ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 492

ได้ยินดังนั้น ญาธิดาก็ตกใจชะงัก

ว่าไปแล้ว ตอนนั้นที่เธอจดทะเบียนสมรสกับธีทัต เป็นเพราะว่าเธอเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว คำนึงถึงการเจริญเติบโตของอีธานกับเอลล่า พวกเขาจึงตกลงกันว่าจะเป็นสามีภรรยากันในนาม ทั้งคู่ค่อยๆ เรียนรู้กัน และให้โอกาสการยอมรับซึ่งกันและกัน

พริบตาเดียว เวลาก็ผ่านไปห้าปีแล้ว ห้าปีมานี้ พวกเขาไม่เคยเป็นสามีภรรยากันอย่างแท้จริง แต่ธีทัตนั้นปฏิบัติต่อพวกเขาเสมือนญาติตั้งแต่แรก เธอรู้สึกซาบซึ้งใจอย่างมาก และก็พยายามที่จะยอมรับ

ตอนนั้นเธอกับธีทัตต่างเห็นพ้องต้องกันว่า เมื่อพวกเขาเต็มใจยอมรับซึ่งกันและกันจริงๆ พวกเขาจะจัดงานแต่งงานอีกครั้ง

คิดไม่ถึงว่า ในช่วงเวลาหักเหเช่นนี้ ธีทัตกลับเอ่ยสิ่งนี้ออกมา

เธอสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วก็ลังเล “ทัต เวลานี้……”

ธีทัตหรี่ตาลง จากนั้นกล่าวเบาๆ “ผมรู้ว่าพูดในเวลานี้ คุณอาจจะไม่ยอมรับ แต่ว่าผมกลัวเสียคุณไป เห็นคุณยุ่งกับการทำโน่นทำนี่ให้กับอันอันแล้วผมรู้สึกซาบซึ้งใจมาก และก็รู้สึกสงสาร ขณะเดียวกันก็รู้สึกไม่สบายใจ ผมกลัวว่าจะเกิดเรื่องที่ไม่คาดฝันขึ้น ดังนั้น ธิดา ผมให้ความสบายใจกับคุณ คุณก็ให้ความสบายใจกับผมหน่อยได้ไหม”

คำพูดของเขา ราวกับกำปั้นที่มองไม่เห็น ชกเข้ามาที่หัวใจของญาธิดา ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างอธิบายไม่ถูก 

เผชิญหน้ากับชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้า เธอทำไม่ดีจริงๆ 

วันเวลาห้าปีที่ผ่านมาของเขานี้ เธอก็ไม่อยากจะเผาให้มันมอดไหม้ไปเช่นนี้ และก็ยิ่งไม่อยากจะทรยศความจริงใจของเขา เธอกัดริมฝีปากแล้วพยักหน้าเบาๆ “ค่ะ”

พูดไปแล้ว ธีทัตต่างหากเป็นผู้ชายที่เหมาะสมกับเธอที่สุด

ภวินท์ประดุจกับพายุ ทำให้คนหลงใหลแต่คว้าไว้ไม่ได้

ดวงตาของธีทัตปรากฏแสงแห่งความดีใจ “จริงเหรอครับ” ญาธิดายกริมฝีปาก พยักหน้าอย่างจริงจัง

ครั้งนี้เมื่อจัดการเรื่องอันอันให้กระจ่างแล้ว เธอก็กล่าวลาเมือง J แล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่ และก็ยอมรับธีทัต

“ดีจังเลย!”

ธีทัตดีใจแล้วอุ้มตัวเธอขึ้นหมุนไปหนึ่งรอบ

ญาธิดากรีดร้องออกมา จากนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะขึ้น ตบที่ไหล่ของเขาเบาๆ “รีบปล่อยฉันลงได้แล้ว!” 

ธีทัตวางเธอลงด้วยรอยยิ้ม รอยย่นบนหว่างคิ้วค่อยๆ จางหายไป

ทันใดนั้น ญาธิดาคิดอะไรบางอย่างได้ “ใช่แล้ว วันมะรืนพวกเราไปทานอาหารด้วยกันที่ร้านอาหารเก็นติ้งนะ”

เธอไปที่ร้านอาหารเก็นติ้งคนเดียวดูค่อนข้างตั้งใจเกินไป เพื่อไม่ให้นิวราสงสัย ทางที่ดีคือไปพร้อมกับธีทัต

ธีทัตอารมณ์ดีมาก จึงรับปากไปตรงๆ อย่างไม่ลังเล “ดีครับ!”

หลังจากยืนยันแล้ว ญาธิดาจึงตัดสินใจช้าๆ

ครั้งนี้ หลังเจอนิวราที่ร้านอาหารเก็นติ้งในวันมะรืนแล้ว เธอจะต้องยืนยันให้ได้ว่าคนที่ชนอันอันใช่เธอหรือไม่!

