บทที่1110 ลองคิดกลับกันดูสิ
เย่โม่เซิน:“……”
มีเรื่องอะไรที่พูดออกมาตรงๆไม่ได้ด้วยงั้นเหรอ?
พอเห็นว่าเขาขมวดคิ้วเหมือนกับว่ากำลังคิดหนักอยู่นั้น ส้งอานก็เลยตัดสินใจออกปากเตือนหลานชายของตัวเองสักหน่อย ดังนั้นก็เลยพูดว่า “ลองเอาสมองด้านการทำธุรกิจของแกมานึกถึงสถานการณ์ตอนนี้ของมู่จื่อดูสิ หรือไม่ก็ลองเอาตัวเองลงไป ก็น่าจะรู้เหตุผลนะ”
“……”
“โอเค ยังไงวันนี้ภารกิจของฉันก็สำเร็จลุล่วงแล้ว กลับบ้านไปดูตาแก่หน่อยดีกว่า เมื่อกี้ตาแก่ส่งข้อความมาหาฉัน”
กลางดึก ในห้องเต็มไปด้วยความเงียบงัน
สองสามีภรรยานอนเงียบอยู่บนเตียง หานมู่จื่อหันหลังให้กับเย่โม่เซิน เย่โม่เซินก็มองดูท้ายทอยที่หันหลังให้กับเขา แล้วก็ถอนหายใจอยู่ในใจเงียบๆ
ถึงแม้ว่าเธอจะยอมให้เขาเข้ามาในห้องแล้ว แต่พอเข้ามาแล้วเย่โม่เซินก็พบว่าทั้งห้องมืดสนิท ไม่ได้เปิดไฟ แม้แต่ผ้าม่านก็ปิดลงมาหมด ขนาดยื่นมือออกไปยังไม่เห็นห้านิ้วของตัวเองเลย
เย่โม่เซินไม่ได้ทำอะไรที่ไม่ได้รับอนุญาต เพียงแค่ลดเสียงลงแล้วก็เอ่ยปากถามว่า “ทำไมไม่เปิดไฟล่ะ?”
หานมู่จื่อรีบตอบในทันที “ปิดไฟนอน จะได้ไม่แสบตา”
ที่จริงแล้วเธอก็พูดอะไรไปเรื่อยเปื่อย ตัวเธอเองก็ไม่ได้มีนิสัยปิดไฟนอนอยู่แล้ว แล้วอีกอย่างหลังจากตั้งครรภ์ก็ต้องลุกไปเข้าห้องน้ำตอนดึกอยู่บ่อยๆ ก็เลยจำเป็นต้องเปิดไฟไว้
ส้งอานมาหาเธอและพูดอะไรตั้งมากมาย ถึงแม้ว่าเธอจะรับฟัง แต่แล้วสุดท้ายแนวป้องกันทางด้านจิตใจของเธอก็ยังไม่คลายออกอย่างสมบูรณ์
สุดท้ายแล้วเย่โม่เซินก็ไม่ได้พูดอะไร ปีนขึ้นไปบนเตียงอย่างเงียบๆ
ที่จริงแล้วหานมู่จื่อเองก็นอนไม่หลับ เย่โม่เซินไม่ได้ทำอะไรผิด เธอเองต่างหากที่ดูน่าเกลียด เธอกัดริมฝีปากล่างของตัวเอง ในใจรู้สึกไม่ยุติธรรมเล็กน้อย
ด้านหลังของเธอมีร่างกายที่อบอุ่นขยับเข้ามาใกล้ ลมหายใจของเขาพ่นลงบริเวณคอของเธอ รู้สึกจั๊กจี้เล็กน้อย หานมู่จื่อหดไหล่ทันทีโดยไม่รู้ตัว
“เป็นอะไรไป?” เสียงที่แหบต่ำของเขาดังขึ้นที่ข้างหูของเธอ หานมู่จื่อหดไหล่อีกครั้ง แล้วก็ขยับตัวขึ้นไปด้านหน้าหน่อย แต่คนด้านหลังก็ขยับเข้ามาอีกครั้งอย่างไม่ยอมแพ้
“ฉันทำอะไรผิดไปรึเปล่า? เมื่อสองวันก่อนยังดีๆอยู่เลยไม่ใช่เหรอ?”
