ภวินท์ได้ยินดังนั้น คิ้วขมวดโดยไม่รู้ตัว สายตาที่คมกริบมองไปยังชายหนุ่มบนรถเข็นอย่างมั่นใจ
แค่เห็นภูผากระตุกมุมปากเล็กน้อย ถลกผ้าที่คลุมอยู่บนเข่าทั้งสองข้างออกเบาๆ จากนั้น เขาก็เอาขาสองข้างวางบนพื้น ค่อยๆลุกยืนขึ้นมา
ภวินท์ตัวเกร็ง รู้สึกว่าตัวแข็งทื่อไปเล็กน้อย
ภูผายืนอยู่ตรงหน้าเขา บังแสงเทียนเอาไว้พอดี ภวินท์เห็นเพียงเงาของร่างชายหนุ่มใหญ่โตลุกยืนขึ้นมา ขาทั้งสองข้างของเขาเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระตามต้องการ ก้าวอย่างมั่นคง เดินตรงดิ่งมาทางเขา
เหมือนว่าเคยชินกับการที่เห็นภูผานั่งอยู่บนรถเข็น สองสามปี สิบกว่าปีก็ยังเป็นเหมือนเดิม ขาทั้งสองข้างของเขาไม่มีวี่แววว่าจะดีขึ้นเลย แต่ตอนนี้ ภูผากลับลุกขึ้นมายืน เดินเหินได้อย่างอิสระ ราวกับว่าเป็นคนละคนกับผู้ชายคนนั้นที่นั่งรถ
แน่นอนว่าเขาตกใจมาก จู่ๆภายในใจก็เกิดความรู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาอย่างกะทันหัน
ไม่ใช่เพียงตกใจที่ขาทั้งสองข้างของเขาไม่ได้พิการเท่านั้น ที่ตกใจยิ่งกว่าก็คือเขาสามารถปิดบังเรื่องนี้มาได้จนถึงตอนนี้ โดยไม่มีพิรุธใดๆเลย
ก่อนหน้านี้สองสามนาที ภูผายังโกรธเขา ตำหนิเขาอยู่เลย แต่ตอนนี้ เขาลุกขึ้นมา ไม่แตกต่างอะไรกับคนปกติ
เขาสามารถปิดบังได้แนบเนียนขนาดนี้ ถึงขนาดที่เขากับลูกน้องไม่ระแคะระคายเลยสักนิด คนนี้น่ากลัวแค่ไหนกัน!
ภูผายืนอยู่ตรงหน้าเขา มองลงมายังเขา พูดด้วยเสียงเย็นเยือกว่า “พี่ชาย ทำให้พี่ผิดหวังแล้ว ขาทั้งสองข้างนี้ของผม กลับมาเป็นปกติแล้ว”
ภวินท์สูดหายใจลึกๆ แค่รู้สึกแน่นหน้าอก ระบายออกมาไม่ได้
มองภวินท์ที่ไม่พูดไม่จา แววตาภูผาฉายรอยยิ้มแห่งชัยชนะ “พี่ชาย ในเมื่อพวกเราเป็นพี่น้องกัน ผมคิดว่าน่าจะให้พี่ได้สัมผัสถึงประสบการณ์ที่ผมเคยผ่านมาหน่อย”
พูดพลาง เขาก็กวักมือ พวกนักเลงที่ล้อมรอบอยู่ก็ก้าวมาข้างหน้าทันที ในมือแต่ละคนถือแท่งเหล็กขนาดเท่ากำปั้นเด็กทารก ปลายกระบองครูดไปกับพื้น “แครกแครก——” เสียงดังเข้ามาในหู ทำให้คนเราอดที่จะขมวดคิ้วไม่ได้
ภวินท์สูดหายใจเข้าลึกๆ ยังไม่ทันที่จะตั้งสติได้ ทันใดนั้นเอง ก็มีแรงปะทะเข้ามาจากข้างหลัง จู่โจมด้านหลังเขาโดยตรง!
ภวินท์รู้สึกแค่ด้านหลังเขา รู้สึกเพียงว่าหลังถูกกระแทกชั่วขณะหนึ่ง ทันใดนั้น อวัยวะภายในในร่างกายก็ดูเหมือนจะถูกเชื่อมโยงจนสั่นสะท้าน สะเทือนจนเจ็บปวด
วินาทีต่อมา ก็มีกระบองฟาดลงมาอีก แรงกระแทกนั้นทำให้ร่างกายของเขาสั่น แรงมหาศาลดันเขาไปข้างหน้า จากนั้น ไม้กระบองก็ฟาดลงมาเหมือนห่าฝน กระแทกกับหลังของเขาอีกครั้งอย่างหนักหน่วง!
ภวินท์กัดฟันกรอด กำหมัดแน่น ยันไว้บนพื้น เส้นเลือดปูดโปนขึ้นมาบนหน้าผาก
ภูผายืนอยู่ด้านข้าง มองดูภวินท์ที่พยายามฝืนทนยังไม่ถูกตีจนลงไปกองที่พื้น นัยน์ตาฉายความดูถูกเยาะเย้ย
เขาไม่พูดพร่ำเพื่อ ลูกน้องพวกนั้นของเขาเหมือนจะทุบตีอย่างสุดชีวิต ไม่ได้ฟังเลย
ไม่นาน ด้านหลังเสื้อเชิ้ตของภวินท์ถูกตีจนขาดเป็นรู ด้านหลังมีเลือดซึมออกมา แดงฉานจนทำให้คนที่เห็นตกใจ
เวลานี้เอง จู่ๆภูผาก็ยกขาเดิน เดินไปทางเขา เขาแย่งกระบองในมือจากลูกน้องที่อยู่ข้างๆมา เงื้อขึ้นสูงๆ ฟาดลงไปที่ขาภวินท์ อย่างแรง!
เสียงกระแทกดัง “พลั่ก!” เข่าภวินท์สั่น เขาเกือบก้มหมอบลงบนพื้น หางตาของเขาเหลือบมองไปที่ไม้กระบองในมือภูผาที่ฟาดลงมาที่เขาอีกครั้ง เขายกแขนขึ้นมา รับเอาไว้
เสียงดัง “พลั่ก!” สีหน้าภวินท์ซีดลงไปทันที ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง ไม่นาน เหงื่อเม็ดใหญ่ผุดขึ้นมาที่หน้าผากเขา
ทันใดนั้น ไม่รู้ว่าใครเตะเขามาจากด้านหลังอย่างแรง ภวินท์เซถลา ล้มลงกับพื้น
“ไสหัวไป!”
ภูผาตะคอก ดุพวกนักเลงที่ล้อมรอบอยู่ จับกระบอง ตีด้วยตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...