มีเพียงเช่นนี้ที่จะทำให้ความพยายามในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่สูญเปล่า

พริบตาเดียว ก็ถึงวันนัดหมายตามที่กำหนด

ยามเช้าตรู่ นิวราลุกขึ้นจากเตียงทำธุระส่วนตัวตามปกติ

ในช่วงสองวันที่ผ่านมา เธอเชื่อฟังคำพูดของชยินโดยอยู่แต่ในบ้านไม่ออกไปไหน  ประการแรกคือเหตุเกิดจากความกลัวตอนที่ถูกลักพาตัวครั้งก่อน ประการที่สองคือกลัวว่าจะเกิดปัญหา กลัวจะเผยพิรุธออกมา

เธอเช็ดหน้าเช็ดตา เดินมาที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง เงยหน้าขึ้นแล้วมองเห็นปฏิทินที่วางอยู่บนโต๊ะ วันนี้ในปฏิทินได้ถูกเธอใช้ปากกาสีแดงวงเป็นวงกลม ด้านข้างยังวงกำกับเป็นรูปหัวใจสีแดง

วันนี้เป็นวันครบรอบวันแต่งงานของเธอกับภวินท์ พูดขึ้นมาแล้ว ก็เป็นเวลาสามปีแล้วที่พวกเขาจดทะเบียนสมรสด้วยกัน

นิวรายิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด ปัดครีมทาหน้าทิ้งไปข้างๆ โมโหอย่างไม่มีสาเหตุ

เมื่อเอ่ยถึงวันครบรอบแต่งงาน เธอก็อดไม่ได้ที่จะนึกถึงสร้อยไพลินเส้นนั้น เดิมทีนึกว่าภวินท์จะสั่งทำให้เธอโดยเฉพาะ ที่ไหนได้กลับมอบให้กับญาธิดา!

ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห ยิ่งรู้ว่าตอนนี้ยังไม่สามารถออกจากบ้านได้ ก็ยิ่งหงุดหงิด

และในเวลานี้ มีเสียงเคาะประตูดังลอยมา จากนั้นตามมาด้วยเสียงคนรับใช้ทันที “คุณผู้หญิง คุณผู้หญิงตื่นหรือยังคะ”

นิวรากล่าวอย่างไม่สบอารมณ์ “มีอะไร!”

“คุณผู้ชายส่งของมาให้คุณผู้หญิงค่ะ คุณผู้หญิงจะลงไปดูไหมคะ”

ได้ยินคำพูดของคนรับใช้ นิวราหัวใจก็เต้นขึ้น รีบลุกขึ้นมา แล้ววิ่งไปเปิดประตู “ของขวัญอะไร”

คนรับใช้ก้มหน้าก้มตากล่าวด้วยความกลัว “อยู่ด้านล่างตึกค่ะ คุณผู้หญิงสามารถลงไปดูด้วยตัวเอง”

นิวราได้ยินดังนั้น ก็ไม่สามารถข่มความอยากรู้ได้อีก จึงรีบก้าวลงไปจากตึกอย่างรวดเร็ว

เดินไปที่ลานบ้านตามการนำทางของคนรับใช้ สิ่งที่เธอเห็นคือช่อดอกไม้สีแดงสดช่อใหญ่ ดอกกุหลาบเย้ายวนที่ไม่รู้มีกี่ดอก แทบจะปูเต็มไปทั่วลานบ้าน

นิวราตะลึงงัน รู้สึกประหลาดใจ

“คุณผู้ชายช่างดีกับคุณผู้หญิงจังเลยนะคะ ดิฉันได้ยินคนส่งของบอกว่า นี่เป็นดอกกุหลาบที่นำเข้ามาโดยทางอากาศจากบัลแกเรียเลยค่ะ!”

“ใช่! ดอกกุหลาบมากมายเช่นนี้ เป็นครั้งแรกที่ฉันได้เห็น!

“......”

บรรดาคนรับใช้ที่อยู่ด้านข้าง คนนี้กล่าวหนึ่งประโยคคนนั้นกล่าวหนึ่งประโยค นิวราฟังแล้วจิตใจถึงกับเบิกบานปรีติ เธอยื่นมือออกไปสัมผัสดอกตูมอันบอบบาง รอยยิ้มบนใบหน้าก็ยิ่งเด่นชัดขึ้น

คิดไม่ถึง ภวินท์จะยังจำวันครบรอบแต่งงานของพวกเขาได้ เธอยังคิดว่าเขาลืมอีกแล้วเสียอีก!

