คนรับแขกก้มหน้าลงอย่างสั่นเทา ญาธิดามองเห็นเหงื่อที่ซึมออกมาจากหน้าผากของเขา
อีกฝ่ายไม่กล้ามองเธอเลย ได้แต่รอการตัดสินโทษของตัวเอง
“ฉันรับคำขอโทษของคุณ”ญาธิดาตอบนิ่งๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะรู้สึกโกรธเล็กน้อยต่อการกระทำที่ไร้มารยาทแบบนี้ แต่มันก็ไม่ได้มีความจำเป็นที่จะเก็บเรื่องนี้มาใส่ใจ
คนรับแขกตะลึงไปเล็กน้อย เพราะไม่คิดว่าตัวเองจะได้รับการให้อภัย
ถ้าเกิดว่าเรื่องแบบนี้มันเกิดขึ้นกับคนอื่น ไม่ใช่แค่จะเสียหน้าที่การงานไป แต่เขาอาจยังต้องรับผิดชอบอีก
“พวกเราเข้าไปได้หรือยังคะ ?”ญาธิดาพูดด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา
“แน่นอนครับคุณผู้หญิง ผมขออภัยอีกครั้งกับการกระทำที่หยาบคายของตัวเองด้วย!”
ญาธิดาพยักหน้าแล้วก็จูงมือภวินท์เดินเข้าไปข้างใน
เพราะว่าการปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันของเอลี ทำให้ทุกอย่างสงบลง และสายตาของทุกคนก็มองมาที่ญาธิดากับภวินท์
ฟังสองคนเคยชินกับสายตาที่มองมาแบบนี้นานแล้ว พอเข้าไปในงานนิทรรศการ ญาธิดาก็หยุดเดินและหันไปมองเอลีที่เดินเข้ามาพร้อมกัน
“คุณเอลี ขอบคุณมากนะคะที่ช่วย”
เอลีอยากจะดึงมือของญาธิดามาแล้วจูบที่หลังมือของเธอ แต่พอเห็นสายตาที่ดูไม่เป็นมิตรของชายผิวขาวด้านข้างของเธอแล้ว ก็รีบควบคุมการกระทำของตัวเองเอาไว้ แล้วก็ยิ้มอย่างสุภาพบุรุษและพูดว่า “ไม่ต้องเกรงใจหรอกครับคุณผู้หญิง นี่มันเป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้ว ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไรเหรอครับ?”
“ญาธิดา ส่วนท่านนี้คือสามีของฉันเอง”ญาธิดากุมมือภวินท์ และแนะนำแบบเรียบง่าย
ภวินท์เอามือไปคล้องเอวของญาธิดาอย่างเป็นธรรมชาติ เหมือนเป็นการประกาศสิทธิของตัวเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ดวงใจภวินท์
อ่านไปด่าไปแม่งนางเอกโคตรโง่พระเอกพูดดีด้วยนิดหน่อยก็หายโกรธยอมโง่ให้หลอกใช้...
รำคาญนิสัยนางเอกโคตรอ่อนแอแล้วยอมคน โดนกระทำมาสารพัดแต่ยอมอภัยให้ง่ายๆ...
<script>alert()</script>...