ญาธิดากับภวินท์ถูกขวางเอาไว้ตรงทางเข้าออกของงานนิทรรศการ และท่าทางพวกนี้ก็ดึงดูดสายตาให้มองมาที่นี่ได้มากมาย
และที่นี่ก็ไม่ใช่เมือง Jไม่มีใครรู้จักตัวตนที่แท้จริงของพวกเขา
หลายคนเริ่มกระซิบด้วยใบหน้าที่เหมือนได้ดูเรื่องสนุก
แม้เมื่อถูกมองด้วยสายตาที่มุ่งร้าย ญาธิดาก็ยังสงบนิ่ง และกล่าวอย่างใจเย็นว่า “คุณคะ ฉันคิดว่าคุณควรตรวจสอบเรื่องนี้ให้ชัดเจนนะ นี่เป็นจดหมายเชิญที่คุณเอลีให้เรามาเอง”
แม้ว่าหลังจากได้ยินบทสนทนาของเอลีกับผู้ช่วยของเขาแล้ว ญาธิดาจะพอเดาได้บ้างตัวตนของอีกฝ่ายนั้นมันไม่ธรรมดา แต่ว่าก็ไม่คิดเลยว่าจะต้องเจอกับสถานการณ์แบบนี้
คนรับแขกไม่แม้แต่มองหน้าเธออีก แล้วก็ไม่ฟังที่เธออธิบายด้วย ได้แต่บอกให้ญาธิดากับภวินท์ออกไปจากที่นี่อย่างไร้เหตุผล
ภวินท์ขมวดคิ้ว เตรียมจะหยิบโทรศัพท์ออกมา หาคนช่วยแก้ไขเรื่องนี้
แต่ตอนนี้เอง ก็มีเสียงที่โมโหมากดังขึ้นมาจากทางด้านหลังของพวกเขา
“ปล่อยพวกเขาเดี๋ยวนี้นะ”
ญาธิดารู้สึกว่าเสียงนี้มันคุ้นเคยมาก พอหันหน้ากลับไป ก็ได้เห็นกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโมโหของเอลี
“คุณเอลี!”คนรับแขกรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก แล้วก็เดินเข้าไปต้อนรับเอลีทันที “คุณเอลี คุณมาพอดีเลย ขโมยสองคนนี้ แอบขโมยบัตรเชิญของ……”
สีหน้าของคนรับแขกดูประจบสอพลอมาก หวังว่าจะทำให้เอลีจดจำตัวเองได้
นี่คือเอลีที่มีชื่อเสียงเลยนะ ไม่ถึงสองปีหลังจากที่เขาเข้าสู่วงการเครื่องประดับอย่างเป็นทางการ เขาได้รับความโปรดปรานจากราชินีด้วยสร้อยคอที่เขาออกแบบ และกลายเป็นคนโด่งดังขึ้นมาในทันที
ที่สำคัญคือตอนนี้เขาอายุแค่ 32 ปี หล่อและรวย และเป็นคนรักในฝันของสาวๆ นับไม่ถ้วน
หากเอลีจำเขาได้ เขาก็จะมีโอกาสได้เป็นคนที่อยู่ข้างๆเอลี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...