ตอนที่ 2 ชนเข้ากับโรลส์-รอยซ์
พอเห็นสัญลักษณ์บนรถ เฟิงเชียนเสวี่ยก็รู้ในทันทีว่านี่คือรถของตระกูลซือ! เธอตื่นเต้นขึ้นมาในทันทีแบบไม่มีที่สิ้นสุด เป็นไปได้ไหมว่าพวกเขาจะมารับเธอ เป็นไปได้ไหมว่าที่ผ่านมาซือเฮ่าเซวียนไม่เคยหักหลังเธอ ตอนแรกเขาถูกบังคับให้ถอนหมั้น แต่ตอนนี้พอรู้ว่าเธอกลับมาแล้วจึงมารับเธอด้วยตัวเอง? “คุณหนู คุณชายซือมารับพวกเราเหรอคะ” แม่จูดีใจมากและกำลังจะก้าวไปด้านหน้า ทันใดนั้นเองบอดี้การ์ดสองคนก็ผลักพวกเขาออกไปอย่างไม่ไยดี ทันใดนั้นจากลุ่มคนที่เนืองแน่น ก็มีผู้หญิงแต่งตัวหรูหราคนหนึ่งเดินออกมาอย่างสง่างาม เฟิงเชียนเสวี่ยมองเห็นใบหน้าของเธออย่างชัดเจน เธออดไม่ได้ที่จะตกตะลึง นึกไม่ถึงว่าคือไป๋ลู่! ทั้งตัวของไป๋ลู่เต็มไปด้วยของแบรนด์เนม ดูสง่างามและมีฐานะ ใบหน้าของเธอดูงดงามกว่าสี่ปีก่อนมาก เธอจูงมือเด็กผู้ชายคนหนึ่งไว้ข้างกาย ซึ่งอายุราวๆ กับลูกทั้งสามคนของเฟิงเชียนเสวี่ย “คุณผู้หญิง นายน้อย เชิญครับ!” บอดี้การ์ดทักทายอย่างกระตือรือร้น “ครั้งหน้าฉันจะไม่นั่งรถไฟอีกแล้ว สกปรกมากเลย” ไป๋ลู่จีบนิ้วโป้งและนิ้วกลางเข้าหากันและใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดจมูกด้วยความรังเกียจ “แน่นอนครับ ถ้าไม่ใช่เพราะสภาพอากาศ คุณชายต้องไม่ปล่อยให้คุณและนายน้อยต้องลำบากแน่นอน” ไป๋ลู่นำลูกชายเข้าไปในรถหรูที่รายล้อมไปด้วยบอดี้การ์ด สองแม่ลูกวางมาดผู้สูงส่งจึงไม่ได้มองรอบตัวมากนัก เป็นธรรมดาที่จะไม่สังเกตเห็นเฟิงเชียนเสวี่ยที่อยู่ในฝูงชน “นี่มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่” แม่จูจำไป๋ลู่ได้ และรู้สึกประหลาดใจมาก “คนเมื่อกี้คือคุณหนูไป๋เหรอ หรือว่าเธอแต่งงานกับคุณชายซือแล้ว” “คงจะใช่...” เมื่อมองดูขบวนรถของตระกูลซือขับออกไปอย่างช้าๆ ในระหว่างที่กำลังสับสน เฟิงเชียนเสวี่ยพลันนึกถึงคำสัญญาที่ซือเฮ่าเซวียนเคยให้ไว้กับตนเอง เขาเคยพูดไว้ว่าทั้งชีวิตนี้ เขาจะแต่งงานกับเธอแค่เพียงคนเดียว แต่ว่าตอนนี้ เพียงชั่วพริบตาเดียวเขากลับเปลี่ยนใจไปแต่งงานกับลูกพี่ลูกน้องของเธอ ทั้งยังมีลูกที่โตขนาดนี้อีก! เฟิงเชียนเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะไม่เสียใจ ดวงตาก็พลันแดงขึ้นมา... “หม่ามี๊ หม่ามี๊เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เมื่อเห็นว่าตาของเฟิงเชียนเสวี่ยแดงขึ้นมา