หลุยส์เดินไปหา นั่งข้างเขาโดยตรง สายตากวาดมองไวน์แดงบนโต๊ะทั้งตั้งใจและไม่ได้ตั้งใจ สายตาอึ้งทันที
เขายื่นมือออกไป คว้าขวดไวน์ขึ้นมาในทันที “นาย…ทำไมเปิดไวน์ขวดนี้!”
ภวินท์ได้ยินก็ช้อนสายตาขึ้นมองเขาเล็กน้อย โดยที่ไม่พูดสักคำ
หลุยส์ครวญครางด้วยความโกรธ “นายรู้ไหมฉันใช้ความพยายามแค่ไหนกว่าจะได้ไวน์ขวดนี้มา! ไวน์รุ่นนี้ฉันมีตั้งเยอะ นายดันเลือกขวดที่มีเพียงหนึ่งเดียว!”
ภวินท์ทำหูทวนลม ยกแก้วเหล้าขึ้นมาอย่างไม่รู้สึกรู้สา เขย่ามันเบาๆ แล้วจิบอีกหนึ่งคำ
หลุยส์เห็นท่าทางเขา ก็โกรธจนพูดไม่ออก “ภวินท์ นาย…”
ภวินท์เงยหน้าขึ้นมา ขัดคำพูดเขาด้วยเสียงเรียบ “แค่ไวน์ขวดเดียวเอง”
หลุยส์โกรธจัด เหยียดนิ้วออกไปชี้เขาครั้งแล้วครั้งเล่า สุดท้ายก็มองไวน์แดงขวดนั้นที่ดื่มไปครึ่งหนึ่งแล้ว สุดท้ายก็ไม่ได้พูดต่อไป
“ช่างเถอะ” เขานั่งโซฟาข้างๆ “ใครทำให้นายไม่พอใจอีกล่ะ? ทุกครั้งที่นายไม่พอใจ เหล้าฉันจะต้องรับเคราะห์!”
ภวินท์เงียบ ทำหน้าเย็นยะเยือก ไม่ยอมพูดสักคำ
หลุยส์ยื่นมือออกไป หยิบแก้วทรงขาสูงแก้วหนึ่งขึ้นมาจากด้านข้าง รินให้ตัวเองครึ่งแก้ว จากนั้นก็มองเขา พึมพำถาม “คงไม่ใช่เพราะญาธิดาหรอกนะ? ฉันได้ยินว่าเธอกลับมาแล้ว”
ได้ยินชื่อนี้ สีหน้าภวินท์ก็ไม่พอใจในทันที ยกแก้วเหล้าดื่มของเหลวที่เหลือในแก้วจนหมดรวดเดียว
หลุยส์ทำเสียงจุ๊ๆสองครั้ง “ดูเหมือน จะเป็นเพราะเธอจริงๆ”
“ปัง!”
ภวินท์วางแก้วเหล้าบนโต๊ะอย่างไม่เบาและไม่แรง เงยหน้าขึ้นมองเขา แล้วเปล่งเสียงหัวเราะเยาะ “เพราะเธอเหรอ? เป็นไปได้ยังไง?”
หลุยส์เลิกคิ้ว “งั้นนายพูดมาสิ ที่นายเป็นแบบนี้มันเพราะใคร?”
คนอื่นไม่เข้าใจเขา หรือเขาก็ไม่เข้าใจเขาเหมือนกันเหรอ?
ภวินท์ที่สุขุมและควบคุมตัวเองได้มาตลอด ไม่มีทางดื่มเหล้าแก้กลุ้มอย่างไม่มีเหตุผลเด็ดขาด สถานการณ์แบบนี้เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อห้าปีก่อน
ตอนนั้น หลังจากเขาตามหาญาธิดานานกว่าหนึ่งเดือนโดยไม่สำเร็จ เขาก็มาที่บาร์คนเดียว ดื่มจนเมาหัวราน้ำ สุดท้ายเขาก็ยังเป็นคนไปส่งเขากลับบ้าน
นั่นเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นท่าทางไม่สงบนิ่งของเขา หลังจากรู้จักภวินท์มาหลายปี
ตั้งแต่นั้นมา ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ นอกจากงานสังสรรค์ ภวินท์ก็ไม่ค่อยดื่มเหล้าเท่าไหร่
แต่ตอนนี้ เขาเริ่มดื่มเหล้าอีกครั้ง เห็นได้ชัดว่ามีเรื่องกลุ้มใจ และช่วงนี้ญาธิดาก็กลับมาพอดี……
ดังนั้น มีความเป็นไปได้สูงมาก ที่จะเป็นเพราะผู้หญิงคนนั้น
สีหน้าหลุยส์เคร่งขรึมเล็กน้อย เปลี่ยนท่าทางอิสระตามใจชอบเมื่อกี้นี้ แล้วเอ่ยปากอย่างจริงจัง “วิน ฉันบอกแล้วไง ผู้หญิงคนนั้น นายห้ามเข้าใกล้อีก ห้าปีก่อนนายทุ่มเทมากขนาดนั้นเพื่อเธอ ตอนนี้ต่อให้เธอจะกลับมาแล้ว นายก็ไม่ควรติดต่ออะไรกับเธออีกแล้ว”
ภวินท์ได้ยินดังนั้น สีหน้าก็เยือกเย็น ยื่นมือไปหยิบขวดไวน์รินใส่แก้วอีกครั้ง ไม่พูดอะไรทั้งนั้น
หลุยส์ที่อยู่ข้างกายเห็นเขาเป็นแบบนี้ ก็รู้สึกหงุดหงิดฉุนเฉียว “วิน ฉันไม่เข้าใจ ผู้หญิงคนนั้นมันมีอะไรดี! ห้าปีก่อนนายทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยชีวิตเธอ ทำร้ายนายทรมานขนาดนั้น มันยังไม่พอหรือไง? และตอนนี้เธอก็มีครอบครัวของตัวเองแล้ว หรือนายยังอยาก……”
หลุยส์ยังพูดไม่จบ ภวินท์ก็ช้อนสายตาขึ้นทันที มองไปที่เขาด้วยสายตาแหลมคม “นายรู้ได้ไง?”
เขาไม่เพียงแต่รู้ว่าญาธิดากลับมาที่เมือง Jแล้ว แต่ยังรู้เรื่องที่เธอมีครอบครัวอย่างชัดเจนขนาดนั้น……
เสียงหลุยส์ชะงักไป แล้วตั้งสติอย่างรวดเร็ว เขาหายใจเข้าลึกๆ มือที่จับแก้วเหล้ากระชับขึ้นอย่างช้าๆ แต่ไม่พูดอะไร
ภวินท์ขมวดคิ้ว ถามอีกครั้งด้วยเสียงเย็นชา “นายรู้เรื่องเธอได้ไง?”
หลุยส์รู้ว่าปิดบังต่อไปไม่ได้แล้ว จึงวางแก้วลง ถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะตบหน้าผาก พูดขึ้นเสียงทุ้ม “เมื่อวานฉันเพิ่งสืบเรื่องเธอ”
เขาชะงักไป ช้อนสายตาขึ้นมองภวินท์ แล้วเสริมอีกประโยค “ช่วยนิวราสืบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...