ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 415

นิวรากัดฟัน ใบหน้าบิดเบี้ยวด้วยความรู้สึกโกรธเคือง เธอแสร้งทำทีเดินจากไปอย่างสงบ แต่กำมือที่อยู่ข้างลำตัวเอาไว้แน่น

จนเล็บจิกอยู่ใจกลางฝ่ามือของเธอ แต่เธอกลับไม่รู้สึกเจ็บปวดสักนิด

ไม่ได้การแล้ว เธอไม่มีวันนั่งรอคอยความตายอยู่อย่างนี้แน่นอน!

คู่หูของเจ้าของกิจการคนอื่นๆ ที่อยู่ทางด้านข้างโบกมือให้เธอ “คุณนิว กินอะไรสักหน่อยมั้ยคะ อีกเดี๋ยวจะต้องลงสนามแล้วนะคะ”

นิวราหันศีรษะกลับมา พลันยิ้มให้เธอ สีหน้ากลับมาอ่อนโยนและใจกว้างดังเดิม “ไม่เป็นไรค่ะ สนามแข่งม้าเป็นที่ของบรรดาพวกผู้ชาย ขอรอดูพี่วินลงแข่งบนสนามทางด้านล่างก็พอแล้วค่ะ”

ถัดจากนั้นก็ประจบประแจงอยู่หลายประโยค นิวราหาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ และหันไปยังตรงมุมกำแพงที่ไม่มีคน พลันกดโทรศัพท์ออกทันที “ตอนนี้คุณอยู่ที่ไหน? ฉันมีธุระต้องการเจอคุณ...”

เกินยี่สิบกว่านาทีหลังจากนั้น บรรดาแขกผู้มีเกียรติทางนี้ก็เริ่มพูดคุยกันอย่างออกรสออกชาติ ต่างแสดงท่าทางไปยังลานแข่งม้า ภวินท์เองก็ไม่ได้ปฏิเสธ ซึ่งเมื่อมองจากหอสังเกตการณ์ลงมาแล้ว วินาทีที่สายตาจับจ้องร่างกายของหญิงสาวที่ใส่ชุดสีแดงที่กำลังขี่ม้าแวบหนึ่ง จึงก้าวฝีเท้าออกจากโซนสันทนาการตามพวกเขาไปทันที

ซึ่งในเวลาเดียวกัน บริเวณในสนามม้า

ญาธิดากำลังขะมักเขม้นคอยมองอีธานกับเอลล่าเด็กน้อยสองคนที่กำลังฝึกขี่ม้า จึงไม่ได้สนใจเรื่องอื่นเลยด้วยซ้ำ

พลันมีพนักงานที่ใส่ชุดยูนิฟอร์มคนหนึ่งค่อยๆ เขยิบเข้าหาม้าเพศเมียที่ญาธิดาเป็นคนเลือกมาที่อยู่ทางด้านข้าง พลันมองซ้ายมองขวา จู่ๆ ก็ก้มลงด้วยความคล่องแคล่วกระฉับกระเฉง และจัดการยกกีบม้าขึ้นอย่างรวดเร็ว พลางโยนตะปูที่อยู่ในมือยัดเข้าไปในซอกกีบม้าที่ไม่มีเกือกม้าอยู่

เมื่อทำทุกอย่างเป็นที่เรียบร้อยแล้ว คนคนนั้นก็ถอยไปทางด้านข้าง ราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ญาธิดาคอยยืนเฝ้าอีธานเอลล่าอยู่ทางด้านข้าง และไม่รู้เรื่องรู้ราวกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นทางนั้นเลย

บริเวณจุดกึ่งกลางของสนามม้า

ธีทัตขี่ม้าวิ่งเหยาะวนอยู่สองรอบแล้ว เมื่อวอร์มร่างกายเสร็จแล้ว จึงค่อยๆ ปรับเข้าสู่สภาพอย่างช้าๆ

จู่ๆ เขาใช้แส้ตีม้า เพื่อเป็นการเพิ่มความรวดเร็ว และวิ่งรอบๆ สนามแข่งม้า

อีธานถูกดึงดูดกับภาพทางนั้น จนอดใจร้องตกใจไม่ได้ “ว้าว คุณพ่อหล่อชะมัด!”