ลูกๆ ทั้งสามคนก็เงยหน้าขึ้นพลางล้อมกันเข้ามาด้วยความเป็นห่วง “หม่ามี๊ไม่เป็นไรจ้ะ” เฟิงเชียนเสวี่ยเช็ดที่หางตาเล็กน้อย นั่งยองๆ และกอดเด็กจ้ำม่ำทั้งสามคนไว้ในอ้อมแขน “หม่ามี๊อย่าเสียใจไปเลย รอต้าเป่าหาเงินได้แล้วต้าเป่าจะซื้อรถหรูให้หม่ามี๊เอง หม่ามี๊จะได้ไม่ต้องลำบากขนาดนี้แล้ว” ลูกคนโตเฉินเฉินคิดว่าเฟิงเชียนเสวี่ยเสียใจขนาดนี้เพราะโดนรังแก “หม่ามี๊ครับ ใครมารังแกหม่ามี๊ ผมจะไปตีให้” ลูกคนรองหลงหลงทำท่าออกหมัดด้วยมืออวบๆ และชักสีหน้าขมึงทึง ลูกคนสุดท้องเย่ว์เย่ว์เอาใบหน้าอ่อนนุ่มสีชมพูของตัวเองมาแนบซบที่หน้าแม่ พลางพูดปลอบโยนด้วยความน่ารักและหนักแน่น “หม่ามี๊คะ ไม่ต้องร้องนะ!” “ไม่ต้องร้องไห้นะ ไม่ต้องร้องไห้นะ!” จู่ ๆ หัวสีเขียวขนาดเล็กก็โผล่ออกมาจากกระเป๋าของเย่ว์เย่ว์ มันคือนกแก้วตัวเล็กน่าเอ็นดู มันกำลังใช้ตากลมโตมองไปรอบๆ “เด็กดี หม่ามี๊ไม่ร้องแล้ว” เฟิงเชียนเสวี่ยสูดหายใจลึกๆ แล้วยิ้มออกมา “ไปกันเถอะ หม่ามี๊จะพาลูกๆ กลับบ้าน” “เย่ กลับบ้านกัน!” เฟิงเชียนเสวี่ยหอมลูกทั้งสามคนและเริ่มเก็บกระเป๋าใหม่อีกครั้งเพื่อพาลูกๆ ไปรอรถแท็กซี่ เฟิงเชียนเสวี่ยเคยเป็นลูกเศรษฐีที่ใครๆ ต่างก็หลงรัก รถหรูก็เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการเดินทาง อีกทั้งยังรายล้อมไปด้วยผู้ติดตามมากมาย แต่ตอนนี้ เธอต้องพาแม่จูและลูกทั้งสามคนหอบกระเป๋าน้อยใหญ่เข้าแถวรอแท็กซี่ที่สถานีรถไฟ สัมภาระของผู้ใหญ่สองคนและเด็กสามคนมีมากเกินไป เฟิงเชียนเสวี่ยจึงจำเป็นต้องนั่งแท็กซี่แยกกับแม่จู ท้องฟ้าถูกปกคลุมไปด้วยเมฆสีดำและพายุฝนกำลังใกล้เข้ามา คนขับรถแท็กซี่แซงหน้ารถคันอื่นอย่างไร้ความอดทน อยู่ ๆก็มีเสียงดัง “ปัง” จากรถแท๊กซี่ชนเข้ากับโรลส์-รอยซ์คันหนึ่งตรงทางแยก! คนขับแท็กซี่ตกใจจนหน้าถอดสี เขาเดินลงจากรถเพื่อไปเจรจาด้วยตัวที่สั่นเทา เฟิงเชียนเสวี่ยนั่งขมวดคิ้วอยู่ที่เบาะข้างคนขับและมองออกไปด้านนอก รถคันนี้ไม่ใช่รถราคาถูก เป็นโรลส์-รอยซ์ แฟนธอม รุ่นลิมิเต็ด อิดิชั่น มีเพียงเจ็ดคันในโลก และถึงแม้จะแค่สีถลอกเล็กน้อยแต่ก็สามารถทำให้คนขับรถแท็กซีคนนี้ล้มละลายได้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าหนูอัจฉริยะกับคุณพ่อมาเฟีย
มีต่อไหมคะ...