บทที่102 จะให้ฉันช่วยเธอ เธอคิดให้ดีๆนะ
บนดาดฟ้า
“ประธานลู่ พวกเราทำแบบนี้มันจะไม่มีปัญหาจริงๆหรอครับ?” ผู้ช่วยของลู่สุนฉางอดไม่ได้ที่จะถาม “ยังไงๆเราอาศัยอยู่ในเมืองเป่ย ถ้าทำอะไรให้ตระกูลเย่ไม่พอใจ มันจะไม่ส่งผลดีใดๆกับพวกเราเลย”
“หึ ก็แค่คนพิการคนหนึ่ง แค่พึ่งพาชื่อเสียงของตระกูลเย่เท่านั้น ฉันลู่สุนฉางใช้ชีวิตอยู่ในสังคมแล้วสร้างทุกอย่างด้วยมือของตัวเองมาเป็นเวลานานหลากหลายปี ฉันจะมากลัวเขาที่เป็นลูกเศรษฐีงั้นหรอ?” ลู่สุนฉางหัวเราะอย่างเย็นชา
จริงๆแล้วหากอ้างอิงจากการใช้ชีวิตที่ผ่านร้อนผ่านหนาวของลู่สุนฉางและการคลุกคลีอยู่ในวงการมาหลายปี เขาหลับนอนกับหญิงสาวคนดังในวงการมานับไม่ถ้วน เขาเองก็ไม่เคยนึกถึงว่าวันหนึ่งจะเกิดปัญหากับตัวเขาได้ อีกทั้งยังเป็นแค่ผู้ช่วยตัวเล็กๆคนหนึ่ง
เขาไม่ใช่คนที่ไม่มีเหตุผล จากชื่อเสียงของตระกูลเย่แห่งเมืองเป่ย แม้ว่าเขาจะต้องโมโหอีก เขาลู่สุนฉางคนนี้ก็พร้อมให้อภัยและให้โอกาสผู้อื่น
แต่ในสายตาของเขา เย่โม่เซินเป็นแค่คนพิการคนหนึ่ง เป็นแค่คนกากเดนไร้ค่าคนหนึ่ง
แน่นอนว่าคนที่สร้างตัวจนมีทุกอย่างด้วยน้ำมือของตัวเองจะต้องดูถูกดูแคลนพวกคุณชายลูกมหาเศรษฐีเหล่านี้ ถ้าไม่มีชื่อเสียงของตระกูลเย่คุ้มกะลาหัวอยู่เย่โม่เซินจะไปมีอะไร ดังนั้นเขาจะต้องสั่งสอนเย่โม่เซินสักครั้ง
ชื่อเสียงเรียงนามของนายท่านเย่เขาได้ยินและรับรู้มาตลอด นายท่านเย่ไม่อยากขัดใจคนอย่างเขา อีกทั้งตำแหน่งท่านประธานของเย่โม่เซินก็คือสิ่งที่นายท่านเย่เป็นคนมอบให้ ถ้ามันเกิดความขัดแย้งอันยิ่งใหญ่ขึ้นมาจริงๆ
นายท่านเย่น่าจะสามารถช่วยเย่หลิ่นหานให้มีตำแหน่งได้
ถึงตอนนั้นคนพิการคนนี้จะยังมีอำนาจอะไรอยู่อีก
“ประธานลู่ ถึงแม้ว่าคุณชายเย่จะนั่งอยู่บนรถเข็น แต่ความสามารถที่ควรจะมีเขาก็ไม่ขาดเลยสักนิด”
“ถุย ไอ้สิ่งที่เรียกว่าผู้ชายยังไม่ได้ นายกลับบอกว่าเขามีความสามารถครบครันอย่างนั้นหรอ? ฉันจะบอกอะไรนาย เย่โม่เซินก็คือขันทีคนหนึ่ง!”
