ภูผาพาคนมาประมาณยี่สิบคน ชุดดำยืนเป็นแถวเรียงราย ซึ่งมีมากกว่าลูกน้องของภวินท์มาก
ภูผาเดินเข้ามาใกล้ วินาทีที่เขาเห็นภวินท์นั่งอยู่บนรถเข็น รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขาแทบจะในทันที เขาก้าวออกมามองไปที่ภวินท์แล้วพูดอย่างเยาะเย้ยว่า “ไม่เจอกันนานเลยนะพี่ใหญ่”
ภวินท์สีหน้าเคร่งขรึม เขาไม่หวั่นไหวกับรอยยิ้มจอมปลอมของเขาเลยสักนิด
ภูผายิ้มพลางกวาดสายตามองไปที่ญาธิดาที่อยู่ข้าง ๆ เขา รอยยิ้มของเขายิ่งชัดเจนมากขึ้นกว่าเดิม เขามองเธอก่อนจะพูดทักทาย “คุณธิดา เจอกันอีกแล้ว ทำไมคราวนี้ถึงมาอยู่กับพี่ใหญ่ของผมได้? แล้วคุณธีทัตสามีของคุณล่ะ?”
ภูผาก็เหมือนงูเหมือนแมงป่องพิษที่เชี่ยวชาญเรื่องทิ่มแทงหัวใจของคนอื่น ญาธิดาขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจแต่ไม่ได้ตอบอะไร
เมื่อภูผาเห็นว่าไม่มีใครสนใจเขา เลยได้แต่ลูบจมูกเบา ๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันว่า “ทำไม? เรียกฉันมาที่นี่แต่กลับไม่มีใครพูดอะไรสักคำ หมายความว่าไง?”
ทันใดนั้นสายลมก็โบกพัดผ่านมาพร้อมกับเสียงแผ่วเบาของผู้หญิงคนหนึ่ง “ภู...”
ภูผาตัวแข็งทื่อ ก่อนจะรีบหันมองไปตามเสียงโดยสัญชาตญาณ และเมื่อเห็นคนหลายคนบนแนวโขดหิน สีหน้าของเขาก็เคร่งขรึมขึ้นทันที
ผู้หญิงผมเผ้ายุ่งเหยิงที่อยู่ตรงกลางนั้นคือเกล้าแก้วไม่ใช่เหรอ?
หัวใจของเขาบีบรัดหดตัวอย่างรวดเร็ว แต่ไม่นานความรู้สึกแปลกประหลาดที่เหมือนถูกเข็มทิ่มแทงนั้นก็หายไป สีหน้าของเขากลับมาเป็นปกติอีกครั้ง แต่รอยยิ้มกลับหายไปอย่างสมบูรณ์แล้ว
เขาหันกลับมามองภวินท์ “ทำไม? ขู่ผม?”
ในที่สุดภวินท์ก็อ้าปากพูดขึ้นเนือย ๆ ว่า “ฟันต่อฟันไง”
“ไม่รู้ว่าแกยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนได้หรือเปล่า”
ภูผาหมดความอดทนแล้ว เขาขมวดคิ้วแน่น “เรื่องไหน?”
ภวินท์พูดโดยไม่ขยับเขยื้อน “ครั้งที่ญาธิดาถูกผูกติดไว้กับประภาคาร”
ภูผาหวนนึกได้ในทันใด เหตุการณ์ในครั้งนั้นเขากับสิงโตสมรู้ร่วมคิดกันจริง ๆ เดิมทีเขาคิดว่าครั้งนั้นจะสามารถคร่าชีวิตของภวินท์ได้ แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะดวงแข็ง มีชีวิตรอดมาได้
แล้วครั้งนี้ก็เหมือนกัน! รู้แบบนี้แต่แรก เขาคงจะจัดการทุกอย่างอย่างเด็ดขาดไม่ปล่อยให้มีปัญหาตามมาแน่!
“เรื่องในครั้งนั้นฉันคิดมาตลอดว่าสิงโตเป็นคนทำเอง จนกระทั่งรู้ว่าพวกแกเป็นพวกเดียวกัน ฉันถึงได้เข้าใจเรื่องทุกอย่าง”
ภวินท์พูดอย่างไม่รีบร้อน “คนที่รู้ว่าฉันเป็นโรคกลัวทะเลลึกมีแค่คนในตระกูลสถิรานนท์ ฉะนั้นเรื่องนั้น แกเลยเป็นคนวางแผนการตั้งแต่แรก!”
ญาธิดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ถึงกับอึ้งไปทันทีเมื่อได้ยินคำว่า “โรคกลัวทะเลลึก”
ภวินท์เป็นโรคกลัวทะเลลึก? แต่ว่านี่มันเกี่ยวข้องอะไรกับเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อห้าปีก่อนล่ะ?
จู่ ๆ ภูผาก็หัวเราะเยาะเย้ยขึ้นมา “แต่สุดท้ายพี่ก็ไม่ตายไม่ใช่หรือไง? ตอนนั้นพี่โดดลงทะเลไปเองคนเดียวเพื่อจะช่วยชีวิตผู้หญิงคนนี้ แล้วพี่ก็ลากเธอจากทะเลขึ้นไปจนถึงชายหาดโดยไม่ตายไปเสียก่อน ผมประเมินพี่ต่ำเกินไป”
ญาธิดาที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ได้แต่ยืนนิ่ง เธอตกใจจนพูดอะไรไม่ออก
เป็นไปได้ยังไง? ตอนนั้นภวินท์เป็นคนช่วยเธอเหรอ? แต่ในความทรงจำของเธอ เขาไม่เคยปรากฏตัวเลยนี่นา!
ภวินท์หัวเราะออกมาอย่างเย็นชาแล้วพูดขึ้นว่า “แต่ไหนแต่ไรแกชอบใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของคนอื่นมาตลอด แต่แกรู้ไหมว่าเกล้าแก้วกลัวอะไร?”
ไม่ทันที่ภูผาจะพูดอะไร เขาก็พูดต่อไปว่า “เธอกลัวความสูง ตกจากแนวโขดหินลงไปในทะเล ความสูงระดับนี้ก็น่าจะเพียงพอแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...