บทที่ 746 แสดงความสามารถพิเศษ – ตอนที่ต้องอ่านของ ดวงใจภวินท์
ตอนนี้ของ ดวงใจภวินท์ โดย สายฝน ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายโรแมนซ์ทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 746 แสดงความสามารถพิเศษ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
“ธิดา ฉากนี้แสดงได้ดีมากๆ มีพรสวรรค์ด้านนี้จริงๆ” lee Tongพูดชื่นชมออกมาจากใจ
ญาธิดารู้สึกเกรงใจไม่น้อย เม้มริมฝีปากพูดตอบกลับ “ฉันก็แค่แสดงเป็นสตั๊นท์แมนเท่านั้นเองค่ะ ได้รับคำชมจากคุณ ฉันรู้สึกดีใจมากจริงๆ”
พูดจบ เธอก็ชี้ไปที่เนื้อหาในสคริปต์ สีหน้าลังเลไม่น้อย “ฉันเป็นมือใหม่ มีข้อแนะนำเล็กๆ น้อยๆ นิดหน่อย ถ้าเกิดว่าไม่ถูกต้อง ได้โปรดคุณอย่าใส่ใจเลยนะคะ”
lee Tongขมวดคิ้วมองเธออย่างอดไม่ได้ บ่งบอกว่าให้เธอพูดต่อ
“ฉันรู้สึกว่าตำแหน่งกล้องหมายเลขสามของฉากที่แล้วมีปัญหาค่ะ มันง่ายมากต่อการที่จะทำให้ถ่ายเห็นหน้าด้านข้างของสตั๊นท์แมน แบบนี้มันจะทำให้การตัดต่อในภายหลังยุ่งยากมากๆ ต้นทุนค่าใช้จ่ายก็จะยิ่งเพิ่มสูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว หนังที่ผ่านการตัดต่อมาหลายครั้งจะส่งผลกระทบต่อประสบการณ์ในการรับชมได้”
เธอพูดจบ ก็เหลือบตามองปฏิกิริยาของคุณลีอย่างระมัดระวัง ไม่คาดคิดว่าคุณลีจะไม่ได้แค่ไม่โกรธเท่านั้น แต่กลับครุ่นคิดพิจารณาคำพูดของเธออย่างละเอียดถี่ถ้วนอีกด้วย สุดท้ายก็พยักหน้าเห็นด้วย พูดถามขึ้นมาอย่างจริงจัง “ถ้าอย่างนั้นคุณรู้สึกว่าควรจะเปลี่ยนซะจะดีกว่า?”
ญาธิดากางแผนที่ที่อยู่ข้างๆ ออกมา ใช้ปลายนิ้ววนอยู่ที่บริเวณหนึ่ง จากนั้นก็จำลองตำแหน่งของกล้องหมายเลขสาม
“ฉันรู้สึกว่าสามารถปรับตำแหน่งของกล้องหมายเลขสามสักหน่อยได้ค่ะ ให้นักแสดงเข้ากล้องมาเยื้องๆ จากทางด้านหลัง จากนั้นก็ให้ถ่ายตามรางนี้ ผลลัพธ์มันจะดีกว่านิดหน่อยค่ะ”
ราวกับคิดอะไรขึ้นมาได้ เธอพูดเสริมขึ้นมาต่อ “อีกอย่าง ต้องเปลี่ยนตำแหน่งของต้นไม่เทียมต้นนั้นที่อยู่ข้างๆ ฉากด้วยค่ะ ตอนนี้เงาของต้นไม้ต้นนั้นมันมาบังแสงของกล้องหมายเลขห้าเข้าพอดี มันก็จะทำให้ฉากมืดลงมากอย่างเห็นได้ชัด”
