เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1272

บทที่ 1271 รักเสียจนทำตัวไร้ค่าเกินไป

หลังจากที่เสี่ยวเหยียนกลับมาจากเที่ยว หลัวหุ้ยเหม่ยก็เอาแต่ดึงมือเธอถามอยู่ตลอด ครั้งนี้ไปเที่ยวที่ไหน เที่ยวเป็นยังไงบ้าง ถ่ายรูปมาด้วยหรือเปล่าอะไรจำพวกนั้น

ตอนแรกเสี่ยวเหยียนคิดว่าหลัวหุ้ยเหม่ยเพียงแค่เป็นห่วงชีวิตรักของเธอเพียงเท่านั้น ก็เลยตอบว่ามีไปอย่างไม่อะไร ถึงขนาดที่ยังเอาภาพในโทรศัพท์มาให้หลัวหุ้ยเหม่ยดูอีกด้วย

ทั้งสองคนถึงแม้ว่าจะเป็นแม่ลูกกัน แต่ก็เหมือนกับเพื่อนด้วยเหมือนกัน

ดังนั้นแล้วเสี่ยวเหยียนก็เลยยอมบอกเรื่องพวกนี้กับหลัวหุ้ยเหม่ยไป แชร์เรื่องความรักและความสุขของตนให้กับหลัวหุ้ยเหม่ยออกไป

ตอนแรกหลัวหุ้ยเหม่ยก็มีท่าทีมีความสุขออกมา เห็นท่าทางมีความสุขของลูกสาวของตนแล้ว คนเป็นแม่อย่าให้พูดเลยว่ามีความสุขมากแค่ไหน หลังจากนั้นในตอนที่เปิดมาถึงภาพคู่ของทั้งสองคนอยู่บนเตียงที่โรงแรม ทั้งสองคนนิ่งอึ้งไปพร้อมกัน

สามวิต่อมา เสี่ยวเหยียนก็ได้สติกลับมา อยากจะไปหยิบโทรศัพท์กลับมา

แต่หลัวหุ้ยเหม่ยกลับเข้ามาแย่งโทรศัพท์ไป

“แม่คะ! แม่รีบเอาโทรศัพท์คืนหนูมานะ!”

“ร้อนรนอะไรกัน? ไม่ใช่รูปแปลกอะไรสักหน่อย ทำไมถึงไม่ให้แม่ดู?” หลัวหุ้ยเหม่ยเก็บโทรศัพท์ไป ไม่ให้เธอ

เสี่ยวเหยียนยู่ปากด้วยอาการกระวนกระวายใจแต่ทำอะไรไม่ได้ ถ้าเป็นคนอื่น เธอจะต้องเข้าไปแย่งมาแน่นอน

แต่นี่มันไม่ไหว

ทั้งหมดล้วนแล้วแต่จะเป็นเพราะภาพที่ถ่ายด้วยกันกับวิวข้างนอกของเมื่อก่อนหน้านี้เยอะไปหน่อย ก็เลยทำให้เสี่ยวเหยียนลืมเรื่องรูปคู่บนเตียงในโรงแรมของทั้งสองคนไปเสียสนิท

ในตอนนั้นรูปพวกนี้เธอไม่กล้าส่งไปในกลุ่มเพื่อน ตอนแรกก็คิดว่ามันดูชวนเข้าใจผิดสุดๆ หลังจากที่ทั้งสองคนมีอะไรกันแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เห็นว่ารูปนี้มันสามารถเห็นวิวโรงแรมที่อยู่ด้านหลัง จากนั้นก็มีภาพแวบเข้ามาในหัว แน่นอนว่าจะต้องเป็นเรื่องเมื่อคืนวันนั้นนั่นเอง

พอคิดอย่างนั้นแล้ว หน้าของเสี่ยวเหยียนก็เริ่มแดงขึ้นมาอีกครั้ง

อ๊ะ!

เธอจะน่าผิดหวังอย่างนี้ออกมาได้ยังไงกัน!

