เจนนิเฟอร์ขมวดคิ้วเล็กน้อย นัยน์ตาประกายสะท้อนด้วยความหงุดหงิดเล็กน้อย เดิมทีแล้วเธออยากหาเหตุผลในการไล่นิวรา คาดไม่ถึงว่าหล่อนจะไม่จบไม่สิ้น ความรู้สึกดีอันน้อยนิดสุดท้ายที่มีต่อหล่อนก็หายไปหมด
เธอไม่ชอบคนที่มาเอะอะโวยวายต่อหน้าเธอมาตลอด และท่าทางนิวราที่ปะทะกับผู้ช่วยเธอเมื่อครู่นี้ ไม่เหมือนผู้ดีเลย บอกได้เลยว่าไม่มีความสง่างาม
นิวราเห็นเจนนิเฟอร์ไม่พูดเป็นเวลานาน จึงเดินไปข้างหน้า ยิ้มให้เธอแล้วพูดขึ้น “เจนนิเฟอร์ เราไม่คุยเรื่องเมื่อกี้กันแล้ว ตาคุณมีแววที่สุด น่าจะมองออกใช่ไหมว่าฉันเหมาะกับสไตล์คอลเลคชั่นครั้งนี้ของพวกคุณ?”
เจนนิเฟอร์มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ขมวดคิ้วเล็กน้อย สีหน้าดูไม่ดีมากแล้ว และในขณะนี้ ทางด้านหลังก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
เจนนิเฟอร์หันหน้าไปมอง เห็นญาธิดาสวมชุดกระโปรงยาวกำมะหยี่สีแดงเข้มตัวนั้นเดินออกมาจากด้านใน ราวกับว่าเธอมีแสงอ่อนๆในตัวเอง เมื่อปรากฏตัว ก็ดึงดูดสายตาทุกคนทันที
ทันใดนั้นในวินาทีนั้นก็สงบลง แม้แต่ธีทัตที่ยืนอยู่ข้างตู้กระจกมาตลอดก็ตกตะลึง พูดไม่ออกเป็นเวลานาน
ชุดกระโปรงตัวนั้น เหมือนสร้างมาเพื่อญาธิดาโดยเฉพาะ เนื้อกำมะหยี่สีแดงขับผิวขาวเนียนละเอียดอ่อนของเธอออกมา ทุกจีบและความโค้งของปลายกระโปรงให้ความรู้สึกสง่างามอย่างบอกไม่ถูก ขนาดเหมาะสม มีสง่าราศีดีเลิศ มีความสูงส่งอย่างบอกไม่ถูกโดยปริยาย
นิวราที่ยืนอยู่ตรงประตูก็ยิ่งตกใจ เธอได้สติกลับมาอย่างรวดเร็ว มองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้า ไม่กี่วินาทีต่อมาก็เกิดปฏิกิริยาในทันที
ผู้หญิงคนนี้ คาดไม่ถึงว่าจะเป็นญาธิดา!
ไฟนิรนามลุกโชนขึ้นมาในหัวใจทันที เหมือนก้อนหินขนาดใหญ่ตกลงมากะทันหัน กระแทกหน้าอกเธอโดยตรง ทำให้เธอหายใจค่อนข้างลำบาก
เป็นเธอได้ยังไง? เธอหายไปแล้วไม่ใช่เหรอ? กลับมาทำไมอีก? แล้วทำไมเธอเปลี่ยนแปลงมากขนาดนี้!
คำถามมากมายไหลเข้ามาในสมองนิวรา เหมือนกับวุ่นวายไปหมด ความไม่ชัดเจนนับไม่ถ้วน
เจนนิเฟอร์เห็นการแต่งตัวนี้ของญาธิดา ก็ประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่กี่วินาทีต่อมา เธอก็ตอบสนอง สีหน้ามีความชื่นชม พยักหน้าเล็กน้อย หันไปมองนิวราทางด้านนั้น กระแอมในลำคอ ก่อนที่จะเอ่ยปาก “ขอโทษด้วยค่ะคุณนิว เธอก็คือนางแบบของฉัน”
นิวราได้ยินก็หันหน้ามาขวับ เบิกตากว้างมองเจนนิเฟอร์ด้วยความตกใจ “คุณว่าไงนะ?”
เจนนิเฟอร์หัวเราะเบาๆ พูดซ้ำอีกครั้งอย่างไม่รู้จักเบื่อ “เธอคือนางแบบของฉัน”
เมื่อญาธิดาเดินเข้าไปใกล้ เมื่อเห็นนิวราที่ยืนตรงประตู นัยน์ตาก็ประกายสะท้อนด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย แต่ไม่นาน สีหน้าเธอก็กลับมาเป็นปกติ เดินไปข้างหน้าพร้อมกับธีทัต และออกตัวทักทายเธอก่อน
“คุณนิว ไม่เจอกันนานเลยนะคะ”
นิวรากระตุกมุมปาก ด้วยสีหน้าไม่เต็มใจ ชะงักนิ่งไปไม่กี่วินาที เธอก็พูดเสียงเรียบ น้ำเสียงแฝงไปด้วยความเยาะเย้ย “ไม่เจอกันนานจริงๆ ห้าปีแล้ว ไม่รู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาคุณใช้ชีวิตเป็นยังไงบ้าง?”
ไม่รอให้ญาธิดาเอ่ยปากตอบ ธีทัตก็ยื่นมือไปโอบไหล่เธอ มองนิวราด้วยสายตาหนักแน่น พูดเน้นทีละคำ “ขอบคุณคุณนิวที่เป็นห่วง ผมกับธิดาสบายดี ครอบครัวมีความสุขดีมาก”
นิวราได้ยินเช่นนี้ นัยน์ตาก็เปล่งประกายเล็กน้อย สายตากวาดมองไปที่มือธีทัตบนไหล่ของญาธิดา ดวงตาก็หม่นหมองเล็กน้อย
คาดไม่ถึงว่า สุดท้ายแล้วพวกเขาจะคบกันจริงๆ
นิวรากระตุกมุมปาก นัยน์ตาประกายสะท้อนผ่านด้วยการยิ้มเยาะอย่างเสียดสี เธอกวาดมองญาธิดา จากนั้นก็มองธีทัต พูดขึ้นด้วยความไม่จริงใจ “พวกคุณคบกัน ฉันก็ไม่ได้ประหลาดใจเท่าไร ยังไงแล้วตอนแรกพวกคุณก็สนิทกันมากนี่”
ธีทัตยิ้ม พูดขึ้นอย่างไม่ปกปิดสักนิด “ตอนนี้ก็สนิทกันมากเหมือนกัน”
ขณะที่พูด เขาก็หันไปมองญาธิดาที่อยู่ข้างกาย ทั้งคู่มองหน้าและยิ้มให้กัน ความรักอันหวานแหววในดวงตาเหมือนจะเอ่อล้นออกมา
นิวราขมวดคิ้ว สายตาจ้องมองชุดราตรีบนตัวญาธิดา นัยน์ตาฉายแววอิจฉาริษยา เธอหลุบตาลงมองแหวนแต่งงานบนมือตัวเอง สีหน้าก็ยิ่งแย่ลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...