บทที่1349 คู่หมั้น
สายตาของสวี่เย็นหวั่นมองจ้องเธอไปเงียบๆ “ฉันก็นึกมาตลอดว่าเธอจะรู้ ถึงยังไงพวกเธอก็เป็นแฟนกันไม่ใช่ว่าเขาควรเอาเรื่องนี้มาบอกเธอไม่ใช่หรือไง?”
ถูกถามออกมาอย่างนี้ เสี่ยวเหยียนแข็งค้างไปโดยสมบูรณ์
ใช่ พวกเธอเป็นแฟนกัน เรื่องพวกนี้ก็ควรจะรู้ แต่...เธอกลับไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง
แต่เสี่ยวเหยี่ยนไม่ใช่คนจำพวกที่ชอบดันทุรัง เธอยิ้มออกมาเล็กน้อย “ถ้านี่เป็นบาดแผลของเขา เขาไม่ยอมพูดฉันก็คิดว่ามันก็ไม่มีอะไรเหมือนกัน ครั้งนี้คงเป็นตัวฉันเองที่บุ่มบ่าม ฉันควรจะถามให้ชัดเจนก่อน”
สวี่เย็นหวั่นนึกไม่ถึงว่าเสี่ยวเหยียนจะปล่อยวางเร็วขนาดนี้ ในใจก็เกิดความแปลกใจแต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกชื่นชมจิตใจของเสี่ยวเหยียนขึ้นมา เธอก็ยังใจกว้างมากจริงๆ ตนพูดไปอย่างนั้นนึกไม่ถึงเลยว่าจะไม่ถูกจุดชนวนขึ้นมาเลยแม้แต่น้อย
เป็นไปอย่างที่คิดคนที่หานชิงชอบ ไม่ใช่คนจำพวกกระโดกกระเดก
แต่นี่ไม่ใช่ผลที่สวี่เย็นหวั่นต้องการ
ภายในใจของเธอกำลังกู่ร้องออกมา กำลังควบคุมตัวเองเอาไว้ อะไรที่ควรพูดอะไรที่ไม่ควรพูด ถึงแม้ว่าภายในใจของเธอควบคุมมันอย่างสุดความสามารถอยู่ตลอด แต่สุดท้ายก็ยังไม่สามารถต้านทานต่อความเห็นแก่ตัวของตัวเองได้ จึงเอ่ยเบาๆออกมา “ฉันแค่คิดว่าเขาควรบอกเรื่องนี้กับเธอ วันนี้พวกเธอทั้งสองคนก็จะไม่มีทางทะเลาะกันจนกลายเป็นอย่างนี้ ตอนนี้เกิดเรื่องจำพวกนี้ขึ้น ต่อจากนี้ระหว่างพวกเธอทั้งสองคนจะมีช่องว่างระหว่างกันหรือเปล่า? ต้องการให้ฉันไปช่วยเธออธิบายสักหน่อยมั้ย?”
