ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 395

ความเย็นชาอย่างหนักหน่วงมันพุ่งผ่านแผ่นหลังของญาธิดา จนทำให้ร่างกายเธอเย็นสะท้านไปทั่วทุกอณู

ตกลงว่าใครกัน ขนาดเด็กแค่สี่ห้าขวบก็ยังไม่ยอมเว้น!

ขาเธออ่อนยวบทันที จนใกล้จะล้มพับไป แต่พริบตาเดียว ความเย็นชาอยู่ในหัวใจนั้นก็เปลี่ยนจากความหวาดกลัวไปอยู่ในสภาพที่หนักแน่นแทน เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และกำหมัดแน่นอย่างไม่รู้ตัว

ไม่ว่าจะเป็นใคร เธอไม่มีวันอนุญาตให้พวกเขามาทำร้ายอีธานกับเอลล่า! ลูกถือว่าเป็นจุดอ่อนของเธอ และก็เป็นจุดขีดเส้นตายในการยืนหยัดอย่างสุดท้ายของเธอเช่นเดียวกัน!

คนเป็นแม่มักทำอะไรได้เกินกว่าจินตนาการคาดคิดเอาไว้ เมื่อก่อนนี้เธออ่อนแอได้ หวาดกลัวได้ แต่ตอนนี้ เธอจำต้องปลุกจิตวิญญาณให้เต็มร้อย และไม่มีวันปล่อยให้คนร้ายได้ใจเป็นอันขาด!

เธอกัดฟัน พร้อมทั้งมองคุณบิ๊ก พร้อมทั้งสูดหายใจเข้าลึกๆ “ผู้กำกับคะ เรื่องนี้ต้องมีเงื่อนงำแน่นอนค่ะ ฉันต้องการตรวจสอบ!”

เมื่อคุณบิ๊กได้ยิน จึงแหงนหน้าเหลือบมองสีหน้าของภวินท์ เมื่อเห็นว่าเขาไม่ได้พูดอะไร จึงพยักหน้าให้เธอทันที และแสดงความเห็นด้วยออกมา “ตกลง! เรื่องนี้ต้องได้รับการตรวจสอบให้ชัดเจน! และไม่ปล่อยให้ทีมของพวกเราเองมีคนไร้คุณธรรมประเภทนั้นเป็นอันขาด!”

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งกัดฟัน และเอ่ยปากถามทันที “ทุกคนในกองถ่ายในวันนี้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ได้ใกล้ชิดกับงูเหลือมในกรงตัวนั้น ฉันต้องตรวจสอบจนได้เรื่องราวที่ชัดเจน!”

น้ำเสียงอันหนักแน่นของเธอทำให้ผู้คนตกใจไปตามๆ กัน แม้ว่าทุกคนจะมีความคิดเห็น แต่กลับไม่กล้าพูดออกมา

เวลานี้ ใครกล้าปฏิเสธในการถูกตรวจสอบ คนนั้นก็ตกเป็นผู้ต้องสงสัยที่สุด!

ญาธิดากำหมัดแน่น พร้อมทั้งพูดเน้นย้ำทุกคำ “คุณบิ๊ก รบกวนช่วยเรียกทุกคนที่อยู่ในกองถ่ายของวันนี้มาด้วยค่ะ ฉันต้องการตรวจสอบอย่างละเอียดถี่ถ้วน”

โดยที่ไม่รอให้คุณบิ๊กเป็นคนเอ่ยปากพูด จู่ๆ หัวหน้าคีนที่อยู่ด้านข้างก็พูดทันที “เกรงว่าไม่สามารถเรียกทุกคนมาได้ครับ เพราะว่าบางคนเป็นพนักงานพาร์ทไทม์ มาทำงานวันเดียวอีกวันก็ไม่มาทำแล้วประเภทนั้นครับ...”

พอญาธิดาได้ยิน จู่ๆ ดวงตาก็หม่นหมองลงทันที

พาร์ทไทม์....

