ดวงใจภวินท์ นิยาย บท 802

ระหว่างที่พูด แสงในดวงตาของเขาสว่างมากขึ้นเรื่อยๆ น้ำเสียงจริงจังเพิ่มมากขึ้น

“ถึงแม้ว่าคุณจะไม่ชอบคุณพ่อแล้ว ก็ไม่มีอะไรที่จะมาพรากพวกเขาทั้งสองคนให้จากกันได้ครับ ผมและน้องสาวคือโซ่ทองคล้องใจของคุณพ่อกับคุณแม่ ขอแค่พวกเราอยู่เคียงข้างคุณพ่อคุณแม่ตลอดไป พวกเขาก็จะอยู่ด้วยกันตลอดไปครับ”

นิธิศตกใจเมื่อได้ยินเช่นนี้ เมื่อมองไปยังอีธานอีกครั้งก็ได้รับรู้ถึงความอันตราย เขาไม่กล้าจะเชื่อเลยว่าคำพูดพวกนี้จะออกมาจากปากเด็กอายุประมาณห้าหกขวบ

เขาต้องยอมรับว่าสิ่งที่อีธานพูดนั้นถูก ตราบใดที่ภาระดทั้งสองนี้ยังติดตัวธิดา ด้วยนสัยของธิดาแล้ว เธอไม่มีทางที่จะออกจากชีวิตภวินท์

เธอรักลูกๆ เธออยากมอบครอบครัวที่สมบูรณ์ให้กับพวกเขา แต่ถ้าไม่มีเด็กสองคนนี้ งั้นแสดงว่า......

พอคิดได้เท่านี้ ดวงตาของเขาก็ค่อยๆ เผยให้เห็นสีแดงเข้ม

เพียงไม่นานญาธิดาก็ทำความสะอาดคราบบนเสื้อเสร็จ เมื่อกลับมาที่ห้องอาหารอีกครั้งเธอก็รู้สึกว่าบรรยากาศในห้องไม่ได้ผ่อนคลายแม้แต่น้อย แต่ยังรู้สึกหดหู่มากขึ้น

ที่นั่งของอีธานอยู่ตรงกับประตูพอดี เขารู้ตัวตั้งแต่เธอผลักประตูเข้ามา จึงรีบฉีกยิ้มอย่างน่ารักและไร้เดียงสา เพราะกลัวว่าแม่จะจับผิดได้

แต่น้ำเสียงของเขายังคงจริงจัง ก่อนจะเข้าใกล้นิธิศแล้วเตือนว่า “ผมและน้องสาวมีเพียงพ่อแค่คนเดียว คุณลุงเปลี่ยนเป้าหมายใหม่เถอะครับ”

พูดจบเขาก็ออกจากโต๊ะอาหารทันที ก่อนจะรีบวิ่งมากอดญาธิดาเอาไว้ ก่อนจะพูดพร้อมร้องไห้อย่างน่าสงสาร “คุณแม่ กลับมาสักทีครับ น้องเอาแต่พูดว่าไม่สบาย เรารีบกลับกันเถอะครับ”

พอได้ยินว่าเอลล่าไม่สบาย สีหน้าของเธอก็เครียดขึ้นมาทันที เธอรีบเดินไปหาลูกสาว แล้วถามด้วยความเป็นห่วงว่า “เอลล่าไม่สบายตรงไหนคะ?”

เอลล่าที่เล่นสนุกอยู่ พอโดนเธอถามเช่นนี้ก็รู้สึกงุนงง เอลล่าหันไปหาพี่ชายโดยไม่รู้ตัว ก่อนที่เธอจะเล่นตามน้ำไป

เธอเอามากุมพุงน้อยๆ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารว่า “หนูน่าจะทานอะไรผิด เมื่อกี้รู้สึกปวดท้องมากค่ะ”

ท่าทางของเธอไม่ได้เหมือนคนที่กำลังโกหก อีกทั้งยังบีบน้ำตาออกมาอย่างสมจริง ญาธิดาที่มองรู้สึกทุกข์ใจเป็นอย่างมาก รีบอุ้มเธอเข้ามาในอ้อมกอด แล้วมองนิธิศด้วยสายตาที่รู้สึกผิด

นิธิศที่รู้ว่าครั้งนี้แพ้ให้กับเด็กทั้งสองคน แล้วยังแพ้อย่างราบคาบอีกด้วย

เขารู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก แต่บนใบหน้าของเขายังคงยิ้มอย่างอ่อนโยนนั้นเอาไว้ “สุขภาพของเอลล่าสำคัญกว่า รีบพาลูกกลับไปเถอะครับ” 

ญาธิดาได้ยินเช่นนี้ก็รู้สึกโล่งใจ แล้วพูดขอโทษอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะออกจากห้องนั้น ผู้ชายสังเกตเห็นสีหน้าของอีธานและเอลล่า

เอลล่าซบอยู่ยนไหล่ของเธออย่างเชื่อฟัง แล้วมองไปที่พี่ชายด้วยสีหน้าที่เศร้า ราวกับว่ากำลังโทษเขา ส่วนสีหน้าของอีธานนั้นเป็นธรรมชาติมาก ก่อนจะจากไปเขาก็ไม่ลืมที่จะฝากบางอย่างทิ้งท้ายไว้ให้นิธิศ ราวกับว่ากำลังเตือนเขาอยู่

เพียงไม่นานแม่ลูกทั้งสามคนก็จากไป

นิธิศแอบกำหมัดแน่น ดวงตาของเขาหยุดลงบนตัวต้นกล้าที่สมองเฉื่อยช้า ความเกลียดชังในใจของเข่าอตัวเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ทำไมไอ้เด็กนอกคอกสองคนนั้นนั้นถึงมีไอคิวที่สูงกว่าเด็กอายุรุ่นเดียวกันได้ ส่วนลูกของเขากลับเหมือนเด็กที่หัวสมองช้า เขาชมตัวเองว่าเขาไม่ได้แย่กว่าภวินท์ พูดได้แค่ว่าปัญหาอยู่ที่แม่ของเด็ก

ถ้าเขาได้มีลูกกับธิดา แสดงว่าสามารถแทนที่ไอ้เด็กนอกคอกสองคนนั้นในใจของเธอได้ ลูกของเขากับธิดาต้องฉลาดกว่าพวกเขาแน่ๆ แล้วก็ดีมากกว่า......

เมื่อคิดถึงตรงนี้ อารมณ์ของเขาก็ค่อยๆ สงบลง ดวงตาของเขาค่อยๆ ก้มมองอาหารที่เหลืออยู่บนโต๊ะ ดวงตาของเขาสว่างขึ้นในทันที ที่นั่งเมื่อสักครู่ของญาธิดามีแจ็กเกตสีชมพูอ่อนพาดเอาไว้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์