ญาธิดารู้สึกว้าวุ่นเป็นอย่างมาก ในหัวของเธอปรากฏภาพความน่าเป็นทั้งหมดที่พอจะเป็นไปได้ ก่อนจะสลัดความคิดพวกนั้นออกไป แล้วระงับความคิดที่ไม่สมควรเมื่อสักครู่ลง
เธอยิ้มให้กับคนที่ช่วยปลดล็อกโทรศัพท์ หลังจากขอบคุณเขาแล้ว เธอจึงจะหยิบโทรศัพท์ตัวเองขึ้นมาแล้วจากไป
เธอเดินก้าวขาไปยังโรงพยาบาลอย่างรวดเร็ว คำถามมากมายผุดขึ้นมาในหัวของเธอ แต่เธอกลับไม่เข้าใจเลยสักนิด และข่าวการเสียชีวิตของภวินท์ที่เธอได้ยินเมื่อสักครู่นั้น เหมือนกับก้อนหินก้อนใหญ่ ที่กดทับหลังของเธอ จนทำให้เธอหายใจแทบจะไม่ออก
แต่ว่า ถึงจะเป็นแบบนั้นจริงๆ เธอก็ยังคงไม่เชื่อ คนแน่วแน่อย่างภวินท์ จากโลกนี้ไปง่ายๆ ได้ยังไง
เขาไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้ง่ายๆ และเขาไม่ใช่คนที่จะเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง!
เธอไม่เชื่อ ไม่มีทางเชื่อ!
เมื่อถึงประตูหน้าห้องพักคนไข้ของอัญมณี เธอสูดหายใจเข้าลึกๆ ปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แล้วยกมือขึ้นเปิดประตูเข้าห้องไป
เพราะห้องพักคนไข้นี้เป็นห้องวีไอพี จึงมีพื้นที่กว้างขวาง แล้วยังมีห้องนอนแยกอีกหลายห้อง พอเธอเดินเข้าไป สิ่งแรกที่เห็นก็คือห้องรับแขก ส่วนห้องพักคนไข้ของอัญมณีนั้นอยู่ห้องข้างๆ
ในเวลานี้ ธีทัตที่นั่งอยู่บนโซฟา อ่านหนังสือเป็นเพื่อนอีธานและเอลล่า พอได้ยินเสียงคนเข้ามา พวกเขาก็เงยหน้าขึ้นพร้อมกันอย่างไม่ได้นัดหมาย
พอธีทัตเห็นว่าเป็นญาธิดา ใบหน้าก็เผยรอยยิ้มอย่างอบอุ่นขึ้นมาทันที “กลับมาแล้วหรือครับ?”
ญาธิดาตอบเขาแบบเมิน ก่อนจะมองเด็กทั้งสองคนที่วิ่งมาหาเธอ
อีธานและเอลล่ากอดขาของเธอเอาไว้คนละข้าง พร้อมอ้อนเธอตามประสาเด็ก
ญาธิดาก้มหัวลง มองเด็กที่น่ารักราวกับเทวดาตัวน้อยทั้งสองคน ไม่รู้ว่าทำไม เธอถึงได้นึกถึงภวินท์ขึ้นมา ทันใดนั้น เธอก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา
เธอกัดริมฝีปากของตัวเอง ก่อนจะตัดสินใจเรื่องบางอย่างในใจ เธอลูบหัวเด็กทั้งสองคน แล้วพูดเสียงเบาว่า “เด็กๆ ไปเล่นกันเองก่อน ได้ไหมคะ? แม่มีเรื่องอยากคุยกับพ่อของลูกนิดหน่อย”
อีธานพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม และรับปากแม่ของเขาอย่างลูกผู้ชาย “แม่ครับ ไม่ต้องกังวลนะครับ ผมจะดูแลน้องอย่างดีครับ!”
ญาธิดาหัวเราะ มองภาพที่พวกเขาจับมือกันแล้วเดินไปอ่านหนังสืออีกด้านอย่างรู้งาน ถึงจะหันกลับมามองธีทัตอีกฝั่ง เธอพูดด้วยเสียงอันเบา “ทัต คุณออกมาแป๊บหนึ่ง ฉันมีเรื่องอยากคุยกับคุณ”
รอยยิ้มใต้ตาของธีทัตหายไปในทันที ราวกับว่าเขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง เขาพยักหน้าตอบ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินมาหาเธอ แล้วแสร้งถามด้วยท่าทางสบาย “เจมส์บอกอะไรคุณหรือเปล่า? สีหน้าคุณดูไม่ดีเลย”
ญาธิดาฝืนยิ้ม เดินหันตัวออกจากห้องคนไข้ แล้วปิดประตูลง เธอถึงจะหันมามองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ข้างๆ
เธอสูดหายใจเข้าเต็มปอด เหมือนกับกำลังให้กำลังใจตัวเองก่อนจะพูดออกมา “ทัต ฉันอยากกลับประเทศก่อนกำหนด”
“ว่าไงนะ?” สีหน้าของธีทัตนั้นตกใจ มองเธอด้วยความตกใจ แล้วถามอีกครั้ง “คุณว่าไงนะ?”
ญาธิดาสูดหายใจเข้าอีกครั้ง แล้วพูดอีกรอบ “ฉันอยากกลับประเทศ”
เธอไม่รู้เหมือนกันว่าอะไรทำให้เธอเป็นแบบนี้ อะไรทำให้เธอตัดสินใจเรื่องนี้อย่างไม่มีเหตุผล แต่อย่างไรก็ตาม ในหัวของเธอตอนนี้ มีเพียงความคิดนี้เท่านั้น
ธีทัตที่เห็นเธอแน่วแน่ สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย ถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ทำไม?”
ญาธิดาสูดหายใจเข้า ไม่รู้ว่าต้องตอบยังไง
ถ้าเป็นเมื่อก่อน หากเกิดเรื่องอะไรกับภวินท์ เธอจำเป็นต้องรีบถามไถ่เกี่ยวกับเขา แต่ตอนนี้ เธอกับเขาไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกัน......
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...