ตอน บทที่ 4 หย่ากับหลี่จิงเซินเถอะ จาก เจ้านาย อาชญากรรมของมาดามไม่ได้ถึงตาย – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง
บทที่ 4 หย่ากับหลี่จิงเซินเถอะ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายนิยายรักโรแมนติก เจ้านาย อาชญากรรมของมาดามไม่ได้ถึงตาย ที่เขียนโดย เชิงเชิงปู้ซ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย
เซินจือชูเดินกลับอย่างเซื่องซึม ระยะทางที่ใช้เวลาแค่ 10 นาทีแต่เธอใช้เวลาถึง 20 นาที ในวิลล่าไม่ได้เปิดฮีตเตอร์ และห้องขนาดใหญ่ก็เย็นยะเยือก
เซินจือชูเตะสะบัดรองเท้าส้นสูง แล้วเดินเซเข้าห้องน้ำราวกับว่าคนเมา เธอเปิดน้ำร้อนในอ่างอาบน้ำไปได้ครึ่งหนึ่ง คนที่เมื่อวินาทีก่อนหน้านี้ยังอดทนไหว แต่วินาทีถัดมาได้ตกลงไปในอ่างอาบน้ำราวกับคนตาย น้ำร้อนกระจายไปทั่ว ส่วนตัวคนก็ไม่ได้ส่งเสียงอะไร ชุดสีแดงยาวปกคลุมไปทั่วอ่างอาบน้ำราวกับเลือด มันยิ่งทำให้ใบหน้าของเซินจือชูขาวเป็นกระดาษ
เธอหลับตา ใบหน้าจมลงไปในน้ำ น้ำค่อยๆ เอ่อล้นเหนือศีรษะผนึกทุกความรู้สึกของเธอ การขาดอากาศหายใจเพียงชั่วคราวก็ทำให้หัวใจของเธอเหมือนเป็นอัมพาต หลังจากนั้นไม่นาน เธออดที่จะอ้าปากไม่ได้ น้ำร้อนเข้าไปในปากของเธอ และความรู้สึกคลื่นไส้ก็พุ่งออกมาจากท้องของเธอ
เซินจือชูลืมตาแดงก่ำของเธอและยกศีรษะขึ้นจากน้ำ เธอปีนตัวขึ้นมาบนอ่างอาบน้ำ ร่างกายของเธออยู่ในลักษณะนอนคลาน ท้องของเธอเหมือนมีมือมาบิดมันเอาไว้ เธอรู้สึกชาจนอ้าปาก ร่างกายส่วนบนของเธอกระตุกอย่างควบคุมไม่ได้ เธอขย้อนน้ำกรดสีเหลืองออกมาหลังจากไม่ได้ทานอาหารตลอดทั้งวัน มันแสบจนเธอเจ็บคอ น้ำหูน้ำตาไหลออกมา
เมื่ออาเจียนออกมาจนหมด เซินจือชูขยี้ตาที่ปวดบวมของเธอมองดูเลือดที่ปะปนออกมาที่พื้น มุมปากของเธอยกขึ้นเล็กน้อยรอยยิ้มที่ไม่ได้ยิ้มออกมาจากใจ ในดวงตาของเธอเต็มไปดวงความว่างเปล่า
เธอถอดชุดสีแดงของเธอและเช็ดเลือดบนพื้น เธอจะให้หลี่จิงเซินมาเห็นเลือดไม่ได้
ท้องฟ้าที่ด้านนอกเริ่มมืดแล้ว เซินจือชูเดินเท้าเปล่ากลับไปที่ห้องและล้มตัวลงนอนบนเตียง เธอนอนไม่หลับ ตอนที่เธอยังไม่รู้ว่าตัวเองป่วยเธอยังนึกภาพอนาคตที่สดใสได้ แต่ตอนนี้ไม่ว่าเธอจะพยายามแค่ไหนมันก็เป็นการต่อสู้ที่ไร้ประโยชน์
สี่ปีที่ผ่านมา เธอใช้เวลาสี่ปีเพื่อทำให้เธอสูญเสียทุกอย่างไป ตั้งแต่เต็มไปด้วยความรักไปจนถึงความสิ้นหวังที่ไม่สิ้นสุด
วันนี้ เหมือนจะเป็นวันที่เธอใช้น้ำตาของชาตินี้ทั้งชาติไปหมดแล้ว เซินจือชูทาบมือบนหัวใจของเธอและเยาะเย้ยอย่างขมขื่น: เห็นอยู่ชัด ๆ ว่ากระเพาะเน่าไปหมดแล้ว เธอจะเจ็บไปอีกทำไมกัน?
