เมื่อคิดได้ว่าต้องไปเยี่ยมคุณย่า ญาธิดาตบหัวตัวเองทันที จู่ ๆ เหมือนฉุกคิดอะไรออก เธอจึงลงจากเตียง ใส่รองเท้าและวิ่งออกไปด้านนอก
ภวินท์ตกตะลึงทันที ซึ่งไม่ทันได้รู้เรื่องว่าเธอต้องการจะทำอะไร ส่วนตัวคนก็วิ่งหนีออกไปแล้ว
ญาธิดาวิ่งเหยาะๆ ลงจากชั้นบน และพูดอย่างรีบร้อน “ป้าจันทร์ พัสดุของฉันมาส่งวันนี้ ป้าได้รับไว้ให้ไหมคะ?”
ป้าจันทร์ได้ยินแล้ว จึงพยักหน้าทันที “รับไว้ให้แล้วค่ะ รับไว้ตั้งหลายกล่อง วางเอาไว้ตรงระเบียงเล็กค่ะ”
ญาธิดาได้ยิน ไม่พูดพร่ำทำเพลง รีบวิ่งไปทางระเบียงเล็กทันที
เมื่อเห็นว่าตรงระเบียงมีกล่องพัสดุมาอยู่บนนั้นอย่างครบทุกกล่อง เธอจึงแอบได้ถอนหายใจโล่งอกทันที
นี่เป็นของขวัญที่เธอซื้อเตรียมไว้ให้คุณย่า เพราะว่าไม่รู้ว่าอันไหนจะเหมาะสมกว่ากัน ดังนั้นเธอเลยซื้อมาหลายอย่าง
ภวินท์เดิมตามลงมาถึงชั้นหนึ่ง เมื่อมาถึงระเบียงเล็ก ก็เห็นว่ากำลังแกะกล่องพัสดุอย่างขะมักเขม้นและแสดงสีหน้าหมดอารมณ์ทันที “นี่คุณกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย?”
ญาธิดาได้ยินแล้ว จึงรีบหันตัวกลับมาโดยใช้ร่างกายตัวเองเป็นการบังกล่องพัสดุเอาไว้ และพูดอย่างเขินอาย “ฉัน...นี่คือของที่ฉันซื้อเป็นของขวัญให้คุณย่าค่ะ”
ภวินท์เห็นลักษณะท่าทางของเธอแล้ว เกิดสนใจขึ้นมาทันที “ของขวัญอะไร?”
“ไม่บอกคุณหรอก พรุ่งนี้คุณก็จะรู้เองแหละ”
ญาธิดาพูดไป พร้อมทั้งยื่นมือออกมาเพื่อผลักเขาให้ออกไปด้านนอก
ญาธิดาแสดงพฤติกรรมท่าทางราวกับสาวน้อย จนภวินท์อดใจไม่ไหวจนต้องคลี่ยิ้มออกมา “ได้ ผมจะรอดูแล้วกัน”
เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มเดินไปแล้ว ญาธิดาถึงได้ถอนหายใจโล่งอกทันที เธอเดินกลับมาที่ระเบียงเล็ก จัดการแกะกล่องพัสดุต่อ และใช้กล่องของขวัญห่อไว้ หลังจากทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถึงได้ถอนหายใจโล่งอกยาวๆ
ทุกอย่างได้เตรียมพร้อมไว้หมดแล้ว ตอนนี้ก็รอเจอคุณย่าในวันพรุ่งนี้แล้ว!
เช้าตรู่วันรุ่งขึ้น นาฬิกายังไม่ทันปลุกญาธิดาก็ตื่นแล้ว เธอรีบล้างหน้าล้างตาอย่างรีบร้อน หัวใจเต้นโครมครามตั้งแต่เช้าตรู่ พร้อมทั้งตื่นเต้นไม่น้อยไปกว่าการเข้าสอบเลย
ทุกอย่างได้จัดเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว ญาธิดาจึงได้ลงจากชั้นบนเพื่อมากินอาหารเช้า เพิ่งจะเดินลงมาจากชั้นบน เธอก็เห็นภวินท์กำลังนั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะกินข้าว ซึ่งกำลังนั่งดื่มกาแฟและกำลังฟังพายุรายงานเรื่องอะไรสักอย่าง
เมื่อเห็นว่าเธอเดินลงมาแล้ว ภวินท์พยักหน้าเล็กน้อย พายุรู้งาน จึงถอยไปอีกทาง
ภวินท์ค่อยๆ พูด “กินข้าวเช้าก่อนนะ อีกสักเดี๋ยวพวกเราค่อยเดินทางกัน”
“อ้อ”
ญาธิดานั่งอยู่ด้านหน้าโต๊ะกินข้าวใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว แม้เผชิญหน้ากับอาหารอันน่าอร่อย แต่กลับไม่รู้สึกหิว เธอหยิบขนมปังขึ้นมางับไปสองคำ ภวินท์ก็วางถ้วยกาแฟ และจ้องมองเธอด้วยรอยยิ้มแต่ไม่พูดว่าอะไร
ญาธิดาตอบสนองกลับด้วยการ รีบลูบแก้มตัวเอง “ทำไมเหรอคะ? มีอะไรติดอยู่บนหน้าฉันหรือเปล่าคะ?”
ภวินท์ราวกับอารมณ์ไม่เลวเลยทีเดียว พลางย้อนถามกลับ “นี่คุณตื่นเต้นมากใช่มั้ยเนี่ย?”
