เมื่อถามคำถามนี้ ทุกคนต่างก็นิ่งเงียบ
ไม่มีใครรู้ว่าตำแหน่งของเขาถูกเปิดเผยได้อย่างไร เขาอยู่กันอย่างสงบเสงี่ยมมาเดือนกว่าแล้ว แต่จู่ ๆ ก็เกิดปัญหาขึ้น
ภวินท์ขมวดคิ้วครุ่นคิด
ขณะนี้สิ่งที่เขาเป็นห่วงมากที่สุดก็คือคนที่สถานปฏิบัติธรรม ทั้งท่านเจ้าอาวาส ยังมีเหล่าเณรน้อยอีก ....
อีกด้านหนึ่ง ณ สถานปฏิบัติธรรมบนเขาราม
ญาธิดาเดินสำรวจทั่ววัดแล้วแต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ เธอขยิบตาไปหาพี่เข้มและพยัคฆ์ เป็นการส่งสัญญาณ หลังจากพูดคุยกับเจ้าอาวาสสักพักนึงพวกเธอก็ขอตัวลา “ตอนนี้ฝนก็หยุดตกแล้ว เวลาก็ล่วงเลยมานานแล้ว พวกเราต้องขอตัวลาก่อน ขอบคุณท่านเจ้าอาวาสที่ให้การต้อนรับค่ะ”
ญาธิดาพนมมือเข้าด้วยกัน และโค้งคำนับให้กับเจ้าอาวาส
เจ้าอาวาสยิ้มให้เล็กน้อย และพูดว่า “ไม่เป็นไร อาตมาจะให้เณรศีลไปส่งพวกท่านแล้วกัน”
จากนั้นท่านก็โบกมือเรียกเณรศีล
ญาธิดาจ้องมองเณรน้อยตรงหน้าด้วยความเอ็นดู
เณรศีลเงยหน้าขึ้นมาสบตาเธอ แก้มก็แดงขึ้นอีกครั้ง พาทุกคนไปยังประตู “ตามผมมาครับ”
ญาธิดาอมยิ้มและเดินตามไป จากนั้นนักบวชชราหลังค่อมก็เดินไปข้างหน้าเจ้าอาวาส และพูดบางอย่างด้วยน้ำเสียงจริงจัง
เธอสังเกตเห็นใบหน้าที่ยิ้มแย้มของเจ้าอาวาสเปลี่ยนเป็นกังวลเล็กน้อย เขาขมวดคิ้วและพูดบางอย่างกับนักบวชชรา
เธอมองด้วยความแปลกใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร จากนั้นก็เดินตามเณรน้อยออกจากสถานปฏิบัติธรรมไป
ในที่สุด หลังจากบอกลาเณรน้อยแล้ว เดินออกมาได้สักพัก พี่เข้มก็ถามขึ้นว่า “เจออะไรบ้างไหม?”
ญาธิดาหายใจเข้าลึก ๆ และพูดว่า “ไม่เลย”
ตอนแรกฉันก็คิดอยู่ว่าภวินท์จะอยูในที่แบบนี้หรือเปล่า แต่หลังจากลองเดินดูรอบ ๆ แล้ว ก็ไม่พบที่ที่น่าสงสัย ยกเว้นแต่ลานเล็กตรงนั้น ซึ่งก็อาจจะเป็นที่ที่ไม่ค่อยให้คนทั่วไปเข้าไปดูก็ได้
หลังจากได้ยินที่ญาธิดาพูด พี่เข้มและพยัคฆ์ก็ไม่ได้พูดอะไร
การผิดหวังซ้ำ ๆ มักจะทำให้คนทุกข์ทรมาน
เมื่อเห็นพวกเขาสองคนทำหน้าตาผิดหวัง ญาธิดาก็เข้าไปปลอบเบา ๆ “ฉันขอเบอร์ติดต่อเจ้าอาวาสไว้แล้ว รอพวกเรากลับกันแล้วฉันจะลองสอบถามดูว่าเดือนที่ผ่านมาพบเหตุการณ์อะไรแปลก ๆ บ้างไหม”
แม้จะพูดแบบนี้ แต่เธอเองก็ไม่แน่ใจว่าการมาหาเบาะแสที่นี่นั้นถูกต้องหรือเปล่า เป็นเพราะคำพูดของสิงโต...
พยัคฆ์พยักหน้า พลางมองขึ้นไปบนฟ้า “ท้องฟ้ายังครึ้ม ๆ อยู่เลย พวกเรารีบไปกันเถอะ”
ญาธิดาและพี่เข้มเห็นด้วย
ทั้งสามคนรีบออกไปจากที่นั่น จนไม่ทันสังเกตเลยว่ามีบางคนแอบซ่อนตัวอยู่ในพุ่งไม้ด้านหลัง
เมื่อทั้งสามคนจากไป คนที่ซ่อนอยู่ในพุ่งไม้ก็ลุกออกมามุ่งหน้าไปยังสถานปฏิบัติธรรม ส่วนคนอีกกลุ่มหนึ่งก็ล้อมสถานปฏิบัติธรรมไว้
ตอนนี้มีรอบ ๆ สถานปฏิบัติธรรมถูกรายล้อมไปด้วยผู้คนที่กำลังรออย่างเงียบเชียบ ภูผาเดินออกมาจากอีกฝั่งปัดฝุ่นตามตัวพูดกับตัวเองว่า “แค่นี้ฉันก็ให้เกียรติธีทัตมากพอแล้ว”
ทันทีที่พวกเขามาถึงที่นี่ ก็ได้ติดต่อกับคนของธีทัตและหมอก ทำให้ทราบว่าญาธิดาเข้าไปแล้วยังไม่ออกมา พวกเขาจึงซ่อนตัวรออยู่ด้านนอกรอให้พวกเธอกลับไปแล้วจึงค่อยบุกเข้าไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...