lee Tongแววตาเต็มไปด้วยความชื่นชม รีบแจ้งให้พวกทีมงานไปปรับแต่งอุปกรณ์ประกอบฉากและกล้องตามคำแนะนำของญาธิดาทันที จากนั้นก็เอ่ยปากชม “ความคิดกับความคิดเห็นที่คุณเสนอมามีความเป็นมืออาชีพมาก คิดไม่ถึงว่าคุณยังมีความสามารถทางด้านนี้อยู่ด้วยนะครับ”
“คุณลีชมกันเกินไปแล้วค่ะ” เธอรีบโบกมือทันที พูดขึ้นด้วยความเกรงใจ “จริงๆ แล้วเทคนิคการถ่ายและความคุ้นชินมากมายของฉันนี้ก็เรียนรู้มาจากคุณทั้งนั้น ภาพยนตร์ของคุณเป็นเกณฑ์มาตรฐานในการเรียนรู้ของฉันมาโดยตลอดค่ะ”
“คุณเข้าใจทักษะการถ่ายของผม?” พอได้ฟังคำตอบของเธอ lee Tongก็ทั้งตกใจและดีใจ “ดูเหมือนว่าคุณจะเรียนเกี่ยวกับสาขาการแสดงนะ ไม่ทราบเรียนรู้สืบทอดมาจากท่านไหนเหรอ? ผมจะต้องไปขอพบและคารวะเขาสักหน่อยแล้ว เป็นอาจารย์ชื่อดังท่านไหนที่มีสายตาเฉียบแหลม รับลูกศิษย์ที่ฉลาดขนาดนี้แบบคุณกันนะ”
ญาธิดารีบโบกมือทันที “ฉันไม่ใช่มืออาชีพอะไรหรอกค่ะ แค่ตอนที่อยู่อเมริกาได้เข้าไปศึกษาเอกการแสดงมาสองปีเท่านั้นเองค่ะ เทียบกับผู้กำกับชื่อดังคนอื่นๆ แล้วยังห่างชั้นกันมากเลยค่ะ”
lee Tongได้ฟังแบบนั้นก็หันมองเธอเหมือนกับกำลังครุ่นคิดอะไรอยู่ ขณะที่กำลังจะพูดต่อ ผู้ช่วยฝ่ายการผลิตที่อยู่ข้างๆ ก็กลับมาเรียบร้อยแล้ว พูดเตือนว่าสองคนสามารถเริ่มการถ่ายทำต่อได้แล้ว
เธอรีบกลับไปยังตำแหน่งเดิมของตนเองทันที
ฉากที่สองค่อนข้างจะอาศัยความเป็นมืออาชีพของสตั๊นท์แมน เพราะว่าฉากนี้เธอจะต้องพูดอธิบายสถานภาพตัวตนของตัวเองให้กับอีธานและเอลล่าในหนังด้วยความอดทน
ล้มเลิกความคิดที่ว่าพวกเขาเรียกเธอว่า “แม่” ดังนั้นจึงจำเป็นต้องถ่ายให้เห็นหน้าด้านข้างของเด็กทั้งสองคน แน่นอนจะต้องถ่ายติดหน้าด้านของเธอด้วยเหมือนกัน
ดีที่เธอจัดเตรียมตำแหน่งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว กล้องหมายเลขสามเข้ามาในฉากจากทางด้านหลังของเธอ ลากเลนส์กล้องเข้ามาขณะที่เลื่อนมาตามราง ที่ถ่ายเอาไว้ได้นั้นแทบจะเป็นหน้าของอีธานและเอลล่าทั้งนั้น
พอตาเห็นกล้องถ่ายหน้าด้านข้างของเธอ เธอก็ขยับอย่างฉลาดเฉลียว ลูบผมมาตรงไหล่ด้วยท่าทางอ่อนโยน ในขณะเดียวกันเลนส์หมายเลขสามก็เคลื่อนมาที่ด้านข้างหน้าของสองสามคนตรงนั้น
ผมที่ปล่อยสลวยลงมาปิดแก้มของเธอเข้าพอดี เห็นแค่ขนตางอนๆ กับสันจมูกที่โด่งอย่างคลุมเครือไม่ชัดเจนเท่านั้น
