“คุณธิดา เรามาถึงแล้วครับ” เสียงนอบน้อมของคนขับรถดังขึ้นมา
ญาธิดางัวเงีย ลืมตาขึ้นมาอย่างมึนเบลอ จากนั้นถึงได้หยิบกระเป๋าลงไปจากรถ
บอดี้การ์ดหน้าประตูเปลี่ยนคนใหม่ คนพวกนี้ล้วนแล้วแต่เป็นคนที่จรณ์ฝึกมาทั้งนั้น ด้วยเหตุนี้การแต่งกายและการวางตัวจึงแตกต่างจากบอดี้การ์ดคนอื่น
ลำดับของพวกเขาในองค์กรไม่เหมือนคนอื่น การแต่งกายก็ไม่เหมือน ยิ่งคนที่มีฝีมือดีเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องอำพรางใบหน้าเอาไว้ จะได้สะดวกเข้าไปสอดแนมทุกที่ทุกเวลา
แต่วันนี้เเธอรู้สึกว่าบอดี้การ์ดที่อยู่หน้าประตูวันนี้ดูแปลกๆไป ก็ไม่รู้ว่าแปลกไปตรงไหน
เมื่อคนขับรถสบตากับเธอ สีหน้าพลันเครียดเกร็งขึ้นมา จากนั้นก็ส่ายหน้าส่งสัญญาณไม่ให้เธอตื่นตูม
ญาธิดาสูดลมหายใจเอาอากาศสดชื่นเข้าปอดยกใหญ่ เมื่อมองไปรอบๆ ถึงได้สังเกตว่าบ้านพักมีบางอย่างผิดปกติไป
ปกติบริเวณรอบบ้านจะมีบอดี้การ์ดและคนใช้เดินไปเดินมา ในบ้านมักจะเต็มไปด้วยผู้คน แต่วันนี้กลับเงียบเหงาผิดปกติ จนได้ยินเสียงจักจั่นร้องมาจากในสวน ยิ่งเสริมให้บรรยากาศดูน่ากลัว
เธอมองสำรวจบอดี้การ์ดสองคนที่อยู่หน้าประตู กดข่มความหวาดหวั่นที่กำลังตีรวนอยู่ข้างใน เอ่ยถามเสียงเย็นว่า “ป้าจันทร์กลับมาหรือยัง?”
บอดี้การ์ดเงียบ เธอกำลังจะถอนหายใจออกมา บอดี้การ์ดหนึ่งในนั้นก็เอ่ยพูดขึ้นมาอย่างกะทันหันว่า “เธอออกไปข้างนอกครับ แต่ไม่ได้บอกว่าออกไปทำอะไรมา”
ได้ยินแบบนั้นในใจของเธอพลันกระตุกวูบ
ป้าจันทร์ไม่มีทางลางานและออกไปข้างนอกง่ายๆ เธอก็แค่อยากลองหยั่งเชิงถามว่าพวกเขาใช่คนของตัวเองหรือเปล่า
แบบนี้ก็แสดงว่า ตอนนี้บ้านพักไม่ปลอดภัยแล้ว
เธอก้าวถอยหลังโดยอัตโนมัติ มองผู้ชายสองคนตรงหน้าอย่างหวาดระแวง แสร้งทำเป็นพูดออกมาอย่างสบายๆว่า “ไม่เป็นไร เธอบอกฉันแล้วว่าหลานสาวไม่สบาย เลยขอไปเยี่ยมสักหน่อย ดูเหมือนวันนี้คงต้องไปหาอะไรกินข้างนอกแล้วล่ะ”
ญาธิดาพูดจบ ก็ก้าวเท้าตรงไปยังประตูเหล็ก ในตอนที่เดินผ่านบอดี้การ์ดสองคนนั้น พวกเขาก็ยื่นมือออกมาขวางเธอ “คุณผู้หญิง ป้าจันทร์กลับมาตั้งนานแล้วครับ”
“เธอกลับมาแล้วเกี่ยวอะไรกับฉัน? ฉันกับเธอใครเป็นคุณนายบ้านนี้กันแน่?” เธอเอ่ยถามอีกฝ่ายเสียงเย็นพร้อมกันนั้นก็หยุดฝีเท้า อีกแค่สองเมตร เธอก็จะออกไปจากตระกูลสถิรานนท์ได้อย่างราบรื่น
บอดี้การ์ดสองคนมองตากัน จากนั้นก็เอ่ยพูดเสียงเย็นว่า “คุณผู้หญิง คุณผู้ชายฝากแจ้งว่า เขารอคุณอยู่ที่ห้องหนังสือ”
ญาธิดากำกระเป๋าแน่น เบนสายตาไปมองคนขับรถ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าสองคนนี้ไม่คิดจะปล่อยพวกเขาออกไปจากบ้านพัก
คนขับรถยักคิ้วให้เธอ พยักพเยิดหน้าเบาๆ บ่งบอกให้เธอเตรียมตัววิ่งออกไปทางประตู
เธอพยักหน้าเบาๆ ตอนที่หันกลับมาทางบอดี้การ์ดสองคน ก็แสร้งตอบกลับด้วยน้ำเสียงสบายๆว่า “คุณผู้ชายกลับมาแล้วจริงๆเหรอ? เรื่องสำคัญขนาดนี้ทำไมเขาไม่บอกฉันก่อนล่วงหน้า!”
พูดจบ เธอก็ทำท่าจะเดินเข้าไปในบ้าน ยังไม่ทันได้ขยับเท้า ทันใดนั้นข้างหลังก็มีลมเย็นๆเฉียดผ่าน
หางตาเหลือบเห็น เงาดำๆแล่นผ่านตัวเธอไป เข้าคลุกวงในกับบอดี้การ์ดสองคนนั้น
“คุณธิดาหนีไปครับ” เสียงเข้มๆของคนขับรถดังขึ้นมา ญาธิดาวิ่งออกไปทางประตูใหญ่อย่างไม่คิดลังเล หันกลับไปมองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเป็นห่วง
พวกเขาทั้งสามคนต่างเคยผ่านการฝึกเฉพาะทางมา ดังนั้นในตอนที่ออกหมัดจึงทั้งเร็วและแรง ใช้คำว่าแรงถึงตายมาบรรยายก็ไม่เกินจริง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...