สติสัมปชัญญะอันเฉลียวฉลาดของเธอ จู่ๆ ก็ฉุกคิดอะไรขึ้นมาได้

ถ้าการที่เอลล่าถูกงูกัดและมีคนได้แอบเตรียมการไว้ล่วงหน้า คนร้ายที่มีความเป็นไปได้ง่ายมากที่สุดก็คืออาศัยฐานะพนักงานพาร์ทไทม์นั่นแหละในการผสมโรงเข้ามา เพราะว่าการทำเช่นนี้ถึงได้ทิ้งร่องรอยได้น้อยที่สุดแล้ว จนไม่มีคนจับสังเกตไว้ได้!

ญาธิดาย่นคิ้วหากัน พร้อมทั้งแหงนหน้ามองหัวหน้าคีน “มีข้อมูลของพวกพนักงานพาร์ทไทม์ของวันนี้มั้ยคะ?”

เมื่อเริ่มลงมือสืบจากพนักงานพาร์ทไทม์ ก็สามารถตรวจสอบได้เร็วขึ้นเยอะ

พอหัวหน้าคีนได้ยิน จึงพยักหน้าเล็กน้อย “มี ผมส่งให้คุณ แต่มันมีแต่ชื่อและเบอร์โทรศัพท์เท่านั้นเอง”

พริบตาเดียว ก็ได้รับตารางข้อมูลที่หัวหน้าคีนส่งมา เธอหยิบโทรศัพท์และกดโทรออกทันที โทรหาคนลำดับที่สาม แต่กลายเป็นเบอร์ที่ไม่สามารถติดต่อได้

หัวใจญาธิดาบีบรัดแน่น พร้อมทั้งลองอีกครั้ง แต่ยังคงเป็นเบอร์ที่ไม่สามารถติดต่อได้เหมือนเดิม

ซึ่งเมื่อมองชื่อ “เรย์” ที่อยู่ในตารางข้อมูล ความตะขิดตะขวงใจภายในหัวใจญาธิดาเริ่มหนักขึ้นเรื่อย

หัวหน้าคีนที่อยู่ด้านข้างเอ่ยปากสอบถามทันที “โทรไม่ติดเหรอ?”

ญาธิดาขมวดคิ้วเข้าหากัน พร้อมทั้งส่ายหัวไปมา

จู่ๆ หัวหน้าคีนก็เป็นคนเอ่ยขึ้นเอง “ใช่สิ เรย์คนนี้เป็นคนที่รับผิดชอบตรวจสอบความปลอดภัย ผมจำได้ว่าเขาไปแถวๆ กรงงูนั่นด้วย!”

เมื่อได้ยินเขาพูดออกมาแบบนี้ หัวใจของญาธิดาจู่ๆ ก็หม่นหมองลง ราวกับมีก้อนหินมหึมามันทับลงบนหน้าอกของเธอ จนทำให้เธอหายใจไม่ออก

มีความเป็นไปได้เกือบร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องเป็นเรย์คนนี้แน่!

“ผมให้คนไปตรวจสอบ”

จู่ๆ ภวินท์ก็เอ่ยขึ้นแถมยังไม่รอให้ญาธิดาได้ตอบกลับมา เขาก็เอาข้อมูลของเรย์ส่งให้พายุเรียบร้อย พร้อมทั้งกำชับให้เขาไปตรวจสอบเสียงแข็ง

หลังจากนั้นไม่กี่วินาที เขาก็หันหน้ากลับมา พร้อมทั้งมองญาธิดาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม และพูดเน้นย้ำทุกถ้อยคำ “แต่ข้อมูลของบุคคลนี้มีความเป็นไปได้มากว่าจะเป็นของปลอม ตอนนี้วิธีที่ดีที่สุดก็คือหารูปถ่ายของเขามา จากนั้นก็ส่งคนไปตรวจสอบ”

เมื่อญาธิดาได้ยิน เธอกัดริมฝีปากทันที และเกิดความสงสัยอยู่ในใจบ้าง

ภวินท์พูดก็ไม่ผิด รายละเอียดในข้อมูลสามารถสร้างข่าวเท็จขึ้นมาได้ แต่หน้าตาไม่สามารถปลอมแปลงได้ ถ้าหารูปถ่ายหรือรูปภาพของผู้ชายคนนั้น อยากจะไปตามหาตัวก็สามารถหาตัวได้ง่าย

แต่ว่าตอนนี้ เธอจะไปหารูปของเรย์มาจากไหนล่ะ?