เอลล่าเองก็เบิกตาโต พลันพยักหน้าเห็นด้วยและพูดทันที “เหมือนเจ้าชายขี่ม้าขาวเลยค่ะ!”

ญาธิดาเบนสายตามองตาม เพื่อมองไปยังบริเวณนั้น จึงมองเห็นผู้ชายใส่ชุดขี่ม้าสีขาวที่กำลังนั่งขี่ม้าสีขาว ช่างหล่อเหลา รัศมีเจิดจรัสไปทั่วร่างกาย

ประจวบเหมาะกับชายหนุ่มหันหน้ากลับมา เพื่อมองตรงมาทางเธอ ซึ่งระยะห่างไกลขนาดนั้น แต่สายตาของเขาก็ยังจับจ้องมายังทิศของเธออย่างถูกต้องไม่มีผิดเพี้ยน

ญาธิดาตะลึงทันที พลันเกิดความรู้สึกอันสับสนที่ไม่แน่ชัดมันตีขึ้นมาในหัวใจ

ธีทัต ช่างเป็นสิ่งที่น่าสะดุดตาของการมีตัวตนอยู่จริงๆ

“คุณแม่! คุณแม่ก็รีบไปเร็ว! ไปขี่พร้อมกับคุณพ่อสิ!

อีธานกระโดดโลดเต้นทันที พลันอยากจะควบเจ้าม้าน้อยออกไปจนอดใจไม่ไหว

ญาธิดาหันหน้ากลับมา ถึงกลับขบขันกับปฏิกิริยาโต้ตอบกลับมาเช่นนี้ของเขา เธอหัวเราะร่า พลันกวาดตามองม้าเพศเมียสีขาวอันอ่อนโยนตัวนั้นที่อยู่ในตำแหน่งไม่ไกลนัก จนเกิดอาการลังเลอยู่ในใจ

เอลล่าที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้าตาม “คุณแม่ ไปสิ! วันนี้คุณแม่ยังไม่ได้ขี่ม้าเลยนะคะ!”

ญาธิดาฉีกยิ้ม แต่ไม่ได้พูดอะไร

ซึ่งตอนแรกเธอยากจะให้อีธานกับเอลล่าเล่นกันอย่างสนุกสนานก็พอแล้ว ดังนั้นตอนที่ธีทัตเลือกม้าให้เธอ เธอก็ไม่ค่อยสนใจสักเท่าไหร่ แต่มองจากตอนนี้แล้ว เธอจำต้องขี่ม้าเสียแล้วสิ

การเผชิญหน้ากับการโดนเด็กสองคนเชียร์อยู่ตลอด ในที่สุดญาธิดายอมศิโรราบ และกล่าวอย่างใจอ่อน “ตกลงค่ะ แม่จะขี่ม้าพอใจหรือยังคะ!”

เธอพูด พร้อมทั้งเหลือบมองเด็กสาวคนอย่างตำหนิแวบหนึ่ง เมื่อเห็นดวงตาระยิบระยับที่เต็มเปี่ยมไปด้วยการรอคอยของพวกเขา ญาธิดาหัวเราะ “หึๆ” ออกมาอย่างอดไม่ไหว

เมื่อพูดวนกลับมา เธอไม่ได้ขี่ม้ามานานแล้ว ซึ่งวันนี้ได้ขี่ม้า เกรงว่าเทคนิคอันแสนธรรมดามาก คงได้ขายหน้าธีทัตแล้วแหละ

แต่สุดท้ายแล้วก็อดทนต่อความตื่นเต้นของเจ้าตัวน้อยสองคนไว้ไม่อยู่ ญาธิดาวอร์มร่างกาย จากนั้นก็โหนขึ้นขี่ม้าทันที

พนักงานที่อยู่ทางด้านข้างเห็นเหตุการณ์นั้นแล้ว ตอนแรกก็เตรียมจะจูงม้าให้เธอ ใครจะไปรู้ว่าเธอส่ายหน้าให้ พร้อมทั้งกระซิบพูด “ไม่ต้องสนใจฉันหรอกค่ะ ช่วยดูแลเด็กสองคนก็พอแล้วค่ะ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์