“ท่านประธานครับ ตอนนี้จะทำอย่างไรดีครับ”
ได้ยินเสียงของพายุ ภวินท์ถึงได้สติคืน
เขากำโทรศัพท์ไว้แน่น ขมวดคิ้ว สีหน้าเย็นชา
ทันทีที่ข่าวดังกล่าวแพร่กระจายออกมา ตามด้วยการซุบซิบอย่างต่อเนื่องบนโซเชียลมีเดีย เกรงว่าพรุ่งนี้ทางบริษัทคงจะวุ่นวายเละเป็นโจ๊กน่าดู
สิ่งสำคัญที่สุดคือการให้ทีมประชาสัมพันธ์ไปทำการประกาศกรณีฉุกเฉิน ไม่ว่าอย่างไรก็จะต้องพลิกกระแสวิจารณ์ให้ได้ และเขาก็จะต้องรีบไปที่ใจกลางเมือง ไปให้ถึงบริษัทแต่เช้าตรู่ในวันพรุ่งนี้ เพื่อสงบคนในบริษัทไม่เกิดการสั่นคลอน
จากนั้นสักพัก เขาก็กำชับขึ้นอย่างเย็นชา “ไปเตรียมรถ”
พายุเกิดความลังเล สายตาของเขาตกกระทบไปที่บาดแผลที่เพิ่งพันเสร็จเมื่อสักครู่ “แต่บาดแผลบนตัวท่าน……”
“ไม่เป็นไร รีบไปกำชับฝ่ายประชาสัมพันธ์ ว่าให้รีบสยบข่าวลง พวกเราจะรีบกลับไปถึงในคืนนี้ เพื่อหารือเกี่ยวกับแผนรับมือฉุกเฉิน”
พลางพูด เขาพลางหยิบชุดสูทที่อยู่ข้าง ๆ แล้วก็เดินออกไปโดยไม่พูดไม่จา เพิ่งเดินออกไปได้สองก้าว เขานึกถึงหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงได้ จึงชะงักเท้าขึ้น ขมวดคิ้วแน่น
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ลำคอของเขาก็เกร็งแล้วพูดหนึ่งประโยคออกมา “พรุ่งนี้เช้าให้โทรศัพท์หาธีทัต บอกว่าเกิดเรื่องขึ้นกับญาธิดา และก็ส่งตำแหน่งไปให้เขา”
พายุได้ยินดังนั้น แววตาก็ปรากฏความประหลาดใจ แต่ก็ตอบรับกลับไปในทันที
มือของภวินท์ที่อยู่ข้างลำตัวได้กำแน่นขึ้น จากนั้นก็สาวเท้าก้าวเดินออกไปด้านนอก
เหตุผลที่แจ้งให้ธีทัตทราบ เพราะว่าเขาไม่สามารถอยู่ข้าง ๆ เป็นเพื่อนเธอได้จริง ๆ และรอบตัวของญาธิดาก็มีเพียงเขาที่สามารถพึ่งพาได้ เมื่อจัดการทุกอย่างเสร็จสรรพ เขาก็พาลูกน้องออกจากเขาเทียบฟ้าไป
วันรุ่งขึ้น เมื่อญาธิดาตื่นขึ้นมา ตะวันก็สายโด่งมากแล้ว เมื่อวานผ่านความทรมานมาทั้งวัน จนเธอแทบจะอ่อนเปลี้ยเพลียแรง นอกจากความเจ็บปวดจากบาดแผลเมื่อวาน ร่างกายก็ฟื้นฟูดีขึ้นระดับหนึ่งแล้ว
เธอไปล้างหน้าล้างตาที่ห้องน้ำ เมื่อผลักประตูก็ได้กลิ่นหอมโชยฟุ้ง ทันใดนั้นความตะกละในตัวเธอถูกกระตุ้นขึ้น เธอจึงรีบตามกลิ่นหอมนั้นไปทันที
นี่เป็นห้องสวีท จะห้องนอนหรือห้องครัวอุปกรณ์ต่างครบครัน เธอเพิ่งเดินไปถึงห้องครัว ก็ได้ยินเสียงในนั้นดังลอยออกมา
เมื่อเดินถึงหน้าประตูห้องครัว เห็นร่างที่สูงโปร่งยืนหันหลังให้ตัวเองที่กำลังดูยุ่ง ๆ หัวใจของเธอดัง “ตึกตัก” ขึ้นอย่างไม่รู้ตัว
ทันใดนั้น ชายหนุ่มเหมือนจะรู้สึกถึงบางอย่าง จึงค่อย ๆ หันหลังมา เมื่อเห็นเธอ ดวงตาจึงประกายเล็กน้อย ยิ้มแล้วก็กล่าวขึ้น “ธิดา คุณฟื้นแล้วเหรอ”
ญาธิดาชะงักค้าง มองดูธีทัตที่กำลังเดินมาหาตัวเอง สมองของเธอจึงตกอยู่ในสภาวะตะลึงงันอย่างสมบูรณ์
ทำไมถึงเป็นเขา
“คุณ……” ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึก “คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไงคะ”
คนที่ไปเขาเทียบฟ้าตามหาเธอเมื่อวานเห็น ๆ อยู่ว่าเป็นภวินท์ ตกหลุมกับดักพร้อมกับเธอก็เป็นภวินท์ กลับมาถึงโรงแรมรักษาแผลด้วยกันก็เป็นภวินท์ ทำไมเช้าวันนี้ที่ตื่นขึ้นมา คนที่เจอกลับเป็นเขา
“วันนี้ตอนเช้ามีคนส่งข้อความมาหาผม บอกว่าคุณเกิดเรื่องที่เขาเทียบฟ้า ผมก็เลยรีบมาครับ”
ธีทัตยิ้มแล้วอธิบายอย่างมีความอดทน เอื้อมมือออกมาลูบที่ศีรษะเธอเบา ๆ แล้วกล่าวปลอบประโลม “เมื่อวานคงตกใจมากสินะ ดีขึ้นบ้างหรือยัง”
ญาธิดาหายใจเข้าลึก ๆ ค่อย ๆ ดึงสติกลับคืนมา แล้วยกมุมปากขึ้น “ดีขึ้นแล้วค่ะ”
ธีทัตยิ้ม “ผมได้ทำอาหารเช้าและกลางวัน คุณไปล้างมือนะ เดี๋ยวก็สามารถทานได้แล้ว”
ญาธิดาเงยหน้ามองดูอาหารสองสามอย่างที่หลากหลายและประณีต ถั่วลันเตาผัดกุ้ง แตงกวาผัดไข่ ยังมีซุปสาหร่าย ล้วนเป็นอาหารโปรดของเธอ เพื่อเธอแล้ว ธีทัตจากชายหนุ่มที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยลงครัวทำอาหารทำงานบ้าน กลายเป็นชายหนุ่มที่สามารถทำอาหารบ้าน ๆ ทั่วไปได้เฉกเช่นวันนี้ เขาเปลี่ยนแปลงเพื่อเธอมากมายจริง ๆ
ญาธิดารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ ยิ้มแล้วพยักหน้า หันหลังแล้วเดินไปล้างมืออย่างเชื่อฟัง แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด มีความรู้สึกผิดหวังแวบขึ้นในหัวใจ
ไม่รู้เพราะว่าทำไม หาเหตุผลไม่เจอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...