อีกอย่างทางฝ่ายเทคนิคพูดว่าระบบของอีเมลของบริษัทถูกแฮกไปแล้ว ตอนนี้กำลังรีบฟื้นคืนระบบอย่างเร่งด่วน ฉันเชื่อว่ารอให้คุณภวินท์เสร็จงานก่อน แล้วจะอธิบายกับฝ่ายแผนงานได้ค่ะ”

เธอพูดยังไม่ทันจบ จู่ๆบานประตูห้องเลขานุการที่อยู่ด้านข้างก็ถูกผลักออก นวิยาเดินออกมาจากด้านใน สีหน้าดูย่ำแย่เล็กน้อย จากนั้นก็มองและพูดกับลูกเกด “คุณลูกเกด ทำไมคุณยังมายืนอยู่ที่นี่อีกล่ะ? รีบไปแจ้งเร็ว ทางผู้ถือหุ้นร้องขอให้เปิดประชุมด่วน”

ลูกเกดตกตะลึงทันที พลางช้อนตามองญาธิดา พร้อมทั้งสูดหายใจลึกๆ “ได้ค่ะ ฉันจะไปแจ้งข่าวเดี๋ยวนี้”

เธอพูด พร้อมทั้งก้าวฝีเท้าเดินไปยังห้องรับรองที่อยู่ด้านข้างของสำนักงานCEO และยกมือขึ้นเคาะประตู พอได้ยินเสียงตอบรับกลับมาจากด้านใน เธอถึงผลักประตูเข้าไป และปิดประตูด้วย

ญาธิดายืนอยู่ตรงนั้น มือทั้งสองข้างเย็นเฉียบโดยไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว

เธอรู้สึกตงิดๆ ว่าเรื่องมันบานปลายอย่างไร้วิธีการควบคุม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์