ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 504

ชนัดพลเห็นผู้คนต่างก็มีความคิดเป็นของตนเอง จึงหัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดว่า “ผมยอมรับว่าเป็นเหตุผลส่วนของผมนิดหน่อย ผมมีอคติกับภวินท์ ผมคิดเล็กคิดน้อย จะปล่อยให้การทำงานมีอุปสรรคไม่ได้ ดังนั้นจึงอยากเห็น STN Groupมีผู้นำที่ดียิ่งขึ้นมาบริหาร ผมสนับสนุนใคร นั่นมันก็เป็นความคิดของผม ผมไม่ได้ปิดกั้นพวกคุณ แต่ถ้าความคิดของพวกเราเหมือนกัน คิดไปในทิศทางเดียวกัน พวกเราก็จะเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน!”

พูดพลาง เขาก็ยกแก้วขึ้นมา ลุกขึ้นดื่มอวยพรให้กับทุกคน ดื่มรวดเดียวหมดแก้ว

ผู้คนต่างก็ยิ้ม บรรยากาศในตอนนั้นก็ค่อยๆดีขึ้นมาก มีแค่รัฐภูมิผู้ถือหุ้นที่หัวดื้อเมื่อครู่คนนั้นหลังจากที่เห็นวัตถุประสงค์ของชนัดพลแล้ว ก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง สีหน้าไม่ดีเลยแม้แต่น้อย

ไม่นาน งานเลี้ยงก็มาถึงช่วงท้าย ผู้คนค่อยๆแยกย้ายกันกลับ รัฐภูมิลุกขึ้นอย่างแทบจะทนไม่ไหว เตรียมจะจากไป ใครจะไปรู้ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว ชนัดพลก็ตามมา “คุณรัฐภูมิ ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

รัฐภูมิส่งเสียงฮึ่มในลำคอ “ผมไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ ตำแหน่งประธานบริษัทSTN Groupผมเห็นจะมีแต่คุณภวินท์คนเดียวที่เหมาะสมมาแต่ไหนแต่ไร ภูผา หึ! เขามีอะไรดี!”

พูดพลาง เขาก็กลอกตาใส่ชนัดพล แล้วหันไปมองลูกน้องของตนเองอีก พร้อมตำหนิด้วยเสียงเยือกเย็นว่า“ตั้งแต่นี้ต่อไป งานเลี้ยงไร้สาระแบบนี้ยกเลิกแทนฉันให้หมดเลยนะ! นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกันวะเนี่ย!”

ประโยคนี้ของเขา เห็นชัดว่าจงใจพูดให้ชนัดพลได้ยิน

ชนัดพลยืนอยู่ที่เดิม สีหน้าเย็นยะเยือกลง ปริญขยับเข้ามาจากด้านข้าง พูดทวงความชอบธรรมขึ้นมาว่า “ตาแก่นี่! จะว่าไปแล้วที่เมื่อก่อนนี้ตอนทำงานร่วมกับคุณปกรณ์ ขึ้นชื่อว่าเป็นคนเรื่องมาก คิดไม่ถึงเลยว่าจะจงรักภักดีขนาดนี้! ถุย!”

สีหน้าชนัดพลไม่ได้เปลี่ยนไป สายตายังคงจ้องมองไปทางที่เขาเดินจากไป

ปริญเห็นเขาไม่พูดอะไร จึงถามว่า “พ่อ ตอนนี้พวกเขายังไม่ยอม ต่อไปจะให้พวกเขาโอนหุ้นให้ พวกเขาต้องไม่ยอมแน่นอน เอาอย่างนี้มั้ย พวกเราเอารายชื่อของคนที่ไม่ให้ความร่วมมือไปรายงานคุณภูผา ให้เขาจัดการ”

ได้ยินดังนั้น ชนัดพลก็ส่งเสียงฮึ่ม เหลือบมองเขาแวบหนึ่ง พูดอย่างเยือกเย็นว่า “ถ้าให้ภูผาจัดการทุกเรื่อง งั้นจะเอาพวกเรามาทำไม แกอย่าลืมว่าเขาทุ่มเงินให้กับบริษัทวรโชติของพวกเรามาเท่าไหร่แล้ว!”

