คืนนั้น
ญาธิดานอนอยู่บนเตียง พลิกไปพลิกมานอนยังไงก็นอนไม่หลับ เธอคิดไม่ถึงเลยว่าเมื่อห้าปีก่อนจะมีเรื่องที่เธอไม่รู้มากมายขนาดนี้
แต่ตอนนั้นที่เธอฟื้นขึ้นมา ธีทัตบอกกับเธอคนละอย่างกันเลยนี่นา
พายุบอกว่าตอนที่พวกเขาไปถึงที่ชายหาดเขาเห็นแค่ภวินท์คนเดียว แต่ตอนนั้นธีทัตบอกกับเธอว่าเขาเห็นเธอนอนอยู่บนชายหาดแค่คนเดียว ไม่เห็นภวินท์เลย
แต่ถ้าภวินท์ช่วยเธอไว้จริง ๆ พวกเขาจะต้องนอนสลบอยู่บนชายหาดด้วยกันแน่ ๆ ในเมื่อเป็นแบบนี้ แสดงว่าฉบับที่เธอได้ยินมาต้องมีคนพูดโกหกแน่ ๆ
เมื่อเปรียบเทียบทั้งสองฝ่ายแล้ว พายุไม่มีความจำเป็นที่จะต้องพูดโกหกเธอเลย แต่ธีทัตล่ะ? เขาจะโกหกเธอเหรอ?
หลังจากคิดไปคิดมา สะลึมสะลือ และสุดท้ายเธอก็ไม่สามารถต้านทานความง่วงต่อไปได้และผล็อยหลับไปในที่สุด
พอตื่นนอนขึ้นมาในวันรุ่งขึ้น พระอาทิตย์ขึ้นแล้ว อากาศดีมาก ๆ ราวกับว่าเมฆดำหนาแน่นที่ปกคลุมไปทั่วท้องฟ้าเมื่อคืนเป็นเพียงแค่ภาพลวงตา
ญาธิดาตื่นสายนิดหน่อย เธอยืดตัวบิดขี้เกียจ หลังจากล้างหน้าล้างตาอย่างรวดเร็วแล้วก็รีบลงไปทานอาหารเช้าด้านล่าง และบังเอิญเจอกับคุณย่าที่กำลังจะออกไปรดน้ำดอกไม้พอดี
ทันทีที่คุณย่าเห็นเธอ ก็ฉีกยิ้มกว้างและเดินเข้ามาหา แล้วถามด้วยรอยยิ้มว่า “นอนหลับเป็นยังไงบ้าง? เมื่อวานออกไปกับวินคงจะยุ่งมาก คงจะเหนื่อยแย่เลยล่ะสิ?”
ทันทีที่ญาธิดานึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืนเอก็รู้สึกหนาวสั่นขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ เธอฝืนยิ้มแล้วพูดเบา ๆ ว่า “เมื่อวานกลับมาดึกมาก ก็เลยนอนนานไปหน่อยค่ะ”
“ไม่เป็นไร ๆ หนูกับวินควรจะอยู่ด้วยกันมาก ๆ จะได้สร้างความรู้สึกความสัมพันธ์ต่อกัน...”
