วันถัดไป ธีทัตออกจากแกรนด์ บูเลอวาร์ดตั้งแต่เช้า รีบขึ้นเที่ยวบินออกนอกเมือง เกือบเป็นเวลา 1 อาทิตย์ที่จะไม่ได้กลับ
เดิมทีญาธิดาอยากจะมาส่งเขาที่สนามบิน แต่กลับถูกธีทัตปฏิเสธอย่างอ้อมๆ เธอเตรียมอาหารเช้าให้พ่อแม่ หลังจากนั้นก็กลับไปที่ห้องปลุกเจ้าตัวเล็กทั้งสองให้ลุกออกจากที่นอน
ยุ่งวุ่นวายทั้งช่วงเที่ยง เรื่องยิบย่อยภายในบ้านถึงจัดการได้เกือบหมด
เป็นเวลา 2 วันติดต่อกัน นอกจากออกไปพบคุณบิ๊กแล้ว ญาธิดาก็อยู่ที่บ้านเกือบจะตลอด
วันที่สาม ในที่สุดก็ถึงเวลาเริ่มงาน ญาธิดามาถึงกองถ่าย ได้เจอกับทีมงานในแต่ละแผนกทั้งหมด ก็ทำความคุ้นเคยซึ่งกันและกัน และจะเริ่มถ่ายทำอย่างเป็นทางการในวันถัดไป
หนึ่งวันก็ผ่านไปแล้วโดยที่ไม่รู้ตัว เมื่อใกล้จะหมดเวลา จู่ๆ เธอก็ได้รับสายจากคนส่งของ
ขณะที่เธอเดินไปถึงปากประตูบานใหญ่ เห็นคนส่งของกอดดอกไม้อยู่ในอ้อมอก มองเธอแล้วถาม “ใช่คุณญาธิดาหรือเปล่าครับ?”
ญาธิดาพยักหน้า เหม่อมองคนส่งของส่งดอกไม้นั้นมาให้ตรงหน้าเธอ
เธอตกตะลึง ยื่นมือเข้าไปรับ เธอประหลาดใจเล็กน้อย
ธีทัตน่าจะรู้ว่าวันนี้เธอเริ่มงาน เลยสั่งให้เธอล่วงหน้า?
แต่เธอเหมือนว่าจะไม่เคยบอกเขาเรื่องเธอรับงานหนังสั้นการกุศล
เมื่อคิดได้ดังนั้น ความสงสัยของญาธิดาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น
เธอพยักหน้าขอบคุณคนส่งของ โอบช่อดอกไม้แล้วหันกลับไป ก้มลงมองก็เห็นการ์ดทรงสี่เหลี่ยมใบเล็กที่เสียบไว้ข้างในดอกไม้สีสดใส
เธอใช้มือข้างหนึ่งหยิบการ์ดออกมาดู เมื่อเห็นประโยคที่อยู่ด้านบน เธอก็คิ้วขมวดอย่างอดไม่ได้
ประโยคที่เขียนอยู่บนการ์ด “คุณญาธิดาไม่ชอบของขวัญครั้งที่แล้ว ครั้งนี้คุณชอบไหม?”