เพียงครู่เดียว ความหลงตัวเองของเธอพองโตจนสุดโต่ง เธอเชิดคางขึ้นเบาๆ เห็นการ์ดชมพูที่อยู่ตรงกลางดอกไม้อย่างชัดเจน เดินเข้าไปหยิบขึ้นมาด้วยความดีใจ

“ร้านอาหารเก็นติ้ง เจอกันหนึ่งทุ่มคืนนี้”

ลงนามด้วยชื่อภวินท์

นิวรายกมุมปากขึ้นอย่างเย่อหยิ่ง ความหงุดหงิดในใจก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย หยิบการ์ดแล้วหันหลังเดินเข้าคฤหาสน์ไป

เห็นแบบนี้แล้ว ภวินท์คงยังมีเธออยู่ในใจอย่างแน่นอน!

เธอหยิบโทรศัพท์มาถ่ายรูปดอกไม้ในลานบ้านหลายรูป และถ่ายเซลฟี่อีกสองสามรูป จากนั้นก็โพสต์ลงในโซเชียลมีเดียพร้อมกับคำบรรยาย “สุขสันต์วันครบรอบแต่งงานปีที่สาม!”

ให้ใครๆ ที่ได้เห็นต่างอิจฉาในความรักที่มั่นคง ที่รักใคร่ปรองดองของเธอกับภวินท์

ไม่กี่นาที เพื่อนๆ พี่น้องในกลุ่มต่างก็เข้ามาอวยพร อวยยกยอกันยกใหญ่

นิวราอารมณ์ดีมาก ฮัมเพลงเบาๆ แล้วเดินไปอาบน้ำ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการออกเดตในตอนค่ำ

เธอพลางแช่ตัวพลางโทรศัพท์กับเพื่อน “คนอย่างญาธิดาก็แค่เท่านี้ หึ เธอคิดว่าตัวเองแน่นักเหรอ! ฉันต่างหากที่เป็นภรรยาที่แท้จริงของภวินท์”

เสียงเห็นด้วยของเพื่อนดังลอยมาจากปลายสาย “ใช่! ญาธิดานะเหรอจะมาเทียบกับเธอ เอาอะไรมาเทียบ!......”

ทันใดนั้น โทรศัพท์ก็สั่นขึ้น เสียงเพื่อนหายไปอย่างกะทันหัน นิวราชะงัก ถึงได้สังเกตเห็นว่ามีสายเรียกเข้ามา และการคุยสายทางไลน์ก็ถูกวางสายคงโดยอัตโนมัติ

เห็นบนนั้นปรากฏคำว่า “ชยิน” สองคำ นิวราขมวดคิ้ว ลังเลครู่หนึ่ง สุดท้ายก็กดรับสาย “ฮัลโหล”

น้ำเสียงเย็นชาของชยินดังลอยมาจากปลายสาย “คุณหนู ผมเห็นรูปที่คุณโพสต์แล้ว”

เธอปัดฟองในอ่างอย่างไม่แยแส “แล้ว? ยังไง?ช่วงนี้ออกนอกบ้านไม่ได้ แล้วยังโพสต์รูปไม่ได้อีกเหรอ”

ชยินชะงักครู่หนึ่งแล้วถามขึ้น “คุณภวินท์เป็นคนส่งดอกไม้มาเหรอ”

นิวราขมวดคิ้วอย่างหมดความอดทน “แน่นอน ไม่อย่างนั้นจะเป็นใครได้อีก!”

เดิมทีเธออารมณ์ดี คิดไม่ถึงว่าชยินจะโทรศัพท์มาทำให้หมดอารมณ์!

“เขายังบอกอะไรอีกหรือเปล่า”

“เปล่า”

“อย่างนั้นวันนี้คุณหนูออกไปข้างนอกไหม”

นิวราโมโหขึ้นในทันใด “ชยิน นายจุ้นจ้านมากไปหน่อยไหม! สองสามวันมานี้ฉันก็เชื่อฟังนายโดยไม่ออกจากบ้าน วันนี้เป็นวันครบรอบแต่งงานของฉัน ฉันจะออกไปทานข้าวหน่อยไม่ได้เหรอ”

ชยินในปลายสายเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วก็กล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา “คุณหนู ทางที่ดีวันนี้อย่าออกไปเลย ถึงแม้จะเป็นคุณภวินท์เชิญก็ตาม”

“ฉันแค่ออกไปทานข้าว ไม่ได้ไปทำอะไรสักหน่อย! อีกอย่างฉันอยู่กับพี่วิน ปลอดภัยมาก!”

กล่าวจบ เธอก็วางสายลงโดยไม่แม้แต่จะไตร่ตรอง

จากนั้น นิวราก็รู้สึกเสียใจมากที่ตอนนั้นไม่ฟังคำพูดของชยิน

หากสามารถย้อนกลับไปได้ วันนั้น เธอจะไม่ไปตามนัด จะไม่ไปตามนัดเด็ดขาด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์