จู่ ๆ โทรศัพท์ที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่น เซินจือชูตอบสนองโดยการลุกขึ้นยืนทันที เธอเปิดกระเป๋าแล้วหยิบโทรศัพท์ออกมาอย่างเร็วที่สุด เมื่อเธอเห็นข้อมูลผู้โทรบนหน้าจอ ก็เหมือนจะไร้ซึ่งเรี่ยวแรงในทันที
ไม่ใช่เขา... เซินจือชูเธอคาดหวังอะไร?
เซินจือชูจ้องไปที่โทรศัพท์อย่างว่างเปล่าครู่หนึ่ง และในที่สุดก็เลื่อนนิ้วขึ้นเพื่อรับสาย
“ฉินโม่” เสียงของเซินจือชูแหบพร่าราวกับใบมีดกำลังลับกับหิน มันช่างเสียดแทงหู
ฉินโม่เติบโตมาพร้อมกับเธอตั้งแต่เด็ก ๆ พวกเขาไม่ใช่ญาติกันแต่เป็นมากกว่าญาติ ตอนเด็กเธอเคยอาศัยอยู่ที่บ้านตระกูลฉินเป็นระยะเวลาหนึ่ง สำหรับเซินจือชูแล้ว ฉินโม่เป็นเหมือนพี่ชายของเธอ
ฉินโม่ที่อยู่ในสายเอ่ยถามอย่างเป็นกังวลว่า "จือชู ทำไมเสียงของเธอแหบแห้งขนาดนั้น? ไม่สบายเหรอ?"
“เป็นหวัดนิดหน่อยน่ะ เมื่อกี้เผลอหลับเสียงก็เลยแหบ…”
ยังไม่ทันที่เซินจือชูจะพูดจบ ฉินโม่ที่อยู่ในสายก็ขัดจังหวะเธอ "จือชู แม้แต่ฉันเธอก็ยังจะโกหกเหรอ? เธอลืมไปแล้วเหรอว่าฉันเป็นหมอ? เสียงตอนเพิ่งตื่นเป็นหวัดกับเสียงที่เพิ่งผ่านการร้องไห้มาฉันแยกมันได้อย่างชัดเจนเลยล่ะ”
เธอสำลักราวกับว่ามีก้อนหินแหลมคมขวางไว้ และเลือดก็ไหลออกมาจากปากของเธอ มันกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เธอไม่สามารถอธิบายอะไรได้ สุดท้ายจึงทำได้แค่หัวเราะออกไปอย่างขมขื่น
ฉินโม่เอ่ยถาม "จือชูบอกฉันได้ไหมว่าทำไมเธอถึงร้องไห้?"
เซินจือชูถือโทรศัพท์ของเธอและจ้องมองที่พื้นไม้ ไม่มีใครชอบเผยจุดอ่อนของตัวเองออกมากันหรอก เธอส่ายหัวปฏิเสธ “ไม่ได้”
ฉินโม่อึ้ง เขารู้ว่าเซินจือชูมีนิสัยแบบไหน เธอเป็นพวกดื้อรั้นหัวแข็ง ถ้าหากเธอไม่อยากพูดต่อให้เอาคีมเหล็กมาง้างปาก เธอก็ไม่ยอมพูดความจริงหรอก
ฉินโม่ทำได้แค่เปลี่ยนเรื่อง: "วันนี้ไปรับผลตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลมาเป็นยังไงบ้าง?"