เสี่ยวเหยียนส่ายหน้าออกมาเล็กน้อย “ช่างเถอะ ฉันไปหาเขาเองเถอะ ฉันจะอธิบายกับเขาเอง ขอบคุณนะคะที่บอกเรื่องที่เขาไม่ฉลองวันเกิดให้”
สวี่เย็นหวั่นฝืนยิ้มเจื่อนๆอย่างจนใจ “ขอโทษนะ วันนั้นตอนที่ได้ทราบข่าวก็นึกว่าเธอได้ช่วยเขาเอาชนะโรคนี้ได้แล้ว ตอนนั้นฉันยังคิดเลยว่าเธอมีความสามารถจริงๆ ก็เลยไม่ได้พูดออกมา ตอนนี้กลายมาเป็นอย่างนี้ ฉันเองก็มีความรับผิดชอบด้วยเต็มๆ”
“ไม่หรอก” เสี่ยวเหยียนปฏิเสธออกไปอย่างรวดเร็ว “นี่เป็นเรื่องระหว่างฉันกับเขา เป็นปัญหาระหว่างพวกเราทั้งสองคน ไม่เกี่ยวอะไรกับคุณ”
ได้ยินอย่างนั้นแล้ว สีหน้าของสวี่เย็นหวั่นซีดลง หลังจากผ่านไปครู่นึงก็จะเอ่ยออกไป “งั้นเธอรีบไปหาเขาเถอะ”
“อืม”
หลังจากเสี่ยวเหยียนออกไป ก็อดไม่ได้ที่จะนึกย้อนไปถึงคำพูดพวกนั้นที่สวี่เย็นหวั่นพูดกับเธอเมื่อกี้
เซนส์เธอผิดไปหรือเปล่า? คิดอยู่ว่าคำพูดพวกนั้นที่สวี่เย็นหวั่นพูดกับตนมีความหมายลึกๆแฝงอยู่
เสี่ยวเหยียนเม้มริมฝีปากแดงๆของตน เร่งฝีเท้าเดินออกไปด้านนอก
ถึงยังไงตอนนี้ไม่ว่าจะยังไง เธอเองไม่นับว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย อย่างน้อยเธอก็รู้ว่าหานชิงไม่อยากฉลองวันเกิด ส่วนทำไมเขาไม่ฉลองวันเกิด เมื่อกี้นี้เสี่ยวเหยียนไม่ได้ถามสวี่เย็นหวั่น และก็อยากรอหลังจากที่เจอหานชิงแล้วค่อยลองถามเขาดูด้วยตัวเอง
เธอไม่อยากฟังอดีตของเขาจากปากของคนอื่น เธอหวังว่าจะสามารถได้ยินเขาพูดกับเธอออกมาเอง
ดังนั้นตอนนี้เสี่ยวเหยียนจะต้องไปหาหานชิง!
“เสี่ยวเหยียน เสี่ยวเหยียน!”
ในตอนที่เสี่ยวเหยียนรีบขึ้นรถไป ก็ได้ยินว่าข้างหลังเหมือนจะมีคนเรียกชื่อตัวเอง
ตอนแรกเธอนึกว่าเธอหูฝาดไป ในตอนที่เตรียมจะก้มตัวขึ้นรถไปเสียงนั้นจากทางด้านหลังก็ยิ่งใกล้เข้ามา
“ไอ้หยา ฉันเรียกคุณอยู่นานทำไมคุณถึงไม่สนใจฉันล่ะคะ?”
เสี่ยวเหยียนหันหน้าไป มองสาวพนักงานหน้าเคาน์เตอร์ที่เหนื่อยหอบไปด้วยความตกใจ
“เธอหาฉัน?”
สาวพนักงานหน้าเคาน์เตอร์วิ่งเข้ามา หลังจากเธอกลับมาก็ได้ยินเพื่อนร่วมงานว่าเสี่ยวเหยียนมา ก็เลยรีบไล่ตามออกมา แต่ใครจะรู้ว่าเสี่ยวเหยียนเดินเร็วขนาดนั้น ดังนั้นแล้วเธอจึงตามไปอย่างยากลำบาก โชคดีที่รั้งเธอเอาไว้ได้
“ใช่! ฉันมีเรื่องจะพูดกับคุณ!”
พนักงานสาวหน้าเคาน์เตอร์เข้าไปดึงมือเธอเอาไว้ แต่เสียงหอบของเธอมันดังมากจริงๆ ท่าทางที่ดูเหนื่อยไม่ไหวแล้ว เสี่ยวเหยียนเห็นท่าทางของเธอเหมือนใกล้จะหายใจไม่ทัน ทำได้เพียงเอ่ยออกไปว่า “ถ้าไม่ใช่เรื่องด่วนอะไร ไม่งั้นเธอก็ค่อยพูดกับฉันวันอื่นเถอะ? ตอนนี้ฉันมีธุระด่วน ฉัน...”
“ไม่ๆๆ พูดวันอื่นไม่ได้นะคะ สิ่งที่ฉันจะพูดก็เป็นเรื่องที่สำคัญเหมือนกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่