5 ปีก่อนอัญมณีบอกเลิก ไม่มีเหตุผลอย่างที่ไม่สามารถอธิบายได้ ตอนนี้พวกเขากลับมาพบกันอีก อัญมณีก็มักจะพยายามคิดหาวิธีหลีกหนีเขา
ญาธิดาสูดลมหายใจลึกและถาม “ในใจนายมีเธออยู่หรือเปล่า?”
พายุไร้ซึ่งความลังเลใจ พยักหน้าด้วยสายตาที่หนักแน่น “มีสิ”
หากว่าเธอไม่ได้อยู่ในหัวใจของเขา เขาก็คงไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะอยู่เป็นโสดมาตลอด5 ปีหรอก
“วันเกิดนายเมื่อ 5 ปีก่อนนั้น ทำไมถึงมีผู้หญิงออกมาจากในบ้านของนาย?”
ได้ยินดังนั้นพายุตะลึงงัน “วันเกิดเมื่อ 5 ปีก่อน?”
ความทรงจำราวกับน้ำที่ท่วมทะลัก ผ่านไปสักครู่หนึ่ง พายุก็นึกอะไรขึ้นมาได้ เขาสูดลมหายใจลึกมองญาธิดาแล้วถามว่า “เธอเห็นแล้ว?”
ญาธิดาไม่ได้ออกความเห็นอะไร
เพราะตอนนั้นอันอันเห็นผู้หญิงคนหนึ่งออกมาจากบ้านเขาพอดี ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมาปัญหาก็เกิดขึ้นในใจของเธอ
เกิดความสั่นไหวภายในดวงตาของพายุ เขาพูดคุยถึงเรื่องราวในตอนนั้นกับญาธิดาให้เข้าใจถึงรายละเอียดทั้งหมด ในตอนท้าย เขามองญาธิดาแล้วพูดทีละคำๆ ว่า “ให้ผมไปเจออันอันได้ไหม ผมอยากอธิบายกับเธอให้เข้าใจด้วยตนเอง”
ไม่เคยคิดเลยว่าการเข้าใจผิดที่เป็นปัญหาในตอนนั้น การเข้าใจผิดเล็กน้อยเพียงอย่างเดียว กลับทำให้เขาและอัญมณีต้องห่างกันไปถึง 5 ปี!
เมื่อเห็นท่าทีที่มีความจริงใจของชายหนุ่ม ญาธิดาก็ใจอ่อนยวบ เธอสูดลมหายใจลึกหลังจากที่ลังเล ก็พยักหน้ารับ “ก็ได้”
ก่อนหน้านี้พายุก็ช่วยเหลือเธอเอาไว้ตั้งหลาย เธอจดจำบุญคุณของเขาได้ ยิ่งไปกว่านั้นเรื่องนี้เชื่อมโยงกับความสุขของเพื่อนสนิทเธอ เธอไม่อยากเห็นพวกเขาคลาดกันอีก
สายตาพายุเปล่งประกาย ภายในดวงตาปรากฏความดีใจ “ถ้าอย่างนั้นผมขอคุยกับท่านประธานก่อน”
ทันทีที่เขาพูดจบ ประตูรถเบาะหลังก็พลันถูกผลักออก ภวินท์ลุกขึ้นและลงจากรถ พูดเสียงเรียบ “ฉันจะไปกับนาย”
ญาธิดาตะลึง มองไปทางเขาอย่างประหลาดใจ หรือว่าสิ่งที่เธอและพายุพูดเมื่อสักครู่ทั้งหมดนั้นภวินท์ได้ยินหมดแล้ว? แต่เขาไม่ได้นั่งอยู่ในรถหรอกเหรอ?
เธอหันกลับไปเห็นกระจกรถด้านหลังที่ถูกเปิดลงไปครึ่งหนึ่ง ตอนนั้นถึงได้เข้าใจ
ตั้งแต่ตอนไหนไม่รู้ที่ภวินท์เปิดกระจกลง และก็ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาตั้งแต่เมื่อไหร่
ในใจของญาธิดารู้สึกไม่พอใจนิดหน่อย แต่พอนึกได้ว่าภวินท์เป็นเจ้านายของพายุ ถ้าเขาไม่ออกปาก พายุก็ไปไม่ได้ เธอจึงทำได้แค่กลืนความไม่พอใจลงไปในปาก
ภวินท์หยิบร่มคันใหญ่สีดำออกมาจากในรถ กางออกอย่างไม่รีบไม่ร้อน แล้วหันไปเห็นสีหน้าของญาธิดา คิ้วเขายกขึ้นเล็กน้อย ถามว่า “เป็นอะไรไป ไม่อยากให้ฉันไปเหรอ?”
ญาธิดาได้ยินดังนั้นก็ตื่นตกใจ ภายนอกกลับปรากฏรอยยิ้ม เธอพูด “คุณภวินท์งานน่าจะเยอะ ถ้าคุณยุ่งก็ไปทำก่อนได้นะคะ”
คำพูดอ่อนหวาน แต่ความหมายก็ชัดเจน ก็คือไม่อยากให้เขาตามไปด้วย
เดิมทีเธอและอัญมณีนัดเจอกันสองคนเป็นที่เรียบร้อย พายุเพิ่มมาอีกคนก็ยังพอทน แต่ถ้าภวินท์ตามไปด้วยอีก สถานการณ์นั้นจะไม่น่าอึดอัดตายเหรอ?
แม้ว่าจะรู้ความหมายของเธออยู่แก่ใจดี ภวินท์ก็ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย เขาพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ไม่เป็นไร งานพวกนั้นเลื่อนไปก็ได้”
พูดจบเขาก็กางร่ม แล้วเดินตรงไปข้างหน้า
ญาธิดาพูดไม่ออกอยู่ครู่หนึ่ง มองแผ่นหลังอันแน่วแน่ของชายหนุ่ม เธอจึงทำได้เพียงเก็บคำปฏิเสธกลับไปและทำได้เพียงปล่อยให้เขาตามไปด้วย
เมื่อถึงปากประตูร้านอาหารที่นัดกับอัญมณีไว้แล้ว ญาธิดาหันหน้ามองชายหนุ่ม 2 คนที่นั่งอยู่ซ้ายหนึ่งคนขวาหนึ่งคนข้างๆ ตนเอง รู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ได้
เธอมาช้าเกือบจะชั่วโมงไม่ว่า และตอนนี้ก็พาผู้ชาย 2 คนนี้มาพบกับอัญมณีโดยไม่บอกไม่กล่าว อันอันจะต้องโกรธตายแน่ๆ
ช่างเถอะ ยังไงก็ตายครั้งเดียว งั้นก็เข้าไปเถอะ!
ญาธิดากัดฟันผลักประตูเข้าไป เรียกบริกรแล้วบอกชื่อของอันอัน แล้วจึงถูกนำไปถึงที่ชั้น 2
ชั้น 2 เมื่อเปรียบเทียบกับห้องโถงชั้น 1 แล้วถือว่าสงบกว่ามาก สภาพแวดล้อมก็เงียบสงบ มีระยะห่างระหว่างโต๊ะที่แน่นอน แสงไฟมืดสลัว และประดับตกแต่งอย่างหรูหรา เหมาะสำหรับคู่รักที่จะออกเดตหรือพูดคุยกับเพื่อนฝูงอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...