คุณย่ายังพูดไม่ทันจบ ญาธิดาก็เดาออกแล้วว่าเธออยากจะพูดอะไร เธอจึงรีบเปลี่ยนหัวข้อสนทนาทันที “คุณย่าคะ ข้าวเย็นจะเย็นแล้ว เดี๋ยวหนูขอตัวไปทานอาหารเช้าก่อนนะคะ”
คุณย่าเลยต้องยอมปล่อยเธอไป “โอเค ๆ รีบไปทานข้าวเถอะ”
ญาธิดานั่งลงที่โต๊ะอาหาร ระหว่างทานข้าวต้มเธอก็หยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาดูข่าว เมื่อวานโทรศัพท์ของเธอแบตหมดเลยไม่ได้ดูและปล่อยให้เครื่องมันดับไป ตอนนี้เพิ่งจะมีเวลาว่างดู เมื่อวานไม่ได้เช็กดูข่าวคราวเลย
คุณปภาวีส่งข้อความมาหาเธอทางวีแชท พร้อมกับวิดีโอคอลมาอีกสองสาย โทรมาเมื่อวานทั้งนั้นเลย แต่เธอไม่ได้รับ
“ธิดา หนูจัดการธุระเสร็จแล้วหรือยัง? จะกลับมาเมื่อไหร่? เด็กสองคนนั้นบ่นหาทุกวันเลย คิดถึงจนกินข้าวไม่ลงเลยนะ”
เมื่อเห็นข้อความจากคุณปภาวี ญาธิดาก็รู้สึกขมขื่นในใจ จะว่าไปเธอก็ไม่ได้เห็นอีธานเอลล่ามาหลายวันแล้ว ตอนนี้เธอรู้สึกหัวใจว่างเปล่า
นิ้วมือของเธอสัมผัสลงบนหน้าจอ และส่งข้อความกลับไปถึงคุณปภาวี “แม่คะ เรื่องทุกอย่างจัดการเสร็จแล้ว เดี๋ยวสองวันนี้ก็กลับไปแล้ว ไม่ต้องห่วงนะคะ”
หลังจากที่เธอกดส่งข้อความออกไป เธอก็รู้สึกเกร็งขึ้นมาเล็กน้อย เธอกำลังลังเลว่าจะวิดีโอคอลหาคุณปภาวีดีไหม ใครจะรู้ว่าจู่ ๆ เสียงออดประตูบ้านจะดังขึ้น
เธอเงยหน้าขึ้นมองผ่านกระจกใสที่อยู่ด้านหน้าโต๊ะอาหารทะลุผ่านไปทางประตู ก่อนจะรู้สึกประหม่าขึ้นมาเล็กน้อยอย่างบอกไม่ถูก
เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านพักส่วนตัวของหลุยส์ ที่ตั้งค่อนข้างเป็นส่วนตัว การรักษาความปลอดภัยก็สมบูรณ์แบบ เพื่อรักษาความปลอดภัยของภวินท์ หลุยส์จึงได้พาเขาเข้ามาพักชั่วคราว หลังจากที่เธอพักอยู่ที่นี่มาสองสามวันเธอก็รู้สึกได้ถึงความสงบและความปลอดภัยของที่นี่ ในความทรงจำของเธอ นอกจากพวกลูกน้องของหลุยส์กับภวินท์ที่จะเทียวไปเทียวมาที่นี่ ก็ดูเหมือนจะไม่มีแขกที่ไหนแล้ว
ดังนั้นการที่เสียงออดประตูดังในวันนี้จึงทำให้ทุกคนรู้สึกกะทันหันมาก
ภายในบ้านมีคนคอยรับใช้ไม่มากนัก เมื่อได้ยินเสียงออดประตู คุณป้าที่ทำอาหารจึงรีบไปที่ประตู เปิดรูตรงประตูเหล็กออกอย่างระมัดระวัง หลังจากพูดกับคนที่อยู่ด้านนอกสองสามประโยคเธอก็กลับเข้ามา
เมื่อคุณย่าที่กำลังเดินเล่นอยู่ในสวนดอกไม้เห็นจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ “ใครมาเหรอ?”
คุณป้าตอบตามความจริงว่า “เป็นผู้หญิงค่ะ น่าจะวัยเดียวกันกับคุณธิดาบอกว่าต้องการพบคุณภวินท์ ฉันไม่ได้ยินคุณชายบอกว่าจะมีแขก จึงบอกไปว่าเธอมาผิดที่”
แต่ทันทีที่เธอพูดจบ เสียบตบประตูแรง ๆ ก็ดังมาจากทางประตูอีก ก่อนจะตามด้วยเสียงหวีดแหลมของผู้หญิง “พี่วิน! นี่ฉันเอง! ฉันนิวเอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...