เฉินซานยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องออกมา ก็หมดลมไปเสียก่อน
ชั่วขณะนั้นที่เกิดเหตุพลันอาบไปด้วยกลิ่นคาวเลือด
หลิวชุนฮัวที่ยืนอยู่อีกด้านตกใจจนขาอ่อนทรุดลงกับพื้น นางสั่นเทิ้มไปทั่วสรรพางค์กาย
แม้แต่หลิวอู่เยี่ยและเหล่าสมุนแขนขาต่างก็อ่อนยวบไปทั้งร่าง บางคนกลัวถึงขั้นฉี่แตก จนทั่วบริเวณคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นไม่พึงประสงค์
ด้านซูเหิงจิ่ง ยื่นมือออกไปปิดตาของกู้เสี่ยวซานเอาไว้
หลังจากจัดการเฉินซานเสร็จ กู้หมิงซวงก็หันหน้ากลับมาอย่างเชื่องช้า สายตาทอดมองมาที่ใบหน้าของหลิวอู่เยี่ย
ครานี้ กู้หมิงซวงยังไม่ทันได้กล่าวอันใด หลิวอู่เยี่ยก็ทรุดเข่าอ้อนวอนว่า “แม่เจ้า ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ ข้าสำนึกผิดแล้ว ต่อไปนี้ข้าจะไม่ยุ่งกับเจ้าอีก….ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ”
กู้หมิงซวงกล่าวอย่างเรียบนิ่ง “อยากให้ข้าปล่อยเจ้าไป แต่เจ้ากลับไม่คิดจะปล่อยข้าอย่างนั้นหรือ”
“ข้าผิดเอง ข้ามันหน้ามืดตามัว……”ไม่รู้ว่าหลิวอู่เยี่ยนึกอันใดได้ ถึงชี้พรึบไปทางหลิวชุนฮัว พร้อมกล่าวว่า “นางนั่นแหละ วันนั้นนางเอาเงินมาให้ข้า ให้ข้าพาสมุนยกพวกไปพังแผงลอยของเจ้า”
คิดไม่ถึงเลยว่ายังไม่ทันได้ลงมือ จะถูกซูเหิงจิ่งหักมือเข้าเสียก่อน
ตอนนี้หลิวอู่เยี่ยคิดว่าตนเองช่างซวยเหลือเกิน
ซึ่งต้นเหตุของความซวยทั้งหมด ก็มาจากนังแก่หลิวชุนฮัวทั้งนั้น ให้ตายสิ หากเขารู้ตั้งแต่แรกว่ากู้หมิงซวงเก่งกาจถึงเพียงนี้ ต่อให้เขาเก่งกล้ามาจากไหน ก็ไม่กล้าเข้าไปยุ่งกับกู้หมิงซวงหรอก!
แม้นเขาจะมีตระกูลเกาไว้พึ่งบารมี แต่แล้วอย่างไรต่อ?
ขนาดเฉินซานมีลูกสมุนกลุ่มใหญ่ กู้หมิงซวงยังจับมีดตัดลิ้นพวกเขาเลย
หลิวอู่เยี่ยกลัวจนจะร้องไห้ออกมาอยู่รอมร่อ
ทางด้านหลิวชุนฮัวเองก็หวาดกลัวเช่นกัน นางไม่คิดเลยว่าหลิวอู่เยี่ยจะโยนความผิดมาให้ตนเช่นนี้
เรื่องมันมาถึงขั้นนี้แล้ว เหตุไฉนกู้หมิงซวงจะไม่รู้ล่ะ
ดูเหมือนว่าหลิวชุนฮัวจะเห็นนางไปขายไก่ฟ้าที่ตลาด เลยจ้างคนมาหาเรื่องนาง จนเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวเหล่านี้สินะ
กู้หมิงซวงหันหน้า ใช้สายตาเยือกเย็นทอดมองไปยังหลิวชุนฮัว ขมวดคิ้วพร้อมกล่าวว่า “เห็นแก่ที่ท่านมีศักดิ์เป็นป้าของข้า ครั้งนี้ข้าจะปล่อยท่านไปก่อน หากคราวหน้าข้ารู้ว่าท่านวางแผนทำอะไรลับหลังข้าล่ะก็ ข้าไม่ปล่อยท่านไปแน่”
หลิวชุนฮัวกลัวจนนกรามสั่นเทิ้ม “เอ้อยา ข้า ข้ามันหลงผิดคิดชั่ว…..”
“ยังมีอีกเรื่อง เสี่ยวซานคือน้องชายของข้า ข้าจักไม่ยอมยกให้พวกท่านเด็ดขาด พวกท่านล้มเลิกความคิดนี้เสียเถิด”
กู้หมิงซวงคร้านจะสนทนากับอีกฝ่ายต่อ จึงเข็นเกวียนออกไปกับซูเหิงจิ่ง
ทันทีที่กู้หมิงซวงจากไป หลิวชุนฮัวก็น้ำตาไหลพรากออกมาอย่างหวาดกลัว
ส่วนหลิวอู่เยี่ยกับสมุนที่ยังไม่ไหนก็พากันลุกขึ้น แล้วเดินมาหยุดตรงหน้าหลิวชุนฮัว แวะเวียนเข้ามาประทานฝ่ามือให้นางคนละฉาด
“อีแก่ เพราะเจ้าข้าถึงมีสภาพเช่นนี้…..แค่ตบหน้าเจ้ายังถือว่าน้อยไปด้วยซ้ำ ต่อไปนี้อย่ามาให้ข้าเห็นหน้าเจ้าอีก!”
“เพี้ยะๆๆ” เสียงฝ่ามือหนักๆดังขึ้น ดวงหน้าทั้งสองข้างของหลิวชุนฮัวพลันบวมแดง เลือดซิบออกมาตามมุมปาก
ถึงอย่างไรนางก็เป็นเพียงสตรีที่ไม่เคยผ่านโลกกว้าง ทันทีที่เห็นพวกหลิวอู่เยี่ยเดินจากไป แม้นจะโกรธและกลัวแค่ไหน นางก็ทำได้เพียงรีบกลับไปที่เรือนของตน
เนื่องจากหลิวอู่เยี่ยเข้ามาคุมตลาด ช่วงหลายวันมานี้ ร้านผ้าของหลิงชุนฮัวจึงเงียบเหงาเป็นพิเศษ
ด้านกู้ต้าไห้ที่ไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ยามเมื่อเห็นว่าค้าขายไม่ดี กอปรกับเห็นว่าหลิวชุนฮัวยังให้กำเนิดบุตรไม่ได้ ก็ยิ่งใช้นางเป็นที่รองมือรองเท้าทุกค่ำคืน
ช่วงนี้หลิวชุนฮัวจึงมีชีวิตอยู่อย่างอดสู
ตรงกันข้ามกับการค้าขายของกู้หมิงซวง ที่นับวันยิ่งขายดิบขายดี
ระยะเวลาเพียงไม่กี่วัน ชาวบ้านเกือบครึ่งในเมืองชิงสือต่างรู้โดยทั่วกันว่ากู้หมิงซวงขายปลาเผ็ด และบริเวณหน้าแผงลอยของนาง ก็มีคนแวะเวียนเข้ามาจนเนืองแน่น
กู้หมิงซวงถือโอกาสนี้นำผ้าที่เขียนข้อความว่า “อาหารว่างกู้ซื่อ” มาแขวนไว้บนเกวียนของตนเพื่อทำเป็นป้ายเรียกลูกค้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...