“ฉันหวังว่าตัวเองจะได้กลายเป็นผู้กำกับที่ยอดเยี่ยมแบบคุณมากกว่า เกิดเป็นคนไม่ควรจะลืมความตั้งใจเดิมของตัวเองใช่ไหมล่ะคะ?” เธอเอียงหัวยิ้มเบาๆ เหมือนกับกำลังปลอบคุณลี
คุณลีถึงได้ยอมแพ้ ไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก มองเธอพูดเปลี่ยนประเด็น “เดี๋ยวอีกสักสองสามวันผมจะแนะนำอาจารย์คนหนึ่งให้คุณรู้จัก หวังว่าจะมีส่วนในการช่วยคุณไม่มากก็น้อย”
ตำแหน่งในแวดวงผู้กำกับของlee Tong ทุกคนต่างก็เห็นพ้องต้องกันว่า มีผลงานที่ยอดเยี่ยมนับไม่ถ้วน การที่สามารถได้รับการแนะนำบุคคลจากเขาได้ สำหรับญาธิดาแล้ว ถือว่าเป็นโอกาสที่หาได้ยากยิ่ง
เธอรีบพูดขอบคุณlee Tongทันที แล้วก็พูดคุยปรึกษาเรื่องรายละเอียดของการถ่ายทำในวันพรุ่งนี้ ก่อนจะพาอีธานและเอลล่าออกจากกองไป
ในขณะนี้เอง ภายในห้องแต่งหน้าที่ตกแต่งหรูหรา พราวฟ้าที่กำลังนั่งลบเครื่องสำอางอยู่สีหน้าก็เปลี่ยนไปเหี้ยมโหด จ้องมองผู้ช่วยที่อยู่ข้างหลังพร้อมกับพูดตะคอกออกมา “พูดมาอีกรอบซิ!”
ผู้ช่วยพูดพึมพำออกมาอย่างระมัดระวัง “คุณลีบอกว่าอยากจะยกบทนางเอกให้กับคุณญาธิดา แต่ว่าถูกคุณญาธิดาปฏิเสธไปก่อน”
“กะอิแค่แม่บ้านที่เลี้ยงลูกเท่านั้น มันคิดว่ามันเป็นใครกัน!” พราวฟ้าระเบิดโมโหออกมาราวกับสายฟ้าฟาด ปัดเครื่องสำอางราคาแพงที่อยู่ตรงหน้ากระจกทิ้งลงไปที่พื้น ช่างแต่งหน้าที่อยู่ข้างๆ หลบไม่ทัน มือสั่นสะดุ้ง ดึงขนตาปลอมออกจากหน้าของเธอทั้งอย่างนั้น
เธอกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ผู้จัดการรีบเปิดประตูเข้ามา พยุงเธอนั่งลงไปให้เรียบร้อย ก่อนจะพูดโน้มน้าวออกมาด้วยสีหน้าประจบสอพลอ “ที่รัก บอกกับคุณกี่ครั้งแล้ว ว่าโมโหจะไม่ดีต่อผิวพรรณ วันนี้มีไอ้คนไม่ดูตาม้าตาเรือคนไหนมายั่วโมโหคุณอีกเหรอ?”
เธอผลักผู้จัดการออกด้วยความรังเกียจ พูดถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “บทนางเอกจะเปลี่ยนเป็นนังชั้นต่ำนั้นแล้ว นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ผู้จัดการแอบจ้องมองผู้ช่วยหนึ่งที ก่อนจะพูดตอบกลับมา “ข่าวลือล้วนๆ คุณเป็นนางเอกที่นักลงทุนแต่งตั้งมาเองเลยนะ ต่อให้ lee Tong จะมีความสามารถมากมายขนาดไหน ก็ไม่กล้าเปลี่ยนคุณเป็นคนอื่นแน่นอน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...