มองออกว่าภวินท์นั้นสงสัย พายุก็ลังเลอยู่ครู่ และพูดขึ้นเสียงเบา “ใช่ เป็นเมืองY และเรื่องนี้ผมก็รู้”
ตาของภวินท์น่ากลัวมากขึ้น พลางเหลือบมองไปทางเขา “ทำไมนายถึงรู้? ”
พายุลังเลอยู่ครู่ และพูดขึ้น “อัญมณีเป็นแฟนของผม งานแสดงของเธอที่เมืองYนั้นไม่ค่อยราบรื่น เดิมที่ผมอยากไปหาเธอ แต่ว่าปลีกตัวไปไม่ได้ เพราะงั้นที่ชายเธอถึงได้ไปหา”
ได้ยินดังนั้น ร่องรอยของความสงสัยแว๊บเข้ามาในดวงตาของภวินท์ ชั่วพริบตา ไม่นานก็จางหายไป
ครู่นึง เขาก็มองพายุอย่างลึกซึ้ง และพูดอย่างเย็นชา “ไปเถอะ”
พายุติดตามเขามานานหลายปี มีค่าพอที่จะให้เชื่อใจ
แต่ว่าฝั่งของธีทัต ก่อนที่จะหาญาธิดาเจอ ก็ยังคงต้องส่งคนไปคอยจับตาดูเขา!
สามวันติด ลูกน้องของภวินท์แทบจะพลิกเมือง J ทั้งเมืองตามหา แต่ก็ยังคงไม่พบข่าวคราวของญาธิดาแม้แต่น้อย
ห้องทำงานประธาน STN Group
พายุเปิดประตูห้องทำงาน พลางมองชายหนุ่มสีหน้าเหนื่อยล้า นั่งอยู่หน้าโต๊ะทำงาน อย่างประหลาดใจ
เขาไม่เคยเห็นประธานของตนเป็นแบบนี้มาก่อน
เมื่อได้ยินเสียงฝีเท้า ภวินท์จึงเงยหน้า เมื่อเห็นพายุ นัยน์ตามีประกาย และเอ่ยถาม “มีข่าวคราวบ้างมั้ย? ”
พายุชะงัก และส่ายหน้า “ยังไม่มีครับ”
ดวงตาที่เป็นประกายมืดมนลงทันที สีหน้าของภวินท์กลับไปเย็นชา เขายกมือขึ้น มานวดหว่างคิ้ว และไม่ได้พูดอะไรต่อ
พายุสูดหายใจเข้าลึก และพูดขึ้น “คุณภวินท์ ที่แผนกต้อนรับโทรมา บอกว่าคุณคิรินกับผู้จัดการของเขามา และขึ้นลิฟต์มาแล้ว ไม่นานก็มาถึง”
ภวินท์ขมวดคิ้ว “เขามาทำไม? ”
“บอกว่ามาคุยเรื่องรายละเอียดของสัญญา คุณต้องการให้ ฝั่ง redeur นั้นรับหน้ามั้ย”
“ไม่ต้อง” ภวินท์พูดด้วยน้ำเสียงนิ่งๆ “นายไปต้อนรับ แล้วจัดห้องรับแขกให้พวกเขา เดี๋ยวฉันไป”
“ครับ”
พายุหันหลังเดินไป วินาทีที่ปิดประตู ในห้องมีเหลือเขาอยู่คนเดียว
ในใจของภวินท์หดหู่เล็กน้อย เขาสูดหายใจเข้าลึก เมื่อนึกถึงว่าไม่มีข่าวของญาธิดา ก็เกิดความวิตกกังวลขึ้นเรื่อยๆ
ก่อนที่ญาธิดาจะหายตัวไปนั้นไปพบกับคิริน ไม่แน่เธออาจจะได้รู้อะไรมาจากคิรินก็เป็นได้
จากนั้น เมื่อรอให้พายุจัดแจงที่ให้คิรินกับผู้จัดการของเขาแล้ว เขาถึงลุกขึ้น และออกมาจากห้องทำงานเดินไปยังห้องรับแขก
ประตูเปิดออก เขาก็เห็นท่าทางของคิรินนั่งอยู่บนโซฟาตามอำเภอใจ ชายผู้นั้นใบหน้าหล่อเหลา แต่คิ้วกลับยุ่งเหยิงไปหมด
ส่วนผู้จัดการพี่เอที่อยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นเขาเข้ามา ก็ลุกขึ้นยืนทันที “คุณภวินท์ สวัสดีค่ะ ดิฉันคือผู้จัดการของคิริน เรียกฉันว่าพี่เอก็ได้ค่ะ”
เหลือบมองมือที่พี่เอยื่นออกมา ภวินท์ก็พยักหน้าตอบรับอย่างนิ่งๆ ไม่ได้จับมือเธอ และเดินตรงไปนั่งลงบนโซฟาตรงหน้าที่คิรินนั่งอยู่
พี่เอกระอักกระอ่วนเล็กน้อย และกลับไปนั่งที่โซฟา และให้สายตากับคิริน
คิรินมองไปทางภวินท์ และเชิดหน้าใส่อย่างขี้เกียจ ไม่ได้พูดอะไร
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...