เธอพูด พร้อมทั้งช้อนสายตาขึ้น และเหลือบมองผู้หญิงคนนั้นที่ถลึงตาใส่พวกเขาที่อยู่ทางด้านข้าง พลันสูดลมหายใจเข้าลึกๆ “คุณคะ เมื่อกี้ฉันได้สอบถามพนักงานมาแล้ว พวกเขาก็อนุญาตให้ฉันพาเขาเข้ามาเปลี่ยนเสื้อผ้า ฉันขอแค่ห้านาทีเท่านั้นเอง เปลี่ยนเสร็จแล้วเราจะก็ออกไปทันทีค่ะ”
เมื่อผู้หญิงคนนั้นได้ยิน ก็ยืนเท้าสะเอวทันที พร้อมทั้งก้าวเดินมาทางด้านหน้า และถลึงตาพูดกับญาธิดา “นี่คุณฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องเหรอ! คุณพาเด็กผู้ชายเข้ามามันเหมาะสมแล้วเหรอ? ที่นี่เป็นผู้หญิงหมดเลยนะ!”
ผู้หญิงคนนั้นต้องการทำเรื่องราวให้ใหญ่โต เธอตะเบ็งเสียง เพื่อเรียกความสนใจให้คนที่อยู่ทางด้านข้างเขยิบเข้ามาทางนี้
เวลานั้น สายตาของทุกคนต่างมากระจุกอยู่ที่ตัวของญาธิดาและอีธานเอลล่า
ญาธิดากัดฟันแน่น จนรู้สึกเจ็บใจขึ้นมาในใจ เธอคุกเข่าลง และจัดการติดกระดุมเสื้อให้อีธานต่อ จากนั้นก็ช่วยใส่กางเกงให้เขาอย่างไม่รีบไม่ร้อน
“ฉันพูดอยู่เนี่ยแต่คุณยังหน้าด้านอยู่อีกเหรอ มีคนตั้งเยอะแยะคอยมองมาทางคุณอยู่เนี่ย....”
ผู้หญิงคนนั้นเห็นสถานการณ์ แต่กลับไม่ยอมลดละ แถมยังด่าทอสาดเสียต่อ
หัวใจของญาธิดาพลุ่งพล่านไปด้วยความรู้สึกโกรธเคือง ซึ่งตอนแรกเธอก็อารมณ์ดีมากที่ได้พาเจ้าตัวน้อยออกมาเที่ยว แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะมาเจอความคลื่นเหียนประเภทนี้
เมื่อมองเห็นท่าทางน่าสงสารของเด็กน้อยสองคน ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พร้อมทั้งเก็บงำอารมณ์ความโกรธเคืองในใจ และจัดการเก็บเสื้อผ้าขึ้นมา และดึงพวกเขาออกไปทางด้านนอกโดยไม่พูดไม่จาสักคำ
เธอเองก็ไม่อยากสร้างความทรงจำที่ตัวเธอไปทะเลาะกับคนอื่นให้อีธานเอลล่าจำ การแสดงวาจาไว้เป็นตัวอย่างในการอบรมสั่งสอน ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอให้ความสำคัญมาโดยตลอด
เมื่อเดินออกมาจากบริเวณเปลี่ยนเสื้อผ้า อีธานอดใจที่ต้องเอ่ยถามไม่ได้ “คุณแม่ เมื่อกี้ทำไมคุณแม่ไม่โกรธเลยครับ?”
ญาธิดายิ้มให้พวกเขา พลันพูดเสียงกระซิบ “ไม่มีความจำเป็นที่ต้องโกรธคนที่ไม่คู่ควร พวกหนูสองคนน่าจะเข้าใจหลักการนี้ดีพอนะคะ”
อีธานกับเอลล่า พยักหน้าเข้าใจบ้างไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ
ส่วนอีกฝั่งหนึ่งนั้น ผู้คนที่เข้ามามุงดูความครึกครื้นที่อยู่ในจุดเปลี่ยนเสื้อผ้าต่างแยกย้ายกันไปแล้ว ผู้หญิงคนนั้นเดินอ้อมมายังประตูห้องVIPทางด้านข้าง พลันเคาะประตู และผลักประตูเข้ามา
นิวรานั่งอยู่บนบนโซฟาภายในห้องVIP และกำลังนั่งกินผลไม้ไปเรื่อยเปื่อย
เธอช้อนตา เพื่อกวาดตามองผู้หญิงที่เพิ่งเดินเข้า แต่ไม่ได้พูดอะไร
ผู้หญิงคนนั้นพูดสุภาพขึ้นมาในชั่วขณะ “ดิฉันไล่ตะเพิดผู้หญิงคนนั้นกับเด็กสองคนออกไปแล้ว คุณ...”
นิวราพูดพึมพำ จากนั้นก็หยิบกระเป๋ามาจากทางด้านข้างและหยิบเงินออกมาปึกหนึ่ง โยนให้เธอ
“ปิดปากแกให้เงียบที่สุด”
“เข้าใจแล้วค่ะ”
ผู้หญิงนับเงิน จากนั้นก็ยัดใส่ช่วงเอวอย่างรวดเร็ว และเดินออกไปทันที
นิวราช้อนสายตา นัยน์ตาฉายอาการดูถูกออกมาเล็กน้อย
เมื่อเห็นญาธิดา ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสิบกว่านาทีก่อนหน้านี้เอง
ซึ่งยากมากกลับการจะมีสักครั้งที่ต้องมาเจอลูกค้ารายใหญ่เป็นเพื่อนภวินท์ แค่เธอกลับคาดไม่ถึงว่าจะมาเจอญาธิดาที่นี่ ช่างหงุดหงิดจริงๆ เลย
ไหนๆ ญาธิดาก็มาแล้ว งั้นถ้าเธอไม่คิดหาวิธีทำให้เธอลำบากใจ งั้นก็เท่ากับปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ไปให้เสียเปล่านะสิ
อีกอย่างตั้งแต่เรื่องนั้นที่เกิดขึ้นในงานวันแซยิดของคุณย่าตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่เธอโมโหจนจะเป็นบ้าตาย เธอยังตั้งตัวไม่ติดเลย วันนี้ย่อมต้องจัดการเธอให้ได้สักหน่อยแล้วแหละ
มีบทเรียนครั้งที่แล้วที่พลาดท่าไป ครั้งนี้เธอเลยหาผู้หญิงไม่รู้จักมาหาเรื่องแทน ถึงเวลาไปตรวจสอบ ก็ไม่มีวันตรวจสอบมาถึงตัวเธอแน่
พอมองเห็นญาธิดาและลูกนอกคอกสองคนของเธอถูกไล่ตะเพิดไป นิวราแอบดีใจ เธอนั่งหลังตรง พลันวางส้อมที่อยู่ในมือทิ้งลงบนจานทันที นัยน์ตาฉายความเย็นยะเยือกออกมา
การจัดการกับญาธิดาด้วยวิธีแค่นี้ เธอกลับไม่พอใจ วันนี้ เธอไม่มีวันปล่อยโอกาสดีๆ แบบนี้ให้หลุดรอดไป!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...