ปริญขมวดคิ้ว “งั้น …ทำยังไงดี รัฐภูมิไอ้แก่นั่น เป็นผู้อาวุโส ดื้อรั้น หุ้นที่ถืออยู่ในมือก็มีใน้อยในจำนวนผู้ถือหุ้นทั้งหมด! ถึงตอนนั้นเขามาก่อกวนต่อหน้าผู้ถือหุ้น แล้วแผนการของพวกเราจะทำยังไง”

ชนัดพลนิ่งเงียบ ลังเลอยู่นานมาก ทันใดนั้นก็มีแสงเย็นวาบฉายออกมาจากในดวงตาของเขา “ในเมื่อเขาดื้อรั้น อย่างนั้นพวกเราก็ทำให้เขาดื้อไม่ออก!”

มาถึงตอนนี้ ภวินท์บีบบริษัทวรโชติจนหมดหนทาง ภูผายื่นมือเข้ามาช่วยเหลือพวกเขา พวกเขาจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ ปีขึ้นบนต้นไม้ต้นหนึ่ง ออกแรงเต็มที่ปีนขึ้นไปข้างบน จะต้องยืนอยู่ในแวดวงธุรกิจของเมืองJได้อย่างมั่นคง!

โอกาสแบบนี้ มีแค่ครั้งนี้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น ถ้าพวกเขารักษาเอาไว้ไม่ได้ เกรงว่าบริษัทวรโชติก็จะฟื้นตัวขึ้นไม่ได้แล้ว!

ชนัดพลสงบจิตใจลง ภายในใจค่อยๆมีแผนรับมือ

เช้าตรู่วันต่อมา ก็คนส่งข่าวร้ายมา

รัฐภูมิ ผู้ถือหุ้นของ STN Group ลื่นตกน้ำในแม่น้ำเมื่องJขณะไปออกกำลังกายในช่วงเช้า ตอนที่ถูกพบไร้ซึ่งสัญญาณชีพแล้ว อายุ65ปี

ตำรวจเข้าดำเนินการสอบสวน สุดท้ายแพทย์นิติเวชก็ระบุว่า ผู้ตายเสียชีวิตจากการจมน้ำจริงๆ

ตอนที่ภวินท์รู้ข่าว เขากำลังรับประทานอาหารเช้าที่คฤหาสน์ เป็นข่าวที่กะทันหันมาก ตอนที่เขาเพิ่งรู้ มือที่จับแก้วกาแฟอยู่สั่นเล็กน้อย กาแฟดำที่อยู่ในแก้วหกออกมาเล็กน้อย

พายุที่เพิ่งมาถึงประตูเองก็ตกใจเช่นกัน ไม่นาน เขาก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นได้ เอ่ยปากด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ท่านประธานครับ เมื่อคืนรัฐภูมิได้รับเชิญให้ไปร่วมงานเลี้ยงของชนัดพล ผมได้ข่าวว่าเหมือนพวกเขาจะมีปากเสียงกันบนโต๊ะอาหาร”

ได้ยินดังนั้น แววตาภวินท์ก็ขรึมลงทันที เขาวางแก้วกาแฟในมือลง สีหน้าเคร่งเครียดจนน่ากลัว

“ครอบครัวของลุงภูมิรู้แล้วหรือยัง”

“ได้ยินว่าศพอยู่ที่สถานีตำรวจหลังจากทำการตรวจสอบเสร็จแล้วญาติก็จะมารับไปบำเพ็ญกุศลครับ”

ภวินท์ได้ฟังดังนั้น ก็ลุกขึ้นหยิบเสื้อสูทเดินออกไปข้างนอกทันที “ไป พวกเราไปกัน”

เรื่องนี้มันเกิดขึ้นอย่างกะทันหันมากเกินไป แม้แต่เขาเองก็แปลกใจมาก สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ ก็คือต้องไปปลอบใจครอบครัวของรัฐภูมิ

เมื่อก่อนรัฐภูมิเป็นลูกน้องที่เก่งกล้าสามารถของปกรณ์ ความสัมพันธ์กับภวินท์ก็ดีมากเช่นกัน มีหลายครั้งที่บริษัทต้องเผชิญกับวิกฤติและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้คน ก็มีรัฐภูมิรับแรงกดดันส่วนใหญ่เอาไว้แทนเขา บุญคุณของเขา ภวินท์จดจำใส่ใจมาตลอด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์