ถึงแม้ว่าส้งอานจะให้เย่โม่เซินใช้สมองของตัวเองคิด แต่ว่าเขาคิดจนแทบตายก็คิดไม่ออกว่าตัวเองไปทำอะไรให้มู่จื่อโกรธกันแน่ ความเป็นไปได้เพียงหนึ่งเดียว ก็คงจะเป็นที่เขาทำเพื่อบริษัทมากเกินไปจนละเลยเธอไป
“เพราะว่าเรื่องที่บริษัทรึเปล่า? การประชุมเมื่ออาทิตย์ที่แล้วเป็นการประชุมที่ค่อนข้างจะสำคัญเลย เพราะฉะนั้นฉันก็เลยต้องออกไปแป๊บหนึ่ง แต่ว่าประชุมเสร็จแล้วฉันก็กลับมาแล้วนี่ ถ้าเกิดว่าเธอไม่ชอบล่ะก็ งั้นช่วงนี้ฉันจะผลักเรื่องที่บริษัททั้งหมดออกไปก่อน แล้วตั้งใจอยู่เป็นเพื่อนเธอเอง”
ยิ่งเขาแคร์เธอมากขนาดนี้ หานมู่จื่อก็ยิ่งรู้สึกผิด เพราะว่าเย่โม่เซินทำเพื่อเธอมามากพอแล้ว แต่ว่าเธอกลับดื้อรั้นเหมือนกับเด็กที่ไม่รู้จักโต แค่เธอส่องกระจก แล้วเห็นความน่าเกลียดของตัวเอง เธอก็ไม่อยากจะเผชิญหน้ากับเขาแล้ว
ก่อนหน้านี้เคยได้ยินมาว่าคนท้องจะเปลี่ยนไปกลายเป็นไร้เหตุผล ตอนนั้นเธอยังไม่ค่อยจะเชื่อเท่าไหร่ ตอนนี้ก็เหมือนโดนตบหน้า
เธอนึกคิดมาตลอดว่าอย่างน้อยตัวเองก็เป็นคนที่มั่นใจในตัวเอง ไม่คิดเลยว่า…..
“ไม่ใช่เรื่องพวกนี้หรอก”
หานมู่จื่อส่ายหัว ปฏิเสธ
เพื่อที่จะมาอยู่กับเธอ เขาได้ผลักเรื่องงานที่บริษัทออกไปเยอะมากแล้ว นอกจากการประชุมที่ค่อนข้างจะสำคัญเท่านั้น ไม่ยังงั้นเขาจะไม่เข้าร่วมเรื่องอื่นๆเลย ช่วงนี้เขาดีกับเธอมาก พยายามชดเชยเรื่องที่ก่อนหน้านี้ตัวเองเคยได้ทำผิดไป เหมือนกับตอนที่เขาเคยสัญญาตอนที่ขอแต่งงานที่ห้องผู้ป่วยยังไงยังงั้น ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ซื่อสัตย์เลย
เดิมทีเย่โม่เซินตั้งใจจะจัดงานแต่งงาน แต่ว่าหานมู่จื่อไม่ยอมใส่ชุดแต่งงานทั้งๆที่ท้องโต ใครจะไปรู้ว่ายิ่งผ่านไปเธอจะยิ่งอ้วนขึ้นกันล่ะ
“ถ้ายังงั้นมันเพราะอะไรกัน บอกฉันได้มั้ย?” พอเห็นว่าสุดท้ายเธอก็ยอมพูด ก็ขยับเข้าไปใกล้อีก ร่างกายของเขาก็แนบกับแผ่นหลังของเธอแน่น มือหนาก็ลูบที่ท้องของเธอเบาๆ การกระทำของเขาแผ่วเบาเป็นอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่