พวกเขาเพิ่งก้าวเท้าเดินไป จากนั้นคนกลุ่มหนึ่งก็ออกมาจากทางหนีไฟข้างๆ ผู้นำคือคราม ตรงไปที่ห้องผ่าตัดโดยไม่ลังเล...
อีกด้าน หลังจากญาธิดากับธีทัตเสร็จสิ้นการทำขั้นตอนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ก็วางแผนที่จะกลับไป
ทันใดนั้น ธีทัตจับมือเธอแล้วพูดเสียงนุ่ม “เราไปเดินเล่นในสวนกันไหม ผมเห็นว่าคุณเครียดเกินไป แบบนี้ไม่ดีต่อสุขภาพของคุณ…”
ญาธิดาส่ายหน้าและพูดเสียงเบา “กลับกันเถอะ เฝ้าอยู่หน้าประตูฉันถึงจะรู้สึกสบายใจ”
ธีทัตพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง ไม่รู้ว่าควรพูดอย่างไร แต่ใจเขารู้ดีว่าเวลานี้เกรงว่าคนของภูผาคงยังไม่ได้ย้ายเกล้าแก้วออกไป หากพวกเขากลับไปบางทีอาจจะปะทะกัน ถึงตอนนั้นเรื่องจะยิ่งยากขึ้นไปอีก
เขาสูดหายใจเข้าลึก จับมือญาธิดาไม่ยอมปล่อย เขาพูดเน้นคำต่อคำ “ธิดา สภาพคุณที่แบบนี้ทำให้ผมเป็นห่วงมากเลยนะ”
ญาธิดาขมวดคิ้วเล็กน้อย มองเขาอย่างจริงจังพร้อมกับพูดว่า “ฉันสบายดี ตอนนี้ฉันแค่อยากอยู่เฝ้าหน้าประตูห้องฉุกเฉินรอเธอออกมา”
ทันใดนั้นธีทัตก็พูดไม่ออก
เขาสูดหายใจเข้าลึกและพูดเสียงเบา “ก็ได้”
เขาพูดอย่างนั้นแล้วจึงปล่อยมือของญาธิดา และเดินตามเธอไปช้าๆ
ทางเขาไม่สามารถถ่วงเวลาได้ จึงได้แต่หวังว่าคนของทางฝั่งภูผาจะย้ายคนออกไปโดยเร็วที่สุด
ญาธิดารีบไปจนถึงห้องผ่าตัด พบว่าไฟที่ประตูห้องฉุกเฉินดับลงแล้ว ซึ่งหมายความว่าสิ้นสุดการช่วยเหลือ
เธอหายใจหอบ ก้าวเข้าไปสอบถามพยาบาลทันที “สถานการณ์ข้างในเป็นยังไงบ้างคะ เด็กปลอดภัยหรือเปล่า”
พยาบาลมองเธออย่างแปลกใจ ขมวดคิ้วและพูดว่า “เมื่อครู่มีคนกลุ่มหนึ่งเอาคนออกไป คุณไม่ทราบเหรอคะ”
“อะไรนะ” ญาธิดาราวกับถูกฟ้าผ่า สมองว่างเปล่า เธอมองพยาบาลที่อยู่ตรงหน้าด้วยความสับสน จิตใจครุ่นคิดถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด
เธอได้สติและไล่ถามทันที “คนพวกนั้นมีลักษณะยังไงคะ”
“กลุ่มชายชุดดำเหมือนพวกแก๊งมาเฟียค่ะ การผ่าตัดยังไม่เริ่มก็มาชิงเอาคนออกไป...”
สมองของญาธิดาเกิดเสียงแจ้งเตือน แทบจะรู้แล้วว่าเกิดอะไรขึ้น เธอมองพยาบาลอีกครั้งแล้วถามว่า “พวกเขาไปทางไหนคะ”
“ทางนั้นค่ะ”
พยาบาลชี้บอกทางเธอ
ญาธิดาบอกขอบคุณซ้ำๆ ไม่กล้าล่าช้าแม้แต่วินาทีเดียว วิ่งไปทางนั้นทันที
เป็นไปได้มากว่าคนพวกนั้นคือคนที่ภูผาส่งมา เธอรู้ดีว่าถ้าออกไปทางนั้น ที่ใกล้ที่สุดคือประตูหลังของโรงพยาบาล พวกเขาต้องพาเกล้าแก้วออกไปทางประตูหลังแน่นอน
ธีทัตขมวดคิ้ว ก้าวกว้างไล่ตามมา “ธิดา! คุณอย่าไป รอผมอยู่ที่นี่ ผมตามไปเอง!”
ญาธิดาเดินต่อไปไม่หยุด “ไม่ได้ ฉันเป็นคนที่ทำคนหายไป ฉันต้องไป!”
ทันใดนั้น เธอนึกอะไรขึ้นได้อีกอย่าง รีบหันหน้าไปมองธีทัต “ทัต คุณไปเรียกรปภ.ที่ประตูหน้ามาสองสามคน บอกว่าข้างนอกมีเรื่องเกิดขึ้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...