เซินจือชูปล่อยให้ตัวเองเป็นอย่างนี้ได้ยังไง?
ฉินโม่ไม่รู้จะเกลี้ยกล่อมฉินโม่ยังไง บางครั้งมันก็ไม่ได้ขึ้นอยู่ว่าเธออยากจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ แต่ขึ้นอยู่กับว่าสวรรค์จะไว้ชีวิตหรือไม่ เวลาชีวิตของเธอมีอย่างจำกัด คำแนะนำของโรงพยาบาลคือให้รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลต่อไปอีกสักสองสามปี หรือไม่ก็เลิกรักษาและปล่อยให้มันขึ้นอยู่กับโชคชะตา สรุปก็คือ...ใกล้ตายแล้วนั่นแหละ
"จือชูหย่ากับหลี่จิงเซินเถอะ เธอดูสิพวกเธอแต่งงานกันมาสี่ปี เขาทรมานเธอจนกลายเป็นอะไรไปแล้ว"
หย่าเหรอ... เซินจือชูไม่เคยคิดที่จะหย่ากับหลี่จิงเซิน สำหรับเธอแล้ว เขาเป็นทุกอย่างสำหรับเธอ เป็นแสงสว่างที่เธอต้องการจะยึดครองมาตลอดชีวิตของเธอ แต่คนเราจะจับแสงไว้ได้ยังไง?
เซินจือชูกำโทรศัพท์แน่นจนข้อมือกลายเป็นสีขาว และใช้กำลังอย่างมาก: "ฉันจะคิด ๆ ดู"
การหย่ากับหลี่จิงเซิน ก็เหมือนกับการควักเนื้อออกจากอกเธอ มันจะทำได้ง่าย ๆ ได้ยังไง?
ฉินโม่กำชับให้เธอไปโรงพยาบาลในวันรุ่งขึ้น เซินจือชูเพียงแต่ตอบรับอย่างส่ง ๆ แต่ไม่ได้ใส่ใจอะไร
นอกจากจะเป็นภรรยาของหลี่จิงเซินแล้ว เธอยังเป็นท่านประธานที่ดูแลเซินกรุ้ป และมีหลายสิ่งที่กดดันเธออยู่เสมอ
ความอดทนของคนเปรียบเสมือนอูฐที่สามารถก้าวไปข้างหน้าได้ภายใต้แรงกดดันสูง แต่บ่อยครั้งที่การตายของอูฐนั้นเป็นเพียงเพราะฟางเสริมที่ด้านหลังของมัน
หลังจากวางสายแล้ว เซินจือชูก็โยนโทรศัพท์ลงบนโต๊ะข้างเตียง เธอปวดท้องตลอดเวลา เกรงว่าคืนนี้เธอคงจะหลับไม่ได้ เธอเปิดลิ้นชักหยิบยาสองขวดออกมา ขวดหนึ่งเป็นยาบรรเทาอาการปวดส่วนอีกขวดเป็นยานอนหลับ หลังจากรับประทานยาอย่างละสองเม็ดเธอก็ล้มลงบนเตียง
ไม่รู้ว่ายาได้ผลหรือเปล่า แต่สมองของเธอเริ่มเลอะเลือน เธอมักจะฝันร้ายบ่อย ๆ เหมือนโดนผีอำ หน้าอกของเธอหนักมากจนหายใจไม่ออก เธอส่ายหัวไปมา หลังจากดิ้นไปดิ้นมาจนตื่นขึ้นอย่างตกใจ ทันใดนั้นเธอตระหนักว่าสิ่งที่กดเธอไม่ใช่ผีสางที่ไหน แต่เป็นหลี่จิงเซิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้านาย อาชญากรรมของมาดามไม่ได้ถึงตาย