“หน้าแดงแล้ว!” นึกไม่ถึงว่าหลัวหุ้ยเหม่ยเองก็ไม่คิดจะปล่อยเธอไปเหมือนกัน จับหน้าเธอแล้วจ้องมองเธอเข้ามา หรี่ตาลง “พวกแกทั้งสองคนอย่างนั้นกันแล้วใช่มั้ย?”

เธอพูดออกมาตรงๆ และก็ไม่ได้เลี่ยงออกมาเหมือนกัน แต่เสี่ยวเหยียนกลับเขินอายหน้าแดงก่ำออกมาเพราะคำพูดนี้ กระทืบเท้าเขินอายเหมือนกับเด็กผู้หญิง “แม่!”

“ทำไม?” หลัวหุ้ยเหม่ยย้อนถามกลับไปอย่างไม่สบอารมณ์ “แกยังรู้นะว่าฉันเป็นแม่แกน่ะ? ถามแกสักคำถามแกก็ทำเป็นลีลาอ้ำอึ้งอยู่อย่างนี้ ตกลงนี่ยังเห็นว่าฉันเป็นแม่แกอยู่อีกมั้ย?”

เสี่ยวเหยียน “...”

เธอพึมพำกับตัวเอง “ใครใช้ให้แม่ถามออกมาตรงๆอย่างนี้กันล่ะคะ”

“ทำไม ฉันเลี้ยงลูกสาวโตมาขนาดที่จะหนีไปกับคนอื่นอย่างนี้ ยังไม่ให้ฉันผู้เป็นแม่คนนี้ถามสักหน่อยเลยหรอ? ฉันว่านะเสี่ยวเหยียน แกอย่าเอาแต่ใจไปหน่อยเลย!”

“หนูเอาแต่ใจที่ไหนกัน...” เสี่ยวเหยียนพูดบ่นอู้อี้ออกมาอย่างจนใจ จากนั้นก็ก้มหน้าลงไปอย่างคนหมดอาลัยตายอยาก “ค่ะๆ จะบอกแม่เลยก็คือหนูมีอะไรกับเขาแล้ว”

พูดจบ เธอก็พูดเสียงสูงออกมาทันที “แต่ นี่เป็นสิ่งที่หนูยอมเอง เขาไม่ได้บังคับหนู ตอนแรกเขาก็ไม่ยอม เป็นหนูที่เป็นฝ่ายบังคับให้เขาอยู่ด้วยเอง!”

เพียงคำพูดเดียวก็ได้ทำหานชิงบริสุทธิ์ผุดผ่องเลยทีเดียว เสี่ยวเหยียนได้คว้าเอาความรับผิดชอบทุกอย่างมาที่ตัวเอง

หลัวหุ้ยเหม่ยฟังจนกลอกตาออกมา “แกเห็นแม่แกเป็นเด็กสามขวบหรอห๊ะ? ยังไม่ทันจะแต่งเข้าไปแกก็ปกป้องเขาขนาดนี้แล้ว หลังจากนี้ถ้าแต่งเข้าไปแล้วจะไม่แย่เอาหรอ? อีกอย่าง ถ้าแกบังคับให้เขาอยู่ด้วยทั้งคืนจริงๆ แต่เขาไม่ยอม นั่นมันก็จบกันแล้ว”

“หมายความว่าอะไร?” เสี่ยวเหยียนมองไปทางแม่ผู้บังเกิดเกล้าของตัวเองอย่างนิ่งอึ้ง

“ยัยเด็กน่าตายพอมีความรักก็เหมือนอย่างกับคนโง่ไม่มีผิด” หลัวหุ้ยเหม่ยเอื้อมมือออกไปจิ้มหน้าผากเธออย่างแรงด้วยอาการหมดคำพูด จิ้มไปพลางพูดเรื่อยเปื่อยออกมาพลาง “ถ้าเขาไม่ยอมแตะต้องแกจริงๆ แล้วผู้ชายคนนี้จะใช้ได้อีกหรอ? ไม่แน่ว่าอาจจะมีโรคที่ไม่กล้าบอกใครหรือไม่ก็ไม่ได้ชอบแกเลยด้วยซ้ำ”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่