เธอช้อนตา สบตามืดมนของชายหนุ่ม ฝืนยิ้มพูดเบาๆ “ที่แท้คำพูดที่คุณกล่าวบนเวทีก็หมายถึงเรื่องนี้……”
เห็นสีหน้าท่าทางโล่งใจของหญิงสาว ภวินท์ก็ขมวดคิ้ว สีหน้ายิ่งไม่พอใจเล็กน้อย“ไม่งั้นเธอคิดว่าอะไรล่ะ?”
ไม่รอให้เธอเอ่ยปากตอบ นัยน์ตาเขาเกิดความแปรปรวนอย่างรวดเร็ว ถามกลับด้วยเสียงเย็นชา “หรือว่า คุณยังมีเรื่องอื่นปิดบังฉันอีก?”
ได้ยินเช่นนี้ สีหน้าญาธิดาก็ซีดอย่างรวดเร็ว นัยน์ตาเธอประกายสะท้อนด้วยความลุกลี้ลุกลน เอ่ยปากส่ายหน้าปฏิเสธโดยไม่รู้ตัว “ไม่มี”
แต่เพราะคำตอบของเธอที่ไม่ลังเลอะไรเลย ทำให้ภวินท์ยิ่งมั่นใจการคาดเดาในใจ
เธอมีเรื่องปิดบังเขาอยู่แน่นอน!
สีหน้าภวินท์ก็ไม่พอใจขึ้นมา เม้มปากเป็นเส้นตรง กำลังจะถามต่อ ใครจะไปรู้ว่า จู่ๆญาธิดาก็เอื้อมมือออกมาดันมือเขาไว้อีกด้านหนึ่งในทันที
จากนั้น เธอก็เลื่อนเก้าอี้อย่างลุกลี้ลุกลน เว้นระยะห่างของทั้งคู่ แล้วพูดเสียงเย็นชา “คุณออกไปซะ ถ้าคนอื่นมาเห็นเข้า ผลที่ตามมาไม่ค่อยดี!”
ภวินท์เหลือบมองเธออย่างเย็นชา จับความลุกลี้ลุกลนบนใบหน้าเธอได้ ถามด้วยเสียงเย็นชา “ญาธิดา เธอกำลังกลัวอะไร?”
ญาธิดากัดปาก มือที่วางบนโต๊ะกำหมัดแน่นโดยไม่รู้ตัว “ฉันไม่ได้กลัวอะไร”
“งั้นเหรอ?” ภวินท์ก้าวไปตรงหน้าเธอทันที ดวงตาคมปกคลุมไปด้วยความเยือกเย็น “แต่เธอมีเรื่องปิดบังฉันอยู่ ไม่ใช่หรือไง?”
ญาธิดารู้สึกถึงความแข็งกร้าวของชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว ก้นบึ้งจิตใจรู้สึกอึดอัด แววตาสั่นไหว กวาดตามองโทรศัพท์ข้างโต๊ะที่สว่างขึ้นมาโดยบังเอิญ รูปพื้นหลังเป็นรูปหมู่สามคนของเธอ อีธาน และเอลล่า
ในตอนนี้ ก้นบึ้งหัวใจญาธิดายิ่งลุกลี้ลุกลน
ภวินท์จับสายตาเธอได้อย่างรวดเร็ว ช้อนสายตาขึ้นมองตาม เมื่อเห็นรูปพื้นหลังบนหน้าจอโทรศัพท์ สีหน้าก็กลายเป็นยิ่งซับซ้อนมากขึ้นเรื่อยๆ
เขารีบเดินไปข้างหน้าหนึ่งก้าว คว้าข้อมือเธอไว้ แล้วถามเสียงเย็นชา “อีธานกับเอลล่าใช่……”
ไม่รอให้เขาพูดจบ นอกประตูก็มีเสียงเคาะดังขึ้นกะทันหัน จากนั้นเสียงอ่อนโยนของธีทัตก็ดังมาจากนอกประตู “ธิดา คุณอยู่ในนี้ไหม?”
ญาธิดาตัวเกร็ง เผลอผลักมือภวินท์ที่จับเธออยู่โดยไม่รู้ตัว รีบเดินไปที่ประตูอย่างรวดเร็ว “ธีทัต……”
ประตูเปิดออก ธีทัตปรากฏตัวที่ประตู บนหน้ามีรอยยิ้มอ่อนโยนเหมือนเคย ถามขึ้นเบาๆ “เห็นข้อความที่ฉันส่งให้คุณเมื่อกี้หรือยัง?”
เขาเพิ่งพูดจบ หางตาก็กวาดมองด้านหลัง ช้อนสายตาขึ้นเล็กน้อย ก็เห็นภวินท์ยืนอยู่ไม่ไกล สีหน้าเขาก็ไม่พอใจในทันที “ธิดา เขาอยู่ที่นี่ได้ไง?”
ญาธิดาหัวใจตึงเครียด ยื่นมือไปควงแขนธีทัต แล้วหันไปมองภวินท์ ยิ้มอ่อนโยน แล้วพูดด้วยน้ำเสียงเคารพและเป็นธรรมชาติว่า “คุณภวินท์มาแสดงความยินดีที่ฉันได้รับรางวัลน่ะ”
เมื่อธีทัตได้ยิน สีหน้าก็ผ่อนคลายขึ้นมาก ช้อนสายตาขึ้นมองภวินท์ แล้วพูดช้าๆ “คุณภวินท์ ขอบคุณมากครับ”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น ก็หรี่ตาเล็กน้อย กวาดสายตามองไปที่ญาธิดา แต่ไม่พูดสักประโยคเดียว
ญาธิดาแกล้งทำเป็นไม่เห็นอะไรทั้งนั้น หันไปมองธีทัต แล้วพูดด้วยน้ำเสียงสนิทสนม “จริงสิ ธุระที่บริษัทจัดการเสร็จแล้วใช่ไหม?”
ธีทัตยกยิ้ม “เสร็จหมดแล้ว เลยรีบมารับคุณโดยเฉพาะ เด็กน้อยสองคนอยู่ในรถ ฉันกลัวพวกเขาวิ่งซน เลยไม่ให้พวกเขาลงรถมาด้วย”
ขณะที่พูด เขาก็ยกมือขึ้น ปัดปอยผมข้างแก้มญาธิดาทัดไว้หลังหู แววตาเต็มไปด้วยความรักใคร่
“ร้านอาหารล่ะ? จองเรียบร้อยแล้วใช่ไหม? เราไปตอนนี้ คงไม่ทัน……”
ธีทัตพยักหน้าให้เธอด้วยสายตาเอาอกเอาใจ ยกมือขึ้นบีบแก้มเธอเบาๆ แล้วพูดขึ้น “ไม่ต้องห่วง ฉันเตรียมเรียบร้อยแล้ว รีบไปเช็ดหน้า เครื่องสำอางบนหน้าเช็ดไปครึ่งเดียว เหมือนลูกแมวตัวลายเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...