ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 51

ยติภัทรพูดเสียงแผ่วเบา “ธิดา พ่อได้ปรึกษากับแม่แกแล้วนะ และรู้สึกว่ามีบางเรื่อง จำต้องคุยกับแกหน่อย”

“แม่คะ ตกลงว่ามันเรื่องอะไรเหรอคะ?”

เมื่อมองเห็นท่าทางอันเคร่งขรึมของทั้งสองคนเช่นนี้แล้ว แถมยังทำตัวแปลกประหลาดจนคนเขาตกใจกันหมด

คุณหญิงปภาวียื่นตะเกียบให้เธอ “กินข้าวก่อน ไม่ต้องรีบร้อนจนเกินเหตุ”

ญาธิดาหยิบตะเกียบมาอย่างลังเล ในใจยังคงรู้สึกหวาดหวั่น

ท้ายที่สุด คุณหญิงปภาวีจึงพูดออกมา “ช่วงนี้ลูกกับตาวินอยู่ด้วยกันเป็นยังไงบ้างล่ะ?”

ญาธิดากลืนน้ำลายลงคอ “ก็ไปกันได้ดีค่ะ...”

คุณหญิงปภาวีช้อนตามองเธอ “งั้นพวกลูกคุยกันดีแล้วหรือยัง ว่าจะจัดงานแต่งงานกันตอนไหน?”

ญาธิดาตกตะลึง “จัดงานแต่งเหรอคะ?”

ราวกับเธอไม่เคยพูดเรื่องนี้กับภวินท์มาก่อนเลย หลังจากที่ตนเองเข้าไปอยู่ในบ้านพักแล้ว พวกเขาเหมือนใช้ชีวิตฉันสามีภรรยาทั่วไป

“ใช่สิ ฉันมีแกเป็นลูกสาวแค่คนเดียว จะไม่ร้องขอเรื่องอื่น ก็อยากให้แกจัดงานแต่งงานอันงดงามเจิดจรัส มีหลานให้ฉันคนสองคน! แกอย่ามาบอกฉันนะ ว่าแกไม่เคยคิดเรื่องนี้สักนิด”

ซึ่งเป็นไปตามคาด คุณหญิงปภาวีพูดเป็นมั่นเป็นเหมาะเฉพาะเจาะจงมาเลย พูดจนญาธิดาไม่รู้ว่าจะพูดเฉไฉว่าอย่างไรดี “หนู…”

เมื่อเห็นเธอแสดงท่าทางแบบนี้ คุณหญิงปภาวีถึงหมดคำพูด “ตาแก่ คุณดูสิ ลูกสาวคนนี้ของคุณ ไม่รู้เรื่องรู้ราว ไม่คิดไม่หือไม่อืออะไรเลย!”

ยติภัทรนั่งดื่มเหล้าตามปกติ หลังจากนั้นพลันเงยหน้ามองญาธิดา “ธิดา ที่แม่แกพูดมาก็ไม่ผิดหรอก พวกเราไม่ได้คาดหวังเรื่องอื่นๆเลย แต่ว่าแกกับตาวินก็จดทะเบียนกันแล้ว เรื่องพิธีรีตองที่ควรจะจัดก็ต้องจัดการอยู่ดี”

เมื่อได้ยินประโยคเหล่านั้นที่ท่านทั้งสองคนพูดออกมา ญาธิดาเริ่มแสดงอาการกระวนกระวายใจออกมา ภวินท์ไม่เคยเอ่ยถึงเรื่องนี้มาก่อนเลย เธอเองก็ไม่แม้แต่จะคิดถึงด้วยซ้ำ

ยติภัทรเห็นว่าญาธิดาไม่ได้พูดอะไร พลางพูดต่อไปเรื่อย “พ่อกับแม่แค่อยากให้แกมีชีวิตที่ดีขึ้น เมื่อจัดงานแต่งงานกันแล้ว ซึ่งถือว่าแกได้เข้าไปอยู่ในตระกูลสถิรานนท์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ พิธีการจัดแบบเรียบง่ายก็พอ บอกญาติพี่น้องของทั้งสองฝ่ายให้ทราบ ทุกคนมาฉลองกันให้ครื้นเครงเล็กน้อยกฌพอ”

ญาธิดาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ พลางพูดเสียงแผ่วเบา “พ่อคะ หนูเข้าใจแล้วค่ะ หนูจะไปคุยกับภวินท์ให้นะคะ”

ทำไมเธอจะไม่เข้าใจความห่วงใยของพ่อแม่ ซึ่งการที่พร่ำออกมาตั้งมากมายขนาดนี้ ก็แค่หวาดกลัวว่าเธอเข้าไปอยู่ในตระกูลสถิรานนท์จะถูกรังแกเอา

อีกทั้ง เธอเองก็หวังเป็นอย่างยิ่งที่จะจัดงานแต่งงานของตัวเองอย่างจริงๆ จังๆ ถึงอย่างไรชีวิตนี้ก็มีแค่ครั้งนี้ครั้งเดียว

เมื่อรับประทานอาหารเย็นเสร็จเรียบร้อย และเดินออกมาจากบ้านแม่ ญาธิดามุ่งหน้าเดินออกมานอกหมู่บ้าน พลางครุ่นคิดถึงคำพูดที่พ่อกับแม่เพิ่งจะพูดออกมาเมื่อครู่อย่างจริงๆ จังๆ จึงได้แอบตัดสินใจอยู่เงียบๆ รอให้เธอเดินทางกลับมาถึงบ้านพักก่อน ถ้าได้เจอหน้ากับภวินท์ จะได้พูดคุยเรื่องนี้กับเขาได้อย่างทันที!

เมื่อกลับมาถึงบ้านพักแล้ว ญาธิดามองเห็นรถที่จอดอยู่ในสนามในบ้าน จึงรู้ทันทีว่าภวินท์กลับมาแล้ว เมื่อเธอเดินเข้าประตูบ้าน จึงเอ่ยปากถามป้าจันทร์ทันที “ป้าจันทร์คะ ภวินท์ล่ะคะ?”

“คุณชายน่าจะอยู่ในห้องหนังสือนะคะ คุณลองเดินไปดูสิ”

“ค่ะ”

ญาธิดาเดินขึ้นชั้นสองไป และเดินไปถึงตรงประตูห้องหนังสือ จากนั้นก็เคาะประตูห้องเบาๆ “ภวินท์คะ?”

ภายในห้องหนังสือเงียบกริบ และไม่มีเสียงคนพูดตอบรับแต่อย่างใด

ญาธิดาค่อยๆ ผลักประตูเข้าไป พลางเดินเข้าไปอย่างระแวดระวัง และเดินวนหาหนึ่งรอบ ก็ไม่เห็นแม้เงาของชายหนุ่มสักนิด

คอมพิวเตอร์ที่วางอยู่บนโต๊ะก็ยังเปิดอยู่ เขาเดินไปไหนเนี่ย?

ญาธิดากำลังเตรียมจะหันหลังเดินออกไป และเพิ่งเดินมาถึงประตู พลันมีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้นจากทางด้านหลัง

เธอลังเลอยู่เล็กน้อย พลางสาวเท้ามุ่งหน้าเดินไปยังด้านหน้าโต๊ะหนังสือ และหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา

บนหน้าจอโทรศัพท์ปรากฏเป็นชื่อคนคนหนึ่ง— นิว

ชื่อนี้อีกแล้ว!

หัวใจญาธิดาบีบรัดแน่น ในชั่วขณะที่กำลังลังเลว่าจะกดสายดีหรือเปล่า ทางด้านหลังก็มีเสียงเคร่งขรึมของชายหนุ่มดังขึ้น “คุณกำลังจะทำอะไร!”

เธอหันหลังกลับอย่างกระวนกระวายใจ และยังไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบโต้ใดๆ ภวินท์เดินปรี่พุ่งหน้ามา โดยยื่นมือออกมาแย่งโทรศัพท์ที่อยู่ในมือของเธอไปทันที

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์