ผู้ถือหุ้นต่างมองหน้าสบตากัน สีหน้าดูค่อนข้างแย่ หนึ่งในผู้ถือหุ้นรีบยืนขึ้นเพื่อไกล่เกลี่ย “คุณคณินอายุยังน้อยแต่ช่างเป็นคนตลกดีจัง”
คณินเลิกคิ้ว ถามกลับด้วยน้ำเสียงรังเกียจ “คุณเป็นใคร คุณเห็นผมเหมือนกำลังล้อคุณเล่นเหรอ อายุมากโขขนาดนี้แล้วแม้แต่ล้อเล่นหรือไม่นั้นก็ยังดูไม่ออก หรือสมองของคุณจะใหญ่เท่าเมล็ดทานตะวันเท่านั้น”
ได้ยินการเยาะเย้ยถากถางจากเขา สีหน้าของผู้ถือหุ้นก็แดงก่ำ จึงตอบกลับด้วยความขุ่นเคือง “ STN Group ของพวกเรามีรากฐานที่มั่นคง สามารถร่วมมือกับบริษัทข้ามชาติ JV เพราะความสามารถที่แข็งแกร่ง ไม่ใช่เพราะผู้หญิงเพียงคนเดียว!”
“เหรอ พวกคุณสามารถลองดูได้เลย ไม่มีญาธิดาจะสามารถทำสัญญากับบริษัทของพวกผมได้ไหม”
มีการข่มขู่ที่คลุมเครือในน้ำเสียงของเขา จากนั้นเหมือนคิดอะไรขึ้นได้ ได้กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ภารกิจในต่างประเทศที่ STN Group กับบริษัทข้ามชาติ JV ร่วมมือด้วยกัน ก็เป็นญาธิดาที่เป็นคนทำสำเร็จ ในเมื่อทุกคนมีอคติกับเธอ อย่างนั้นการร่วมมือนี้ก็สามารถยกเลิกได้เลย”
โครงการที่เขาพูดนั้นสำคัญอย่างมาก สามารถกล่าวได้ว่าเป็นก้าวสำคัญของการขยายตัวของ STN เห็นเขาเสนอการยกเลิกความร่วมมืออย่างตรงๆ ท่าทางของผู้ถือหุ้นก็อ่อนโยนลงอย่างมาก ฮึดฮัดแล้วพยายามกู้หน้าตัวเองกลับมาสักหน่อย
คณินตบเข้าที่ไหล่ของภวินท์ แล้วกล่าวหยอกล้ออย่างไม่เกรงใจ “ครั้งหน้าปกป้องภรรยาคุณให้ดีๆ หน่อย ตาแก่เหล่านี้หากว่าอยู่ในบริษัทของผม ผมไล่ออกไปตั้งนานแล้ว ผมไม่ได้ใจดีเหมือนคุณหรอกนะ”
“พวกเขาเป็นผู้อาวุโสของบริษัทจะทิ้งไม่ได้” ภวินท์มองดูเขาแวบหนึ่งด้วยสายตาที่รังเกียจอย่างเห็นได้ชัด และดึงมือที่อยู่บนไหล่ออก จากนั้นกล่าวด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “ครั้งนี้กะว่าจะนำเงินมาให้ผมเท่าไหร่เหรอ”
คณินได้ยินดังนั้นก็รีบหุบรอยยิ้มเอ้อระเหยทันที สีหน้าก็ดูไม่ค่อยเป็นธรรมชาติเล็กน้อย และกล่าวด้วยแก้มแดงก่ำว่า “ไม่มีโครงการใหญ่อะไร ที่มาครั้งนี้มาเพื่อขอเงินจากคุณ”
เขาพลางกล่าวสายตาพลางสื่อภวินท์ให้เลิกประชุม ผู้ถือหุ้นทุกคนวันนี้ถูกตบหน้าตลอด จึงไม่ค่อยเต็มใจอยู่บริษัทให้นานกว่านี้ ทุกคนจึงรีบแยกย้ายกันไปทันที ห้องประชุมขนาดใหญ่ไม่นานก็เหลือเพียงพวกเขาไม่กี่คน
ชมพู่ยืนอยู่ข้างๆ จะไปก็ไม่ใช่ จะอยู่ก็ไม่เชิง ญาธิดาเหลือบตามองเธอ กล่าวกำชับอย่างเคร่งขรึม “เธอไปรอฉันที่นอกห้องประชุม ฉันมีเรื่องต้องการคุยกับเธอ”
ชมพู่ก้มหน้าลงช้าๆ ไม่กล้าที่จะสบตากับเธอตรงๆ ตอบรับด้วยน้ำเสียงเบาๆ แล้วก็ก้าวเท้าหนักเดินออกจากห้องประชุมไป
“ธิดาตอนนี้เปลี่ยนไปมาก ยิ่งอยู่ยิ่งทำให้คนรู้สึกชอบ” ขณะที่คณินพูด ก็ไม่วายที่จะขยิบตาส่งให้เธอ
ญาธิดาอดไม่ได้ที่จะขมวดคิ้ว จู่ๆ ยกเท้าขึ้นเตรียมท่าจะถีบเขา
สีหน้าของภวินท์ยิ่งดูแย่ ไม่รอให้เขาบอกถึงความตั้งใจของการมา ก็ได้ออกคำสั่งไล่แขกอย่างเย็นชาแล้ว “ไม่มีอะไรคุณคณินก็กลับไปเถอะ เลขาผมจะโอนเงินให้กับคุณโดยตรง”
“ภวินท์ ผมไม่มีความสนใจในตัวภรรยาของคุณจริงๆ!”
เขาพลางพูดพลางหยิบการ์ดเชิญงานแต่งงานสีแดงออกมา เขย่าไปมาอยู่ตรงด้านหน้าของภวินท์กับญาธิดา
ญาธิดาดวงตาเป็นประกาย รีบแย่งการ์ดจากมือของเขามาทันที แล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ชายที่ครองโสดมาหลายหมื่นปีจะสละโสดแล้วเหรอ เจ้าสาวใช่……”
เธอเลิกคิ้วไปทางคณิน ดวงตาเต็มไปด้วยความหมายลึกซึ้ง
คณินเกาศีรษะอย่างเขินอาย กล่าวตอบด้วยเสียงเบาๆ “อันที่จริงผมเองก็ไม่เต็มใจหรอก ทั้งหมดนี้ล้วนถูกจัดการโดยผู้เฒ่าของบ้านเรา และผมก็ไม่มีทางเลือก”
“ฉันเข้าใจๆ”
เธอค่อยๆ เปิดการ์ดเชิญ และก็เป็นอย่างที่คิด บนช่องชื่อ“เจ้าสาว”เขียนไว้ว่าอัญรินทร์ ยุวนะสิงห์
ครั้งก่อนที่ญาธิดากับคณินเจรจาเรื่องสัญญาในบาร์นั้น เธอก็รู้สึกว่าสองคนนี้เข้ากันแปลกๆ ท่าทางเหมือนกับเป็นการรักแรกพบ คิดไม่ถึงว่าจะมีข่าวดีการแต่งงานออกมาได้เร็วขนาดนี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...