ในเวลาไม่ถึงหนึ่งถ้วยชา หน้าร้านของกู้หมิงซวงก็กลับมีคนมาต่อแถวเรียงยาวเป็นหางมังกร
มีชายผู้ซื้อปลาเผ็ดเข้าไปกินในโรงหมากรุก แล้วแนะนำรสชาติบอกต่อไป ไม่นานก็ดูดใจคนกลุ่มหนึ่งเข้ามา
“นี่มันสิ่งใดกัน ใยจึงหอมหวนถึงเพียงนี้?”
“ปลาเผ็ดที่อีอ้วนขายอยู่ตรงถนนทางนั้นน่ะ ไปซื้อมาลิ้มลองดูหน่อยไหม”
ผู้คนที่อยู่รอบๆ คีบเข้าปากไปหนึ่งคำ ดวงตาเป็นประกายขึ้นมาพลัน แล้วตบขาเอ่ย “แม่เจ้า รสชาตินี้มันช่างจัดจ้านยิ่งนัก เผ็ดถึงพริกถึงขิงเสียจริงๆ”
“ก็ใช่น่ะสิ เรานั่งเล่นไพ่กันตั้งแต่เช้าจนค่ำ ในปากไร้รสชาติ พอได้กินปลาเผ็ดเข้าไปสองคำคู่กับน้ำซวนเหมยอีกถ้วยหนึ่ง มันช่างยอดเยี่ยมเหนือสิ่งอื่นใดเสียจริง”
“ปลาเผ็ดราคาเท่าใดหรือ?”
“ไม่แพง ไม่แพง แค่สองอีแปะ เจ้ารีบไปเสียเถิด ขืนชักช้าประเดี๋ยวจะซื้อไม่ทันเขา……”
พอพูดขาดคำ คนเหล่านั้นก็เร่งรีบพากันไป
ในโลกหล้านี้ ความอยากกระหายเป็นสิ่งที่มิอาจต้านทานได้ทั้งสิ้น
เงินแค่สองอีแปะ ก็ได้มาซึ่งอาหารรสเลิศ ใครจะไม่ซื้อกัน?
ไม่เพียงแค่ชายเหล่านี้เท่านั้น แม้แต่เด็กน้อยได้กลิ่นหอมหวนนี้ ก็อยากกินจนไปไม่เป็น จึงได้เอาแต่ร้องไห้งอแงกอดแข้งกอดขาพ่อแม่
เมื่อถูกบอกต่อๆกันไป การค้าของกู้หมิงซวงก็เฟื่องฟูระเบิดระเบ้อ ไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ปลาเผ็ดก็ขายออกจนหมดเกลี้ยงทันใด นี่มันดูเกินจริงเสียยิ่งกว่าเมื่อวานนี้อีก
อย่าลืมว่า ปลาเผ็ด ในวันนี้ยังมากกว่าเมื่อวานกว่าสองเท่าตัวเต็มๆเสียอีก
ครั้นพบว่าถังไม้ว่างเปล่าลงแล้ว กู้หมิงซวงก็ทำได้แค่เพียงเหมือนกับเมื่อวาน บอกกล่าวกับพวกเขาว่าพรุ่งนี้ค่อยมาต่อแถวซื้อใหม่
“พรุ่งนี้ที่เดิมนะเจ้าคะ วันนี้ข้าขออภัยลูกค้าทุกท่านด้วย ขอบคุณที่ทุกท่านให้ความสนใจ……วันพรุ่งใครซื้อไม่ทันก็มาต่อแถวนะ ข้าจะชดเชยปลาเผ็ดเพิ่มให้นิดหน่อย”
หลังจากเกลี้ยกล่อมนานา ผู้คนจึงพากันแยกย้ายจากไป
ในเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ กู้หมิงซวงยุ่งหัวหมุนเสียจนไม่มีเวลาหายใจ กู้เสี่ยวซานเองก็คิดเงินเสียจนมือเป็นตะคริว
ดีที่มีซูเหิงจิ่งคอยช่วย อีกฝ่ายมือไม้แม่นยำ ตักไปแต่ละทีก็จะได้ปริมาณไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ทว่ากู้หมิงซวงตักแต่ละทีต่างก็เกินปริมาณ
ครั้นเห็นทุกคนแยกย้ายไปแล้ว กู้หมิงซวงจึงได้ทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ดื่มน้ำแก้เหนื่อยไปอึกใหญ่หนึ่ง
ที่ข้างถนนนั้น หลิวชุนฮัวที่ยืนอยู่เป็นเวลานานก็พลันนึกประหลาดใจขึ้น
