บทที่1020คุกเข่าขอขมา โอเคมั้ย
การอาบน้ำครั้งนี้ได้อาบไปครึ่งชั่วโมง เสี่ยวเหยียนถึงรู้สึกชำระเนื้อตัวจนสะอาด
ตอนที่เธอคลุมผ้าเช็ดตัวออกมา แม่ของเสี่ยวเหยียนกำลังนั่งรับโทรศัพท์อยู่บนโซฟา และเช็ดน้ำตาไปด้วย
“ฉันก็นึกไม่ถึงว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ ตาจางของฉันนี้ชีวิตรันทดจริงๆ ตอนนี้เขายังอยู่ที่ห้องไอซียูอยู่เลย หมอบอกต้องคอยสังเกตอาการครบ48ชั่วโมง.........”
เธอพูดไปด้วยและร้องไห้ไปด้วย หางตาเห็นเสี่ยวเหยียนเดินออกมาจากห้องน้ำ ทีนี้ถึงรีบพูด: “เอาล่ะ ฉันยังมีธุระต่อ ไม่คุยแล้วนะ”
จากนั้นก็ได้วางสายทิ้ง เช็ดน้ำตาแล้วเดินมาทางเสี่ยวเหยียน ยืนอยู่ตรงหน้าเธอดูเธออย่างละเอียดชัดๆไปรอบนึง
ส่วนสีหน้าที่เสียใจของเมื่อกี๊ได้หายไปหมดแล้ว
เสี่ยวเหยียนไม่ได้รู้สึกแปลกใจเลย และไม่รู้สึกว่าแม่ของเธอเป็นคนที่ไม่ห่วงพ่อเธอ เธอร้องไห้เพราะเสียใจจริงๆ ตอนนี้ไม่เสียใจเพราะเธอไม่ได้นำอารมณ์มากับการเข้าหากับเสี่ยวเหยียน
แม่ของเธอ แต่ไหนแต่ไรเป็นคนที่ชัดเจนเรื่องรักและเกลียด
นาทีก่อนสามารถหม่นหมอง นาทีต่อมาก็สามารถแจ่มใสเบิกบาน และชีวิตสงบสุขได้
เมื่อก่อนเสี่ยวเหยียนก็ถูกแม่ตัวเองทำตัวเป็นแบบอย่างทั้งคำพูดและการกระทำ คิดไม่ถึง........สุดท้ายเธอกลับตกอยู่ในมือของผู้ชายคนนึง
เสี่ยวเหยียนไม่กล้าบอกเรื่องนี้กับแม่ของเธออยู่แล้ว ถ้าบอกท่านล่ะก็ สุดท้ายมีแต่จะถูกหัวเราะเยาะ
“หน้าตาตอนนี้ยังพอฝืนดูได้ เมื่อกี๊นี่คืออะไร? ลุงแก่ที่เฝ้าประตูชั้นล่างไม่รู้ยังนึกว่าฉันหลัวหุ้ยเหม่ยมีความเมตตาเอาขอทานมาเลี้ยงที่บ้านเสียอีก”
เสี่ยวเหยียน: “......แม่คะ ไม่ได้เจอกันมานานหลายปี แม่อย่าเจอหน้าก็ว่าหนูไปได้มั้ย?”
หลัวหุ้ยเหม่ยกระพริบตาปริบๆอย่างบริสุทธิ์ใจ “ทำไม? อยู่ในโทรศัพท์แม่ไม่เคยต่อว่าแกเลยรึไง ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปีแล้ว แม่ว่าแกสองคำก็ไม่พอใจแล้ว?”
“เปล่าค่ะ!”
เสี่ยวเหยียนเดินกลับห้องอย่างหน้าบึ้ง เข้าไปใส่เสื้อผ้า แต่ปรากฏตอนที่เปิดตู้เสื้อผ้า เห็นเสื้อผ้าที่เก็บเสร็จเหล่านั้น เธอเกือบจะเป็นลม
เสื้อผ้าที่ห้าปีก่อนเธอรู้สึกว่าสวย ตอนนี้ดูแล้วปัญญาอ่อนสุดขีด
พริบตาเดียวเสี่ยวเหยียนก็ไปต่อไม่ถูกเลย เธอปิดตู้เสื้อผ้าดังปังทีนึง
หลัวหุ้ยเหม่ยที่เดินตามเข้ามาด้วยเห็นภาพนี้แล้ว อดไม่ได้ที่จะแขวะ: “ทำอะไร? ไม่ใส่เสื้อผ้าหรอ? แกอยากเปลือยกายออกไปหรอ?”
พอพูดจบ หลัวหุ้ยเหม่ยกลับพบว่าลูกสาวตัวเองจ้องตัวเองอยู่ตลอด แววตานั้นมองจนเธอชา “มองแม่แกทำไม?”
“แม่คะ หนูรู้สึกว่าเสื้อของแม่สวยกว่าเสื้อผ้าสมัยก่อนของหนูเสียอีก ยืมให้หนูใส่สักตัวสิคะ”
“.......นี่แกบ้าไปแล้วหรอ แกยังสาวยังแส้มาใส่เสื้อคนแก่อย่างแม่?”
“คนแก่อะไรกันคะ?” เสี่ยวเหยียนกลอกตาขาวอย่างหมดคำพูด ที่จริงแม่ของเธออายุไม่มาก อีกทั้งยังหน้าเด็กด้วย แถมยังชอบทำตัวแอ๊บแบ๊ว เพราะฉะนั้นใส่เสื้อผ้าได้ค่อนข้างทันสมัยอยู่ ถึงแม้สไตล์การแต่งตัวของท่านจะแตกต่างกับของเธอนิดหน่อย
แต่เสี่ยวเหยียนรู้สึก อย่างน้อยเมื่อเทียบกับเสื้อผ้าปัญญาอ่อนที่อยู่ในตู้แล้วก็ดีกว่าเยอะเลย อีกอย่างเธอตัดสินใจแล้ว ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจะกลับตัวกลับใจ ต่อไปจะไม่เสียใจเพราะผู้ชาย แม้กระทั่งน้ำตาไหลสักหยดอีก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่