คำพูดประโยคนี้ของเขา แสดงให้เห็นถึงคำถามของภวินท์มันคือเรื่องจริง
สีหน้าภวินท์หม่นหมองลง นัยน์ตาฉายความเย็นชาแวบผ่าน จากนั้นก็เอนตัวพิงด้านหลัง พลันหรี่ตาลง “รายงานถึงความเคลื่อนไหวของเขาในช่วงนี้มาทีสิ”
เมื่อหลุยส์ได้ยิน พลันย่นคิ้วหากันทันที “วิน แกรู้นี่ว่าทำแบบนี้มันผิดวินัย”
ราวกับคาดการณ์ได้อยู่ก่อนแล้วว่าเขาจะพูดเช่นนี้ ภวินท์ไม่ได้แสดงความตกใจกับคลื่นลูกใหม่ที่กระทบเข้ามาเลย พลางหลุบตาลงและกล่าวทันที “แกไม่พูดฉันก็พอเข้าใจได้ แต่มันติดปัญหาเรื่องเวลานี่แหละ”
พอหลุยส์ได้ยิน อารมณ์คุกรุ่นทันที “แกคิดจะทำอะไร? แม้ว่าแกจะเข้าใจร่องรอยพฤติกรรมของเขา แล้วแกอยากจะทำอะไร?”
ภวินท์เงียบงัน จนไม่ยอมพูดแม้สักคำออกมาอีก
เขารู้ดีอยู่แก่ใจ เมื่อห้าปีก่อนเขาไม่ได้โค่นล้มสิงโต เขาฝังทุ่นระเบิดไว้ให้ตัวเอง ทุ่นระเบิดนี้ สามารถระเบิดได้ตลอดเวลา ติดปัญหาเรื่องเวลาก็เท่านั้นเอง
ซึ่งในเวลานี้สิงโตกลับมามีชีวิตชีวาอยู่ในแผ่นดินเมืองJ อีกครั้ง งั้นเขาเปิดเผยตัวตนอยู่ใต้จมูกเขาอย่างไม่ต้องสงสัย เขาอยู่ในที่แจ้ง ส่วนสิงโตอยู่ในที่ลับ การที่เขาลงมือกับมัน ซึ่งเป็นเรื่องไม่ช้าหรือเร็วก็เท่านั้นเอง
แทนที่จะเป็นฝ่ายถูกกระทำ ไม่สู้เขาเริ่มคุมเกมชิงลงมือดักหน้าไปก่อน
ภวินท์ช้อนตา พลันเหลือบมองหลุยส์ด้วยแววตาซ่อนเร้นไม่ชัดเจน “แกกับฉันต่างก็รู้ดีว่าเขาเป็นคนแบบไหน วันนี้แกไม่บอกฉัน พรุ่งนี้ฉันอาจจะตายอยู่ในเงื้อมมือเขาก็ได้”
น้ำเสียงเขาเย็นชาถึงขีดสุด หลุยส์ที่กำลังฟังอยู่ จู่ๆ ก็รู้สึกเสียวสันหลังวาบ
ความจริงแล้ว ภวินท์ก็พูดไม่ผิดหรอก คนอย่างสิงโต ร้ายกาจมาก ทั้งเจ้าคิดเจ้าแค้นที่สุด ปีนั้นเสียท่าให้ภวินท์ เขาต้องกลับมาชำระแค้นแน่
หลุยส์ยื่นมือออกไป เพื่อคว้าแก้วเปล่าที่อยู่ทางด้านข้าง และเทเหล้าลงเต็มแก้ว จากนั้นก็หงายหน้ากระดกหมดแก้ว
ของเหลวเผ็ดร้อนไหลลงคอ ไหลลงกระเพาะเย็นขึ้นมาอย่างฉับพลัน
เขาย่นคิ้ว พร้อมทั้งนำแก้วไวน์วางลงบนโต๊ะอย่างรุนแรง พลันช้อนสายตามองภวินท์ “วิน เดี๋ยวเอกสารฉันจะเอาให้แกเอง...”