มุมล่างขวาของการ์ด มีสัญลักษณ์ใยแมงมุมที่แปลกประหลาดแบบเดียวกัน
เมื่อเห็นสัญลักษณ์นั้น ญาธิดาพลันรู้สึกถึงความหนาวเย็นแล่นทั่วทั้งหลัง ทำให้หัวใจของเธอไม่เป็นสุขอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้
หยกชิ้นนั้นและการ์ดใบนั้นเมื่อครั้งก่อนสามารถทำให้ภวินท์มีปฏิกิริยาที่ไม่ปกติเช่นนั้น แสดงให้เห็นว่าคนที่อยู่เบื้องหลังนี้ไม่ใช่คนดีอะไรอย่างแน่นอน!ยิ่งไปกว่านั้นคนผู้นั้นกลับเคลือบคลานเข้ามาถึงที่ทำงานของเธอแล้วส่งดอกไม้มาให้อีก เห็นได้ชัดว่าในใจนั้นหนักหนา
เธอสูดลมหายใจลึก เงยหน้าขึ้นกวาดสายตาไปรอบๆ เธอกัดริมฝีปาก แล้วมองลงไปที่ช่อดอกไม้ รู้สึกว่าช่อดอกไม้ไม่สดใสอย่างตอนแรก
ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เธอก็เดินไปที่ถังขยะข้างๆ แล้วโยนช่อดอกไม้ในมือทิ้งลงไป
ไม่มีสิ่งใดที่ได้มาง่ายๆ ของที่ไม่รู้ที่มาที่ไปแบบนี้ เธอระมัดระวังไว้จะดีกว่า
เธอมองดูการ์ดในมืออีกครั้ง ฉีกการ์ดครึ่งหนึ่งแล้วโยนทิ้งลงในถังขยะ
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอก็เดินตรงเข้าไปในประตูกองถ่าย
ภายในรถสีดำไม่โดดเด่นคันหนึ่งจอดอยู่ข้างถนนไม่ไกล ใครคนหนึ่งถือโทรศัพท์บันทึกสิ่งที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่อย่างชัดเจน
เมื่อทำทุกอย่างเสร็จ เขาเข้ารหัสวิดีโอแล้วส่งไปยังโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งทันที
ภายในห้องรับรองพิเศษที่มืดสลัว สิงโตโอบกอดสาวๆ ทั้งซ้ายและขวา เห็นหน้าจอสว่างวาบ สายตาหนักอึ้ง เขายื่นมือออกไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างช้าๆ และกดเข้าไปดู
อย่างรวดเร็ว หน้าจอโทรศัพท์มือถือก็ปรากฏวิดีโอช่วงหนึ่ง ก็คือตอนที่ญาธิดาได้รับดอกไม้จนท้ายที่สุดก็โยนทิ้งไป
เมื่อเห็นหญิงสาวนำช่อดอกไม้ทิ้งลงในถังขยะ สิงโตก็หัวเราะออกมาเบาๆ อย่างกลั้นไม่ไหว เสียงของเขาหนักแน่น เสียงหัวเราะราวกับกลิ้งวนอยู่ในลำคอ เหมือนเสียงครางต่ำของสัตว์อะไรสักอย่าง
เด็กเอ็นที่นั่งอยู่ข้างๆ ก็โน้มตัวเข้ามาใกล้ มองไปที่หน้าจอโทรศัพท์เขาอย่างสงสัย “เจ้านายคะ มีอะไรน่าสนใจเหรอคะ?ตลกอะไรขนาดนี้?”
ทันทีที่คำพูดนั้นของเธอสิ้นสุด สิงโตก็พลันยื่นมือออกไปจับไหล่ของเธอเอาไว้ แล้วบีบอย่างไร้ซึ่งความปรานี
หญิงสาวคนนั้นก็ร้องออกมาด้วยน้ำเสียงเจ็บปวดทันที สีหน้าเปลี่ยนไปจนดูน่ากลัว
วินาทีต่อมาสิงโตได้ผลักเธอไปอีกฝั่งอย่างไร้ซึ่งความปรานี พูดเสียงเย็นว่า “ใครอนุญาตให้มึงดู? ควักลูกตามึงออกซะดีมั้ย?”
เขาเกลียดผู้หญิงที่เรื่องมาก เกลียดยิ่งกว่าก็คือผู้หญิงที่ไม่ทำตามกฎ และผู้หญิงคนนี้ก็มีทั้งสอง
ผู้หญิงคนนั้นถูกผลักล้มลงบนพื้น เธอไม่คิดเลยว่าใบหน้าของสิงโตจะเปลี่ยนได้ไวขนาดนี้ เห็นใบหน้าของผู้ชายคนนี้ หัวใจของเธอก็รู้สึกถึงความหนาวเย็น เธอร้อนรนคุกเข่าลงกับพื้นและคลานออกไปด้านนอก “เจ้านายฉันผิดไปแล้ว เป็นฉันเองที่ไม่รู้ความ ฉันจะออกไปเดี๋ยว……”
สิงโตกวาดสายตามองเธออย่างเย็นชา เขาผ่อนลมหายใจเย็นและถอนสายตา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...