ในขณะที่เย่โม่เซินกำลังโดนด่าว่าเป็นขันทีอยู่นั้นเขากำลังมีสภาพเหมือนคนตกนรกทั้งเป็น จิตใจที่เข้มแข็งของเขายังคงอยู่ แต่ทว่าในวันนี้เย่โม่เซินพึ่งจะรู้ว่าร่างกายของผู้หญิงนั้นสามารถอ่อนนุ่มได้ขนาดนี้
ราวกับงูตัวหนึ่งที่อ่อนนุ่มแล้วทับอยู่บนร่างกายของคุณ กอดรัดอยู่บริเวณคอของคุณ
ความรู้สึกเช่นนี้มันช่างแปลกแต่ก็น่าตื่นเต้นนัก
ลึกๆแล้ว เย่โม่เซินรู้สึกคุ้นเคยกับกลิ่นหอมบนร่างกายของเสิ่นเฉียว ราวกับว่าเขาเคยได้กลิ่นนี้จากที่ไหนมาก่อน
เขาพยายามอดทนจนเหงื่อไหลชุ่มไปทั่วร่างกาย ในตอนนี้เขากลับไม่สามารถอุ้มเสิ่นเฉียวออกไปได้
“เซียวซู่!”
เย่โม่เซินรู้สึกทนไม่ไหวจึงตะโกนเรียกออกมา เสียงของเขาแหบจนเริ่มแตก
เซียวซู่ยืนรออยู่หน้าประตูมานานมากแล้ว แม้จะดูเหมือนว่าเขาที่ยืนอยู่หน้าประตูจะไม่โดนฤทธิ์ยาไปด้วย แต่เขากลับเหงื่อแตกออกมาทั่วร่างกาย เพราะเขาได้ยินบทสนทนาระหว่างเย่โม่เซินและเสิ่นเฉียว เขาพอจะนึกออกว่าข้างในมีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น
ส่วนหมอ...ยังมาไม่ถึงสักที!
ตอนนี้เขาได้ยินเสียงเย่โม่เซินเรียกชื่อของเขา เซียวซู่อดไม่ได้ที่จะตัวสั่น เขาไม่กล้าพุ่งตัวเข้าไป
“คุณชายเย่ อดทนอีกหน่อยนะ ผมไปตามให้อีกที”
เมื่อพูดจบเซียวซู่หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาเพื่อโทรตามอีกครั้ง ปรากฏว่าอีกฝ่ายเจอปัญหาในระหว่างการเดินทางแล้วพึ่งจะจัดการเสร็จ เขากำลังรีบเดินทางมาที่นี่
หลังจากที่เซียวซู่วางโทรศัพท์แล้วเขาตะโกนเข้าไปข้างใน “คุณชายเย่ คุณช่วยอดทนต่ออีกสิบนาที! ช้าสุดสิบนาทีก็จะมาถึงแล้ว!”
ภายในห้อง เส้นเลือดที่ปูดบนหน้าผากของเย่โม่เซินกระตุกไม่หยุด
ทุกวินาทีที่เขากำลังเผชิญอยู่นั้นราวกับว่ากำลังถูกหนีบอยู่บนเตาย่างร้อนๆ เวลาสิบนาทีนี้แทบจะเอาชีวิตของเขาไปได้เลย
อีกอย่าง....เวลาสิบนาที
แม้ว่าเย่โม่เซินจะพยายามฝืนอดกลั้นเอาไว้ได้ แต่ผู้หญิงในอ้อมอกล่ะ?
ในตอนแรกเธอที่อยู่ในอ้อมอกยังลูบไล้สัมผัสตัวเขาไปทั่ว จนสุดท้ายเธอยังหาวิธีการของตัวเองไม่เจอ อีกทั้งยาออกฤทธิ์อย่างเต็มที่ ตอนนี้เธอไม่มีแรงที่จะทำอะไรเขาแล้ว เธอทำได้เพียงพิงอยู่ในอ้อมอกของเขาแล้วหายใจหอบๆ
แต่ทว่าลมหายใจออกของเสิ่นเฉียวนั้นร้อนมาก เธอหายใจรดบริเวณอกของเขา
“ผู้หญิงแต่งงานครั้งที่สอง?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่