เขายังพูดไม่ทันจบ ภวินท์ก็พยักหน้าอย่างเข้าใจแจ่มแจ้ง “ฉันเข้าใจดี”
เขาพูด พร้อมทั้งยกมือขึ้น และแตะลงบนหัวไหล่ของหลุยส์ “วางใจเถอะ ฉันไม่ทำให้เพื่อนรักลำบากใจที่จะต้องทำให้หรอกน่า”
หลุยส์ไม่ได้พูดอะไร ตะลึงอยู่ชั่วครู่ เขาก็คิดอะไรออก พลันช้อนตามองเขา พร้อมทั้งเอ่ยปากพูดอย่างอดเสียไม่ได้ “ทำไมแกไม่ไปหาจรณ์วะ แล้วลองคุยดูดีๆ ถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อปีนั้น พร้อมทั้งยอมขอโทษกับเขาซะ”
คำพูดประโยคนี้ ทำให้บรรยากาศที่เพิ่งจะผ่อนคลายลงเมื่อครู่ จู่ๆ บรรยากาศก็จมดิ่งเย็นชาอย่างฉับพลัน
ภวินท์ไม่ได้เอ่ยปากพูด ซึ่งใช้สายตาเหลือบมองมาราวกับอาบใบมีดมาด้วยอย่างไม่ถูกใจ จนทำให้คนเราไม่กล้าจะพูดอะไรเพิ่มแม้สักครึ่งประโยค
ซึ่งในตอนท้าย เขาหดมือลง พลันลุกขึ้นยืน “ฉันไม่รู้สึกเสียใจทีหลัง”
เขาพูด พร้อมทั้งก้าวฝีเท้า และเดินมุ่งหน้ามายังประตู และพูดทิ้งท้ายไว้หนึ่งประโยค “ยังมีเรื่องอื่นอีก กลับก่อนนะ”
เมื่อห้าปีก่อน การที่เขาต้องผ่านความทุกข์ทรมานและความลำบากมาตั้งมากมายเพื่อช่วยเหลือญาธิดา ซึ่งวันนี้กลับไปมองดูซ้ำอีกครั้ง เขาก็ยังคงไม่รู้สึกเสียใจอยู่ดี
รูปร่างสูงเพรียวของชายหนุ่มหายวับไปตรงประตูห้องเก็บไวน์ นัยน์ตาของหลุยส์ก็ยิ่งหม่นหมองลงเรื่อย...
หลังจากออกมาจากห้องเก็บไวน์ ภวินท์ก็เดินทางมาถึงบริษัท และทำการเปิดประชุมวิดีโอคอนเฟอเรนซ์แบบง่ายๆ ขึ้นมา พลันเซ็นเอกสารอีกหลายฉบับ เวลาล่วงเลย จนหมดบ่ายของวันไปแล้วอย่างไม่รู้ตัว
จนถึงเวลาเลิกงาน ภวินท์ได้จัดการงานที่อยู่ในมือจนเสร็จสิ้น พลันแหงนหน้ามองนอกหน้าต่าง ถึงได้ค้นพบว่าท้องฟ้าที่อยู่ด้านนอกมืดครึ้มลงแล้ว รถยนต์คลาคล่ำ แสงไฟนีออนสว่างจ้า
ยามอาทิตย์อัสดง ซึ่งเป็นเวลาที่เขารู้สึกสูดลมหายใจคล่องคอได้มากที่สุด
ในเวลานี้เอง จู่ๆ บานประตูห้องทำงานมีคนผลักเข้ามา พายุเร่งเท้าเดินเข้ามา หัวคิ้วนำพาความร้อนใจอยู่มาก “ท่านประธาน เกิดเรื่องแล้วครับ”
ภวินท์หันหลังกลับมา “เกิดอะไรขึ้น?”
“ทางเรือนหอแจ้งข่าวมาครับ ว่าคุณนิวกรีดข้อมือ เพิ่งส่งตัวไปโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วนเมื่อกี้นี้เองครับ”
“อะไรนะ!”
สีหน้าภวินท์หม่นหมองลงถนัดตา “โรงพยาบาลอะไร?”
เขาพูด พร้อมทั้งก้าวฝีเท้ายาวๆ เดินออกไปยังด้านนอก
“โรงพยาบาลสงฆ์ครับ!”
ทั้งสองคนรีบเร่งลงมายังใต้ตึก รถยนต์มาจอดรอตรงประตูใหญ่เป็นที่เรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตามเป็นจังหวะชั่วโมงเลิกงานพอดี ถนนหลักทางด้านหน้าของบริษัทติดขัดจนยาวเป็นหางว่าว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...