หลังจากครุ่นคิดครู่หนึ่ง ภวินท์ก็ยกมือขึ้นมาดึงเนคไทที่คอเสื้ออย่างหงุดหงิด อารมณ์ยุ่งเหยิงไปหมด
ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น ช่วงนี้ไม่ว่าเรื่องไหนที่มันเกี่ยวข้องกับญาธิดา ล้วนแล้วแต่ทำให้เขาหงุดหงิดและโกรธง่าย
ขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือที่วางอยู่บนโต๊ะก็ดังขึ้น ภวินท์ขมวดคิ้วหยิบขึ้นมาเหลือบมอง
ชื่อของ “นิว” เด้งขึ้นบนหน้าจอ เขาลังเลอยู่สองวินาที ก่อนจะยกมือขึ้นกดปุ่มตอบรับ
“ว่าไง”
“พี่วิน อย่าลืมนัดของเรานะ เย็นนี้ต้องมาทานอาหารที่บ้านนิว”
เขายกมือขึ้นกดๆ คิ้วและพูดน้ำเสียงบางเบา “อืม พี่รู้แล้ว”
“ถ้าอย่างนั้นเมื่อถึงเวลานิวจะไปหาพี่ที่บริษัท แล้วเราสองคนไปด้วยกันนะ”
ภวินท์ปฏิเสธโดยไม่ลังเล “ผมยังมีเรื่องทางนี้ต้องจัดการ คุณรอผมที่บ้านก็ได้ ไม่ต้องวิ่งไปวิ่งมา”
นิวราพูดอย่างค่อนข้างผิดหวัง “เอางั้นก็ได้ งั้นฉันจะรอคุณที่บ้าน”
วางสายไปแล้ว แต่ความหงุดหงิดในใจภวินท์ไม่บรรเทาลงเลย
วันนี้นิวราชวนเขาไปทานอาหารเย็นที่บ้านตระกูลวรโชติ ถ้าพูดให้ดูดีก็เป็นงานเลี้ยงของครอบครัว แต่ที่จริงแล้วก็เป็นงานเลี้ยงบังหน้า เขาไม่ต้องคิดก็เดาได้ว่าคราวนี้ชนัดพลเป็นคนสั่งแน่นอน เห็นได้ชัดว่าการสังสรรค์ครั้งนี้ต้องมีอะไรแอบแฝง
แต่เนื่องจากสถานะระหว่างเขากับนิวรา เขาจึงไม่สามารถปฏิเสธโอกาสแบบนี้ครั้งแล้วครั้งเล่า
หลังหกโมงเย็น ภวินท์ออกจากบริษัท ตรงไปงานเลี้ยงที่บ้านตระกูลวรโชติ
ปริญไม่อยู่ที่บ้าน ที่มาต้อนรับเขามีเพียงชนัดพล คุณพิมและนิวรา ดูเป็นครอบครัวที่รักใคร่กลมเกลียวกันดี เริ่มต้นจากทักทายไปจนถึงคุยกันหลังทานข้าว เหมือนเป็นครอบครัวเดียวกัน
หลังอาหารเย็น พวกเขาคุยกันที่โซฟาในห้องนั่งเล่น
“ฉันจะไปให้ม่บ้านเตรียมผลไม้ พวกคุณคุยกันไปก่อน”
คุณพิมยิ้มให้พวกเขา ลุกขึ้นและออกไป
เวลานี้ที่โซฟาเหลือเพียงภวินท์ ชนัดพลและนิวราสามคนเท่านั้น
ชนัดพลจิบชา สายตาเฉียบคมกวาดมองภวินท์ หลังจากนิ่งไปสองสามวินาที จึงค่อยๆ พูดขึ้นว่า “วิน พูดตามตรง ครั้งนี้เธอทำให้ฉันประหลาดใจ”
“หืม?” ภวินท์เลื่อนสายตาขึ้นมองชนัดพลอย่างสบายๆ “คุณลุงหมายถึงอะไรครับ”
ชนัดพลยิ้มและพูดว่า “ก็เรื่องที่STN Groupเจอเหตุการณ์ไม่สู้ดีก่อนหน้านี้ เธอสามารถพาSTN Groupผ่านมาได้ น่าชื่นชมจริงๆ!”
“คุณลุงชมเกินไปแล้วครับ พูดตามตรง มันไม่นับว่าเป็นเครดิตของผม STN Groupมีรากฐานมั่นคง ไม่ใช่สิ่งที่พวกเศษสวะจะมาสั่นคลอนได้ เรื่องนี้ผมไม่กล้ารับเครดิตไว้คนเดียวหรอกครับ”
เมื่อเขาพูดอย่างนี้ นิวราที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็เปลี่ยนสีหน้าไปฉับพลัน
เหตุการณ์นี้เรียกได้ว่าเป็นฝีมือของเธอกับพี่ชายสองคน ตอนนี้เรื่องราวต่างๆ เลยเถิดมาถึงจุดนี้ แล้วเธอก็ถูกภวินท์เรียกว่าเป็นเศษสวะ...
แม้ว่าเธอจะค่อนข้างรู้สึกอึดอัดใจ แต่เธอยังคงยกยิ้ม กอดแขนของภวินท์แน่น “พี่วิน อย่าถ่อมตัวเลย ถ้าไม่มีพี่ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าSTN Groupจะเป็นยังไง!”
ภวินท์ได้ยินแล้วกระตุกยิ้มมุมปากไม่ตอบอะไร
เวลานี้ ชนัดพลซึ่งนั่งตรงข้ามก็กระแอมไอไปสองครั้ง สุดท้ายจึงตัดสินใจตัดเข้าประเด็น “ยังไงก็เถอะ วิน คราวนี้ทางบริษัทของลุงมีโปรเจ็กต์หนึ่ง เธอว่าเธออยากคว้าโอกาสนี้ไว้ไหม...”
“คุณลุง ตอนนี้บริษัทของผมกำลังประสบปัญหาวุ่นวาย และการสูญเสียก็ไม่ใช่น้อย ไม่ต้องพูดถึงการร่วมธุรกิจอื่นๆ ช่วงนี้ เรายังต้องระมัดระวังเรื่องบัญชีในบริษัท เพราะงั้นจึงได้แต่หวังว่าต่อไปเราจะมีโอกาสร่วมธุรกิจกันในอนาคตครับ”
ภวินท์พูดคำเหล่านี้อย่างเนิบช้าไม่เร่งรีบ เป็นการบังคับให้ชนัดพลกลืนคำพูดที่เหลือกลับไป แน่นอนว่าชนัดพลมีสีหน้ามืดมนและไม่พอใจ...
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...