เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน นิยาย บท 48

เมื่อแม่ม่ายสวีสระผมเสร็จ ก็ได้ยินเสียงการเคลื่อนไหวตรงริมฝั่งจึงหันไปมอง

ก่อนหน้านี้นางเคยเจอกู้ต้าไห่ จึงจำได้แม้นมองแค่แวบแรก

นางรู้มาว่ากู้ต้าไห่เปิดร้านขายของอยู่ในเมืองและค่อนข้างมีเงิน แม่ม่ายสวีจึงสนใจ แต่ติดตรงเรื่องหมั้นหมายของตระกูลกู้นางเลยไม่กล้าทำอะไร

บัดนี้ไม่มีเรื่องหมั้นอะไรนั่นแล้ว นางจึงกล้าขึ้นเยอะ

ทั้งสองสบสายตากัน ดั่งไม้ขีดต้องเปลวไฟ ไร้ซึ่งการยับยั้งชั่งใจ เพียงชั่วพริบตาทั้งคู่ก็ลากกันเข้ากองฟาง

หลังเสร็จกิจ กว่ากู้ต้าไห่จะสวมใส่อาภรณ์ตรงดิ่งไปที่บ้านของกู้เจ้าสาม ก็กินเวลาไปเกือบครึ่งชั่วยาม

ด้านหลิวชุนฮัวทำทีเป็นจุดไฟอยู่หน้าเตา แต่ในความเป็นจริงกลับแอบลอบมองหม้อปรุง ท่องจำวัตถุดิบและเครื่องปรุงต่างๆให้ขึ้นใจ

เมื่อท่องจำทุกอย่างได้แล้ว หลิวชุนฮัวก็คร้านจะอยู่ที่บ้านกู้เจ้าสามต่อ

“น้องสะใภ้ ข้าคงต้องกลับไปดูร้านแล้ว เช่นนั้นข้ากลับก่อนนะ”

“ไม่อยู่กินข้าวก่อนหรือ”

“ไม่ล่ะ”

หลิวชุนฮัวขมวดคิ้วอย่างรำคาญ ลานบ้านเต็มไปด้วยกลิ่นคาวปลาเสียขนาดนี้ มันน่าขยะแขยงเป็นที่สุด

หากไม่ใช่เพราะอยากได้สูตร นางก็คงไม่ถ่อมาที่นี่หรอก

ในเมื่อนางได้สิ่งที่นางต้องการแล้ว ก็ควรที่จะรีบออกไปให้เร็วที่สุด

ไม่รอให้นางเฉาเอ่ยรั้ง หลิวชุนฮัวก็ก้าวฉับๆเดินออกไป

เมื่อหลิวชุนฮัวจากไป กู้หมิงซวงก็ยกถังไม้ออกมา แล้วเทวัตถุดิบทุกอย่างทิ้ง

“ซวงเอ๋อร์ ไยเจ้าเททิ้งเช่นนี้เล่า?”

กู้หมิงซวงเอ่ยพูดเรียบนิ่ง “ไม่มีกระไร แค่ของเหล่านี้มันเน่าเสียแล้วเท่านั้น”

นางเฉาไม่ได้ถามอะไรต่อ หันไปขอดเกล็ดปลาเช่นเคย

เป็นกู้หย่วนเต้าที่อยู่ข้างๆโอดครวญขึ้นมาว่า “ไม่คาดคิดเลยว่าพี่สะใภ้จะมาช่วยเราเช่นนี้ นี่สินะที่กล่าวว่าสายใยอย่างไรก็ตัดกันไม่ขาด”

กู้หมิงซวงเพียงยิ้มเยาะออกมา : ใสซื่อเหลือเกิน

กระนั้นนางก็ไม่ได้พูดอันใดออกมา น้ำหน้าเฉกเช่นหลิวชุนฮัว ไม่เกินสองวันท่านพ่อคงได้รู้แจ้ง

อันที่จริงกู้หมิงซวงเองก็สงสัยเช่นกัน ทั้งๆที่หลิวชุนฮัวเปิดร้านขายผ้า เหตุใดถึงหันมาสนใจเกี่ยวกับอาหารขบเคี้ยวเช่นนี้?

