เมื่อได้ยินภวินท์พูดแบบนั้น อีธานกับเอลล่าก็พยักหน้าเห็นด้วย ก่อนจะมองญาธิดาด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม
ญาธิดานิ่งอยู่กับที่ อยากจะอธิบายแต่ก็อธิบายไม่ถูก แล้วจู่ ๆ ก็รู้สึกว่าตัวเองโดนฉวยโอกาส!
ไม่รู้ว่าอีธานเอลล่าไปเข้าพวกกับภวินท์รวมหัวกันรังแกเธอแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำเอาเธอโมโหจัด
แต่ว่าพูดถึงวันเกิดของภวินท์ ถึงแม้ว่าจะเรียบง่ายแต่บรรยากาศกลับดีมาก พวกเขาช่วยกันจุดเทียน อธิษฐานและร้องเพลงวันเกิด ทำทุกอย่างที่ควรจะทำในวันเกิด ร้องเพลงกระโดดโลดเต้น หัวเราะครึกครื้น...
หลังจากเล่นกันเสร็จ เจ้าเด็กสองคนก็เริ่มง่วงนอน ญาธิดากับภวินท์ช่วยกันเกลี้ยกล่อมพวกเขาไปล้างหน้าล้างตาแล้วเข้านอน
เมื่อเห็นพวกเขาสองคนนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียงอย่างรวดเร็ว ญาธิดาก็รู้สึกโล่งใจ
เธอย่องออกจากห้องอย่างเบาไม้เบามือและปิดประตูห้องลง พอหันไปอีกทีก็เห็นภวินท์อยู่ข้าง ๆ
ชายหนุ่มนั่งอยู่บนโซฟา คล้ายกับกำลังรอเธอ เขาจ้องมาทางเธอด้วยรอยยิ้มในดวงตา แต่กลับไม่ยอมพูดยอมจา
ญาธิดาเดินเข้าไปแสร้งทำเป็นทำความสะอาดจานและช้อนส้อมบนโต๊ะราวกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แม้ว่าเธอจะไม่ได้เงยหน้ามอง แต่เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาของชายหนุ่มที่จับจ้องเธออยู่ตลอดไม่วางตา
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ กัดฟันฝืนใจเงยหน้าขึ้นมองแล้วถามเขาอย่างเก้อเขินว่า “มองพอหรือยัง?”
“ยังไม่พอ” ภวินท์ขยับริมฝีปากเล็กน้อย ก่อนจะเอื้อมมือมาจับมือเธอไว้แล้วดึงเธอเข้าไปใกล้ตัว
ญาธิดานิ่ง เธอไม่ทันตั้งตัว ได้ยินแค่เสียงของชายหนุ่มพูดขึ้นว่า “ญาธิดา พวกเรากลับมาคบกันใหม่อีกครั้งเถอะนะ!”
พอได้ยินแบบนั้น ญาธิดาก็ตกใจมาก เธอเหลือบตาขึ้นมองความตื่นตระหนก สบสายตากับดวงตาดำแวววาวของชายหนุ่ม ในหัวของเธอหวิว ๆ เหมือนกับไฟฟ้าลัดวงจรไปชั่วขณะ
เมื่อกี้...ที่ภวินท์พูดหมายความว่าไง?
ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ตรงข้างจ้องมองสีหน้าท่าทางของเธอที่แสดงออกมาก่อนจะยิ้มจาง ๆ “ช่วงเวลาที่อยู่ที่นี่ เธอมีความสุขไหม?”
ญาธิดาได้แต่อ้าปาก แต่ไม่รู้จะตอบยังไง
แม้ว่าเธอจะไม่ได้พูดอะไรออกไป แต่คำแรกที่ผุดขึ้นมาในหัวของเธอคือ “มีความสุข” ในคอนโดเล็ก ๆ นี้ มีเสียงหัวเราะมากมายของเธอและพวกเด็ก ๆ เป็นความทรงจำที่ยากจะลืมเลือน...