ภวินท์ที่อยู่ด้านข้างมองเห็นความคิดของเธออย่างทะลุปรุโปร่ง เขาแหงนหน้าขึ้น พร้อมทั้งมองคุณบิ๊กและพูดกำชับทันที “พวกเรามีคนเยอะเกินควร เกรงว่าอยู่ในโรงพยาบาลอยู่ตลอดเวลามันจะส่งผลไม่ดีแน่ เดี๋ยวผมกับญาธิดาจะกลับไปดูกล้องวงจรปิด หัวหน้าคีนกับขวัญก็มากับพวกเราด้วย คนอื่นๆ ต่างแยกย้ายกัน กลับไปรอฟังข่าวนะครับ”

หลังจากออกคำสั่งอย่างเรียบง่ายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เขาก็หันศีรษะไปมองญาธิดาที่อยู่ด้านข้าง พร้อมทั้งพูดเสียงแผ่วเบา “ผมจะไปดูกล้องวงจรปิดเป็นเพื่อนคุณเอง และจะหาตัวเรย์ออกมาให้ได้”

ญาธิดาสบตาดวงตาอันดำขลับทอประกายของชายหนุ่มคู่นั้น จู่ๆ หัวใจที่ไม่ค่อยสงบจิตสงบใจได้ที่มีอยู่เดิมก็สงบนิ่งมาได้ เธอลังเลอยู่สักพัก ท้ายที่สุดก็พยักหน้าและพูดตอบรับ “ตกลงค่ะ”

ซึ่งในวันนี้ไม่ใช่แค่เป็นเรื่องของเธอแค่คนเดียว เพราะมันเลื่อนขั้นไปอยู่ในทีมกองถ่ายด้วย ถ้าไม่จัดการปัญหาให้แล้วเสร็จ เรื่องมันลือออกไปข้างนอก ถึงเวลานี้คนที่ต้องเสียหน้าก็คือSTN Group

เมื่อมองเห็นทุกคนค่อยๆ แยกย้ายกันไป จู่ๆ ญาธิดาก็ฉุกคิดอะไรขึ้นได้ พร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์กดโทรหาอัญมณีทันที

ซึ่งในเวลานี้เอลล่ากำลังนอนอยู่บนเตียง อีธานคอยเฝ้าอยู่ทางนั้น เธอวางใจไม่ได้จริงๆ คนเดียวที่ทำให้เธอไว้ใจได้อย่างเต็มที่ มีแค่อัญมณีคนเดียวเท่านั้น

ทางอัญมณีพอได้ยินว่าเกิดเรื่องขึ้นกับ เอลล่า เธอไม่พูดพร่ำทำเพลงทิ้งงานทิ้งการที่ทำอยู่และรีบบึ่งมาทันที จนเธอหาห้องจนเจอ พอเห็นญาธิดาและภวินท์อยู่ภายในห้อง ก็ตะลึงทันที “ธิดา...”

ญาธิดาไม่สามารถอธิบายอะไรกับเธอได้มากมายได้ทันเวลา พร้อมทั้งจูงอีธานมายืนต่อหน้าอัญมณี พร้อมทั้งพูดทันที “ฝากอีธานไว้กับแกหน่อยนะ ตอนนี้ฉันต้องไปที่กองถ่าย เพื่อไปตรวจสอบให้รู้เรื่องว่ามันเกิดอะไรขึ้น”

พออัญมณีได้ยิน แม้ว่าจะรู้สึกสมองเบลอไปหมด แต่ก็ไม่กล้าจะถามมากเกินเหตุ จึงพยักหน้าทันที พร้อมทั้งพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ธิดา แกวางใจเถอะ! ฉันต้องดูเขากับเอลล่าให้ดีๆ แน่นอน!”