“มะ...ไม่มีนะคะ” ญาธิดารีบตอบปฏิเสธทันควัน ทว่าใครจะรู้เล่าว่าตอนคนกาแฟให้เข้ากันนั้นเผยอาการกระวนกระวายใจออกมา
ภวินท์กระตุกริมฝีปาก “วางใจเถอะ คุณย่าท่านใจดีมาก ไม่กินคุณเข้าไปหรอก”
เขาพูดไปพร้อมกับลุกขึ้น พลางมองพายุที่อยู่ด้านข้าง
พายุเข้าใจทันที และหยิบเสื้อผ้าที่อยู่ด้านข้างมาด้วย “คุณผู้หญิงครับ รอคุณทานข้าวเสร็จแล้ว ช่วยเปลี่ยนเป็นชุดนี้ด้วยครับ”
เซทผ้าทวีตสีชมพูหวานละมุนทั้งชุด ทั้งสง่างามและอ่อนโยน การแต่งตัวตามแบบฉบับสตรีคุณหนูผู้รากมากดี
ญาธิดากัดไข่ต้มไปหนึ่งคำ พลางก้มหน้าก้มตามองชุดสีขาวที่อยู่บนตัวของตนเอง และย้อนถามกลับ “หรือว่าฉันใส่แบบนี้แล้วมันดูทุเรศมากใช่ไหมคะ?”
พายุตอบตามความเป็นจริง “ไม่ได้ทุเรศครับ เพียงแต่นายท่านท่านชอบสไตล์นี้มากกว่าครับ”
เมื่อได้ยินเขาพูดตามนั้น ญาธิดารีบจัดการยัดไข่ต้มที่เหลืออีกครึ่งเข้าปากทันที และหยิบชุดนั้นมา “ฉัน...จะไปเปลี่ยนเดี๋ยวนี้ค่ะ!”
เมื่อสตาร์ทรถแล้ว เธออดใจไม่ไหวจนต้องมองภวินท์ที่อยู่ด้านข้าง พลางเอ่ยปากสอบถามไป “คุณย่ามีความเคยชินอะไรไหม ต้องการให้ฉันระวังอะไรเป็นพิเศษไหมคะ?”
ภวินท์รู้สึกตลก “คุณพูดว่าไม่ตื่นเต้นไม่ใช่เหรอ?”
ญาธิดาโดนเขาถามกลับมาเช่นนี้ ถึงกลับอ้ำ ๆ อึ้งๆ ตอบ “ฉัน...ไม่ได้ตื่นเต้นจริงๆ ค่ะ แต่สิ่งที่ควรถามก็ต้องถามให้รู้เรื่องกันชัดเจนไปค่ะ”
ภวินท์กระตุกมุมปาก พลันตอบด้วยน้ำเสียงปกติ “ก็ไม่มีอะไรที่ต้องระมัดระวังนะ ประเด็นสำคัญที่สุดก็คือความประทับใจเมื่อแรกพบ”
เมื่อได้ยินภวินท์พูดเช่นนี้แล้ว ญาธิดากลับรู้สึกตื่นเต้นเข้าไปใหญ่
ถ้าคุณย่าพูดว่ามีอะไรที่ชื่นชมเป็นพิเศษ เธอก็ต้องระวังไว้ให้มาก พยายามเข้า อาจจะเป็นความประทับใจแรกนี่แหละ ที่ไม่สามารถพูดได้อย่างชัดเจน
มีหลานที่ยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ คุณย่าก็ต้องไม่ได้ย่ำแย่ไปขนาดไหนหรอก ส่วนเธอยังเป็นเพียงปุถุชนคนทั่วไป ไม่รู้ว่าจะทำให้คุณย่ายอมรับได้หรือไม่
ญาธิดาเกิดหมดความคิดทันที จึงเอนหลังพิงเบาะนั่ง และจ้องมองนอกกระจกด้วยความรู้สึกหมดหวังบ้าง
ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมงนัก รถยนต์ก็มาถึงหมู่บ้านมหาเศรษฐีแถบชานเมือง และวนบนทางลาดชันภูเขาอยู่หลายรอบ ในที่สุดก็มาจอดด้านหน้าคฤหาสน์ตระกูลสถิรานนท์ที่อยู่ตรงเนินเขา
เมื่อมองผ่านกระจกรถแล้ว ญาธิดาจ้องมองสถาปัตยกรรมในสไตล์ดั้งเดิมอันทรงพลังที่ตั้งตระหง่านอยู่ด้านนอก พลันถอนหายใจอย่างไม่รู้ตัวทันที
ที่แท้ โลกของคนมีเงินนั้น เป็นสิ่งที่เธอแทบจินตนาการไม่ถึงเลยจริงๆ
หลังจากเปิดประตูลงจากรถเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ญาธิดา ก็เดินไปยังที่เก็บของหลังรถทันที และเอาของขวัญที่เธอได้จัดเตรียมไว้ก่อนแล้วหยิบมันออกมา
พายุเข้ามาช่วย เมื่อเห็นว่ากล่องมีทั้งเล็กทั้งใหญ่ไม่ซ้ำกันเลย พลางถอนหายใจทันที “คุณนาย คุณเอาอะไรมาเนี่ยครับ!”
“ของขวัญที่เอามาให้คุณย่าค่ะ!” ญาธิดาตอบอย่างเป็นทางการ “มีเครื่องนวด มีผ้าห่มแคชเมียร์ ยังมีอันนี้อีกค่ะ ถังแช่เท้า! ดูเอาใจเป็นพิเศษใช่หรือเปล่าคะ?”
พายุถึงกับถอนหายใจทันที อดย้อนถามกลับไม่ได้ “คุณผู้หญิงคุณไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหมครับเนี่ย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...