ขณะนี้ นางก็รู้สึกราวกับฝันไป
ในหัวมีแต่ภาพฉากแผงค้าน้อยๆอันเฟื่องฟูนั้นผุดขึ้นมาเรื่อยๆ ภาพลูกค้าต่อแถวยาวเป็นหางมังกร นางก็ทำการค้าขายในเมืองชิงสือมาก่อนเช่นกัน แต่ตั้งหลายปีมาแล้ว ก็มิเคยได้ขายดิบขายดีเช่นนี้มาก่อน
คนอื่นๆต่างมองว่า มีถึงร้านค้าร้านขายในเมืองชิงสือ แต่แท้จริงนั้นแต่ละเดือนก็หาเงินได้เพียงพอแค่เลี้ยงปากเลี้ยงท้องครอบครัวก็เท่านั้น
แต่กู้หมิงซวงกลับแตกต่างไป
เมื่อครู่หลิวชุนฮัวก็ได้คำนวณมาตลอดทางแล้วว่า ในเวลาหนึ่งชั่วโมงนี้ กู้หมิงซวงอย่างน้อยก็ทำเงินได้ตั้งหนึ่งตำลึง
นี่มันอะไรกัน? ร้านขายเสื้อผ้าของนางสิบวันถึงครึ่งเดือนจึงจักทำเงินจำนวนนี้ออกมาได้
ในบัดนี้ หลิวชุนฮัวนึกอิจฉาขึ้น อิจฉาจนฟันจะร่วง
นางเจ็บแค้นยิ่งนัก เจ็บแค้นที่คราก่อนใยหลิ่วอู่เยี่ยจึงไม่ขับไล่นางออกไปเสีย ยิ่งเกลียดชัง
กู้หมิงซวงที่จับเส้นทางหาเงินได้ เรื่องรับกู้เสี่ยวซานมาเลี้ยงคงจักหมดหวังแล้วเป็นแน่
ขณะที่หลิวชุนฮัวกำลังขบฟันหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่นั้น ก็พลันแว่วน้ำเสียงเย็นชาออกมาจากข้างในตรอก “อีอ้วน ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้สั่งสอนเจ้าแล้ว วันนี้ข้าจะตีเจ้าให้ตายไปเลย!”
ห่างไปไม่ไกลนัก หลิ่วอู่เยี่ยห้อยแขนข้างหนึ่ง พาลูกน้องเดินตามหลัง ตรงเข้าไปหากู้หมิงซวงด้วยท่าทางดุร้าย
ข้างกายเขายังมีชายร่างใหญ่ เขาสวมใส่เสื้อกล้าม เปิดเผยให้เห็นแขนล่ำๆทั้งสองข้าง บนแขนล้วนเต็มไปด้วยแผลจากรอยดาบอันน่ากลัว นัยน์ตาชั่วร้ายรูปสามเหลี่ยมคว่ำ เหลือบมองไปมา
ที่ร่างของกู้หมิงซวง แล้วเคลื่อนตัวเข้าไปด้วยความเหยียดหยาม
กู้หมิงซวงจัดเก็บกระด้งที่เต็มไปด้วยเหรียญอีแปะทองแดงไว้อย่างดี แล้วจึงลุกขึ้น เอ่ยไปอย่างเรียบเฉยว่า “ที่แท้ก็หลิ่วอู่เยี่ยนี่เอง มิได้เจอกันนานเลยหนา ดูแล้วแผลท่านคงหายดีลืมความเจ็บปวดแล้วกระมัง จึงได้มาหาเรื่องข้าอีกรอบสิท่า”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน
รอจ้าาาา...
ขอทางทีมงานลงต่ด้วยนะคะ...
แอดมินค่ะ จะมีอัพต่ออีกไหมค่ะ ชอบมากเลย รอๆนะค่ะ...
อยากอ่านเรื่องนี้มากกกก ค้างคาใจ แอดมินอีพเดตทีน๊าาา pleaseee...
อยากรู้จัง ซูเหิงจิ่วเป็นใคร แอดมินจ๋าอัพเดตที pleaseeeeee...
เรื่องนี้ก็สนุกมาก รออัพเดตนะค่ะ...
สนุกมากค่ะ รออัพเดตนะคะแอดมิน...
เรื่องนี้สนุกมากเลยค่ะ รออัพเดทนะคะ...
รออัพเดทนะคะ please...
รออัพเดทอยู่นะคะ...