เมื่อญาธิดาได้ยินแล้ว ถึงได้สงบใจลงเยอะ พร้อมทั้งลูบคลำศีรษะของอีธานอย่างแผ่วเบา และหันศีรษะกลับไปมองเอลล่าที่นอนอยู่บนเตียง จนเกิดความรู้สึกสับสนตีขึ้นมาในหัวใจ

ไม่ว่าจะเป็นยังไง ครั้งนี้เธอต้องไปพลิกหาตัวคนร้ายที่ซ่อนตัวอยู่ในที่มือออกมาให้ได้! ไม่มีวันปล่อยให้อีธานกับเอลล่าต้องได้รับบาดเจ็บไปด้วยแม้แต่น้อยอีกเป็นอันขาด!

เธอกัดฟัน พร้อมทั้งพยักหน้าให้อัญมณี พร้อมทั้งก้าวฝีเท้ายาวๆ และเดินมุ่งหน้าออกไปทางด้านนอก

ตลอดทาง ญาธิดาอยู่ในสภาวะตึงเครียดอยู่ตลอดเวลา แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายกับภวินท์เลย

พายุเป็นคนขับรถ เพื่อพาพวกเขามุ่งหน้าไปยังสวนซาฟารี ไม่นานนัก รถยนต์ก็มาถึงห้องกล้องวงจรปิดของสวนซาฟารี ภวินท์ให้พนักงานปรับกล้องวงจรปิดทุกกล้องที่อยู่ในละแวกนี้ทั้งหมด และเริ่มเลือกตรวจสอบ

ซึ่งในตอนแรกนั้นเพราะว่าการถ่ายทำโฆษณาต้องการเก็บความลับไว้ ฉะนั้นในเขตถ่ายทำกล้องวงจรปิดทุกตัวจึงถูกคลุมด้วยผ้าสีดำ ซึ่งในจุดเขตสถานที่ถ่ายทำก็ไม่สามารถตรวจสอบได้

การทำเช่นนี้ เรื่องมันก็ยิ่งเปลี่ยนเป็นยากยิ่งกว่าเดิม

ญาธิดาจ้องมองหน้าจอคอมพิวเตอร์ประมาณชั่วโมงกว่า ก็ไม่เห็นคลิปที่จะมีประโยชน์อะไร ถ้าดูกล้องวงจรปิดตรงหน้าประตูใหญ่ คนเข้าคนออกมากมายเหลือเกิน ตราบใดที่เรย์ตั้งใจปลอมตัวเข้ามา การที่พวกเขามานั่งจ้องกล้องวงจรปิดหนึ่งวันหนึ่งคืนเต็มๆ เกรงว่ายังไงก็หาไม่เจอ

สุดท้ายแล้ว พนักงานก็เหลือบมองพวกเขาอย่างเหนื่อยหน่าย จึงพูดออกมา “นี่เป็นกล้องวงจรปิดที่บันทึกไว้ทั้งหมดแล้ว ถ้าพวกคุณต้องการ ผมสามารถอัดให้พวกคุณได้ครับ”

ญาธิดานั่งอยู่ตรงนั้น หัวใจเย็นเฉียบขึ้นมาทันที พร้อมทั้งมีความรู้สึกหมดเรี่ยวแรงที่พลุ่งพล่านขึ้นมาจนถึงขั้วหัวใจอย่างอธิบายไม่ถูก

เดิมทีตอนที่เธอมานั้นก็ได้สาบานไว้ว่าจะต้องตามหาตัวคนชั่วที่อยู่เบื้องหลังให้ได้ แต่ตอนนี้มองดูแล้ว คนที่อยู่เบื้องหลังนั้นมีการเตรียมตัวไว้ก่อนแล้ว ดังนั้นประสิทธิภาพในการหาหลักฐานนั้นถือว่าน้อยถึงน้อยมาก

หัวหน้าคีนกับขวัญที่ตามมาด้วยก็ช่วยเหลือในการตามหาอยู่พักใหญ่ สุดท้ายดวงตาล้าจนปวดตาไปตามๆ กัน แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าแต่อย่างใด

จังหวะที่ญาธิดาคิดอะไรไม่ออก จู่ๆ หัวหน้าคีนที่อยู่ด้านข้างก็พูดขึ้นมา “ถ้ากล้องวงจรปิดมันถ่ายไว้ไม่ได้ งั้นเป็นไปได้มั้ยว่าอุปกรณ์ในกองถ่ายของเราจะถ่ายเอาไว้ได้?”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์