ในตอนนี้เอง ด้านนอกประตูมีเสียงดังจอแจ ทันใดนั้น ประตูห้องพักคนไข้ถูกผลักเปิดออก ญาธิดากับนิวราหันไปมองตามเสียงพร้อมกันโดยบังเอิญ
ภวินท์ยืนอยู่หน้าประตู สีหน้าจริงจัง ทันทีที่เห็นญาธิดา สีหน้าดูเย็นชากว่าเดิม
เขาก้าวยาวๆเข้ามา ก้มมองลงดูญาธิดา ถามด้วยน้ำเสียงเยือกเย็นว่า “ คุณทำอะไรที่นี่”
ญาธิดาสูดหายใจลึกๆ ไม่ทันอ้าปากได้อธิบาย นิวราที่อยู่ข้างๆพูดว่า “ธิดามาเยี่ยมนิว ทำไมพี่วินจู่ ๆถึงมาที่นี่”
“พี่มาเยี่ยมนิว”
ขณะที่ภวินท์พูด เดินไปตรงหัวเตียง ขยับหมอนที่อยู่ด้านหลังของนิวราแต่งให้เข้าที่ดูเป็นธรรมชาติ เพื่อให้หล่อนได้พิงสบายมากขึ้น “ วันนี้นิวรู้สึกดีขึ้นหน่อยไหม”
สำหรับนิวรา น้ำเสียงและท่าทางของเขาดูอบอุ่นมากอย่างเห็นได้ชัด
ญาธิดานั่งอยู่ด้านข้าง ช่วงเวลานั้นรู้สึกว่าตัวเองเป็นส่วนเกิน ไม่รู้จะวางตัวยังไง
ดูออกว่า ภวินท์รักนิวรามากจริงๆ
เธอยิ้มแหยๆที่มุมปาก ลุกขึ้นยืน มองไปที่นิวราพูดว่า “ คุณนิว ถ้าไม่มีธุระอะไรแล้ว ฉันกลับก่อนนะ ไม่รบกวนคุณแล้วนะคะ”
เมื่อนิวราได้ยิน พยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ “ ได้วันอื่นอย่าลืมมาเยี่ยมฉันอีกนะ”
ญาธิดาพยายามที่จะยิ้ม หันตัวเดินตรงไปที่ประตู
เมื่อออกจากห้องพักคนไข้ เธอลงลิฟต์มาที่ชั้นล่างของโรงพยาบาล เดินตรงไปข้างหน้าอย่างใจลอยเล็กน้อย แสดงความเจ็บปวดที่เศร้าโศกออกมา
เธอควรจะดูออกตั้งแต่แรกถึงจะถูก ควรอยู่ในตำแหน่งของตัวเองตั้งแต่แรก ตำแหน่งของเธอกับนิวราที่อยู่ในใจของภวินท์ ไม่มีทางที่จะเปรียบเทียบกันได้เลย
เธอเดินผ่านสวนหย่อมของแผนกแอดมิท กำลังจะเดินตรงไปที่ประตูทางเข้าโรงพยาบาล มือถือของเธอจู่ ๆก็ดังขึ้นมา
เธอสูดหายใจลึกๆ หยิบออกมาดู เห็นชื่อของ“ ภวินท์” กะพริบอยู่บนหน้าจอ ทันใดนั้นก็รู้สึกอึดอัดขึ้นมา
ลังเลอยู่เล็กน้อย สามวินาทีต่อมา เธอกัดริมฝีปากล่างและตัดใจกดปุ่มปฏิเสธ
แต่ไม่คิดว่า ตัดสายไปไม่นาน มือถือก็สั่นขึ้นมาอีก ยังเป็นภวินท์ที่โทรเข้ามา
ญาธิดารู้สึกโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ กัดฟันอยู่ชั่วครู่ กดปุ่มรับสาย“ ฮัลโหล นายจะทำอะไรกันแน่”
ปลายสายเงียบไปทันที ไม่นานก็มีเสียงผู้ชายที่ดูน่ากลัวจนตัวสั่นดังเข้ามา“ ฉันทำอะไร เรื่องพวกนั้นระหว่างคุณกับคิริน ความจริงมันเกิดอะไรขึ้น”
คิรินเหรอ
ญาธิดาตกใจเล็กน้อย อารมณ์โกรธก็หายไปในทันที “ฉันกับคิรินทำไมละ ”
น้ำเสียงของผู้ชายที่ซ่อนอารมณ์โกรธไว้เล็กน้อย“เป็นยังไงละคุณเองไม่รู้งั้นเหรอ ปาปารัสซี่เอารูปมาแบล็คเมล์ฉัน คุณยังไม่รู้อีกเหรอ”
ญาธิดารู้สึกประหลาดใจ สับสนงุนงง ไม่ทันรอให้เธอเอ่ยปากพูดอะไร เสียงปลายสายก็ดังขึ้นมาอีกว่า “ คุณอยู่ที่ไหน ผมจะไปหาคุณ พวกเราต้องคุยกันต่อหน้า ”
ญาธิดาลังเลอยู่ชั่วครู่มองดูรอบๆพูดเบาๆว่า “ ฉันอยู่ที่สวนหย่อมด้านหลังของแผนกแอดมิท ตรงนั้นมีรูปปั้นหนึ่งอัน”
เธอเพิ่งจะพูดจบ ไม่กี่วินาที โทรศัพท์ฝั่งนั้นก็ตัดสายไปเลย
ไม่ถึงห้านาที ภวินท์ก็ได้เดินมาถึงสวนหย่อม เห็นผู้หญิงกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวที่ถนนเล็กๆที่อยู่ข้างรูปปั้น เขาก้าวขาเดินเข้าไป เมื่อนึกถึงรูปถ่ายเหล่านั้น ก็อารมณ์ฉุนเฉียวอย่างบอกไม่ถูก
ญาธิดาเงยหน้ามอง เห็นภวินท์เดินเข้ามา ลุกขึ้นยืนทันที ไม่ทันได้เอ่ยปากถาม ก็เห็นภวินท์ยื่นมือมา ยื่นซองจดหมายให้หนึ่งซอง
เธอลังเลครู่หนึ่ง ยื่นมือไปรับ
เปิดซองจดหมาย ด้านในเป็นรูปถ่ายที่ซ้อนกันหนาอยู่ปึกหนึ่ง เป็นการแอบถ่ายเธอกับคิรินทั้งหมด มีภาพที่คิรินจับมือของเธอที่หน้าประตูสตูดิโอ ก็มีภาพที่เธอขึ้นรถสปอร์ตของคิรินที่สโมสรรถแข่ง ยังมีภาพที่เลิกกองตอนดึกเขาส่งเธอกลับบ้าน..............
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...