เมื่อเห็นว่าเธอเอาแต่เงียบไม่ยอมพูด ภวินท์จึงตอบแทนเธอว่า “เธอมีความสุข อีธานเอลล่ามีความสุข ฉันก็มีความสุขมาก แล้วทำไมพวกเราถึงไม่กลับมาคบกันอีกครั้งล่ะ? พวกเราเคยเข้าใจผิดกันมามากมายหลายเรื่อง แต่ตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าคนที่ฉันต้องการคือเธอ คือเธอ ญาธิดา ไม่ใช่คนอื่น!”
น้ำเสียงของเขาฟังดูจริงใจและแน่วแน่ ทุกคำพูดของเขาติดตรึงอยู่ในหัวใจของญาธิดา หัวใจของเธอเต้นแรง เมื่อต้องเผชิญหน้ากับความนิ่งสงบ ความจริงใจของเขา มันทำให้เธอเกิดความรู้สึกบางอย่างที่ยากจะอธิบายขึ้นมาในใจ
อันที่จริง ตั้งแต่ที่เธอเอาแต่ปฏิเสธธีทัตครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็พอจะรู้ความรู้สึกของตัวเองแล้วว่าในใจของเธอยังมีภวินท์อยู่ ไม่อย่างนั้นตลอดห้าปีที่ผ่านมา เธอคงไม่แม้แต่จะยอมรับใครเข้ามาเลยแบบนี้
พื้นที่ในหัวใจของเธอถูกยึดครองแล้ว ดังนั้นเธอจึงไม่สามารถหาพื้นที่ว่างที่จะไปรักคนอื่นได้อีก
และผู้ชายคนนั้นที่มีผลต่อหัวใจของเธอมากที่สุดก็อยู่ตรงหน้าเธอแล้วในตอนนี้
เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ พยายามบีบบังคับคำตกลงที่จะกลับไปคบกันอีกครั้งที่กำลังจะหลุดออกจากปากของเธอเอาไว้ ความเป็นจริงทำให้เธอนึกถึงข้อตกลงระหว่างเธอกับภูผาขึ้นมา พรุ่งนี้...เธอจะต้องทรยศผู้ชายที่อยู่ตรงหน้าเธอตอนนี้ ผู้ชายที่เธอเป็นห่วงเป็นใยที่สุดคนนี้...
ความสุขมาถึงแล้ว เขาสารภาพความในใจของตัวเอง และเธอก็รักเขาด้วยเหมือนกัน แถมพวกเขายังมีลูกที่น่ารักแล้วถึงสองคน เพียงแค่พวกเขาทั้งคู่สารภาพต่อกัน และแก้ไขความเข้าใจผิด พวกเขาก็จะเป็นครอบครัวที่มีความสุขที่สุด
แต่ว่า...ตอนนี้เธอทำไม่ได้ เธอจำเป็นต้องเลือกระหว่างพ่อแม่กับภวินท์ และไม่ว่าจะเลือกทางไหน อีกฝ่ายก็ต้องโดนทำร้าย...
เธอกัดฟันแน่นพยายามสงบสติอารมณ์ เธอดึงมือออกจากภวินท์ น้ำตาคลอในดวงตาก่อนจะฝืนเดินออกไปอีกทาง
“ญาธิดา”
ภวินท์ขมวดคิ้วเล็กน้อยแล้วลุกขึ้น
ญาธิดาหันหลังให้เขาแล้วส่ายหัวไปมา เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฉันอยากอยู่คนเดียวสักพัก”
ความรู้สึกที่กำลังสุกงอมดับสลายลงในทันที บรรยากาศเหมือนถูกแช่แข็ง อึดอัดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก ภวินท์มองแผ่นหลังของญาธิดา นิ่งไปพักหนึ่งแววตาหม่นหมอง ก่อนจะหันหลังเดินไปทางห้องนอนของตัวเอง เพื่อให้พื้นที่ส่วนตัวกับเธอ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...