ลางสังหรณ์บางอย่างบอกนางว่าต้องมีผู้อยู่เบื้องหลังหลิวชุนฮัวเป็นแน่ อีกฝ่ายคงเอาสูตรที่ได้ส่งต่อออกไป เพื่อวางแผนระยะยาวแน่ๆ

เป็นดั่งที่คาดการณ์เอาไว้ เพราะในวันถัดมาต้าซุ่นจายแห่งเมืองชิงสือก็ได้ทำการขายปลาเผ็ดในแบบเดียวกัน ทั้งยังจัดของสมนาคุณซื้อสองแถมหนึ่งอีกด้วย

ต้าซุ่นจายเป็นร้านค้าร้านใหญ่ เมื่อจัดของสมนาคุณเช่นนี้ ก็ยิ่งมีคนเข้าไปจับจ่ายใช้สอยเยอะเป็นธรรมดา

เทียบกับแผงลอยของกู้หมิงซวงแล้วนั้น มันค่อนข้างเงียบเหงา

นางจึงเก็บแผง ตั้งใจไว้ว่าจะหยุดพักสักสองวัน

ซึ่งเรื่องนี้ถูกเล่าต่อๆกันจนมาถึงหมู่บ้านต้าเฉียว ผู้คนจับกลุ่มนินทาลับหลัง คาดเดาไปทั่วว่ากิจการของกู้หมิงซวงคงจะเจ๊งเสียแล้ว

พอได้รู้ข่าวคนอื่นไม่ได้อะไรเท่าใดนัก แต่คนที่ร้อนใจที่สุดเห็นจะเป็นพี่สะใภ้ซิ่งฮัว

ตั้งแต่ที่ตกลงเป็นคู่ค้ากับกู้หมิงซวง ทุกวันนางจะมีเงินเข้ารายการบัญชีอย่างน้อยห้าสิบเหวิน หากกิจการปลาเผ็ดนี้มิอาจดำเนินต่อไปได้ นางก็คงต้องโบกมือลากับเงินจำนวนนี้

“เอ้อยา เจ้าบอกข้ามาตรงๆเสีย กิจการขายปลาเผ็ด….ถูกต้าซุ่นจายช่วงชิงไปแล้วใช่หรือไม่?”

กู้หมิงซวงไร้ซึ่งความตระหนก นางเงียบอยู่ชั่วครู่ ก็กล่าวขึ้นมาว่า “ในเมื่อเราคือคู่ค้ากัน เช่นนั้นข้าจะบอกเจ้าตามตรงก็แล้วกัน เจ้าสบายใจได้ ต้าซุ่นจายขายปลาเผ็ดไม่ได้นานหรอก”

“จริงหรือ?”

พี่สะใภ้ซิ่งฮัวไม่กล้าเชื่อ

แต่เมื่อเห็นความมั่นใจในดวงตาของกู้หมิงซวง นางจำต้องกลืนทุกข้อสงสัยลงไป

คำพูดของกู้หมิงซวงคงสำแดงออกมาในอีกไม่นาน

ช่วงเที่ยงวันของวันถัดมา ลุงโจวรีบขับเกวียนมายังตระกูลกู้ ปากก็ตะโกนว่าเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นที่ต้าซุ่นจายเสียแล้ว

พี่สะใภ้ซิ่งฮัวเพิ่งส่งปลาเสร็จ ได้ยินเช่นนั้นพลันสะดุดปลายเท้า

“เกิดอันใดขึ้น?”

ลุงเสียงเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างออกมาครบถ้วน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจาะมิติพลิกชีวิตแม่หญิงชาวบ้าน