เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่ นิยาย บท 1376

บทที่ 1375 ความรู้สึกเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้

เรียกรถให้เธอเหรอ

สีหน้าของสวี่เย็นหวั่นเปลี่ยนเป็นย่ำแย่ขึ้นมาทันทีในตอนนั้น เธอแอบกัดฟันกรอด จากนั้นก็ปลดเข็มขัดนิรภัยออก ออกมาจากในรถ

“ไม่ต้องเรียกรถแล้ว ถ้าคุณไม่ชอบที่ฉันนั่งตรงนี้ อย่างนั้นฉันลงจากรถก็ได้”

เห็นสิ่งที่เธอทำ เสี่ยวเหยียนก็เก็บโทรศัพท์ ริมฝีปากยกขึ้น:“อย่างนี้เหรอ งั้นก็ได้ ในเมื่อคุณเลือกเอง อย่างนั้นฉันก็เคารพการตัดสินใจของคุณนะ”

พูดจบ เธอก็ไม่แม้แต่จะหันกลับมามองมุดเข้าไปนั่งหลังรถ ไม่ได้นั่งตำแหน่งที่สวี่เย็นหวั่นนั่งเมื่อครู่

บรรยากาศน่าอึดอัดมาก

อย่างน้อยสวี่เย็นหวั่นก็รู้สึกแบบนี้ ดังนั้นเธอจึงมองไปยังหานชิงด้วยจิตใต้สำนึก ในใจคิดว่า แม้เขาจะไม่ชอบเธอ แต่อาจจะเห็นแก่ความสัมพันธ์ของทั้งสองตระกูลช่วยพูดอะไรแทนเธอบ้าง

แต่เธอก็ผิดหวัง เพราะสายตาที่หานชิงมองมาที่เธอไม่มีความสงสารเห็นใจเลยสักนิด ได้แต่เอ่ยเรียบๆว่า:“เหยียนเหยียนถูกผมตามใจจนเคยตัวแล้ว ที่นี่ไม่ไกลจากที่คุณบอก คุณนั่งรถไป แล้วไปเบิกค่ารถกับบริษัทนะ”

พูดจบ หานชิงที่กำลังหิ้วของอยู่ก็จากไปเลย

หลังจากที่รถไปแล้ว สวี่เย็นหวั่นยืนอยู่ที่เดิมคนเดียว

ตอนแรกเธอพยายามอดกลั้นอย่างสุดชีวิต แต่พอผ่านไปได้สักพัก น้ำตาก็ไหลพรั่งพรูออกมาจากขอบตา ไม่อาจสะกดกลั้นได้เลย

วินาทีนี้ความน้อยใจทั้งหมดดูเหมือนจะถูกปลดปล่อยออกมา

สวี่เย็นหวั่นนั่งยองๆ สั่นไปทั้งตัว

ส่วนอีกด้าน หลังจากที่เสี่ยวเหยียนนั่งเบาะหลัง ก็มองออกไปนอกหน้าต่างรถอย่างไม่พอใจ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกับคนข้างหน้า

บรรยากาศในรถอึดอัดมาก

หานชิงมองใบหน้าบูดบึ้งของเธอผ่านกระจกมองหลัง ก็ไม่รู้ว่าทำไม กลับไม่รู้สึกโกรธอะไรเลยสักนิด ตรงข้ามกลับรู้สึกอารมณ์ดี

เพราะสาวน้อยหึงแล้ว

ความจริงสำหรับหานชิงแล้ว ที่นั่งตรงไหนก็เหมือนกัน เขาไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยขนาดนั้น

ยิ่งไม่รู้คำพูดที่พูดถึงกันในอินเทอร์เน็ตว่าที่นั่งข้างคนขับเป็นของแฟนเท่านั้น ก็แค่ที่นั่งเท่านั้น ใครจะนั่งก็นั่ง

ในเมื่อจะนั่งตรงไหน ก็ล้วนไม่อาจเปลี่ยนความคิดในใจของเขาได้

ก็แค่คิดไม่ถึงว่าหญิงสาวจะโกรธมากขนาดนี้ โกรธจนเป็นแบบนี้ ไม่พูดอะไรกับเขาเลยสักคำ

ฉวยจังหวะติดไฟแดง หานชิงหยุดรถพูดว่า:“ผมมีเรื่องจะพูดกับคุณ”

ได้ยินอย่างนั้น เสี่ยวเหยียนแววตาขยับ ไฟโกรธของเธอยังไม่ดับมอดลง ดังนั้นจึงปฏิเสธเขาทันที

“ฉันไม่อยากฟัง”

พอพูดออกไป เธอก็คิดถึงครั้งก่อนที่ทะเลาะกัน เขาบอกว่าจะอธิบายกับตนเอง ผลก็คือเธอไม่ยอมฟัง จนนำไปสู่ความเข้าใจผิดของทั้งสองคน

เมื่อก่อนเธอหัวดื้อขนาดนั้น เกือบจะทำลายความสัมพันธ์นี้ด้วยน้ำมือตัวเองแล้ว

คิดมาถึงตรงนี้ เสี่ยวเหยียนจึงกลับคำพูดว่า:“ตอนนี้ฉันยังไม่อยากฟังคำพูดของคุณชั่วคราว รอหลังจากนี้อีกสามนาทีคุณค่อยพูด!”

หานชิงกลั้นยิ้มเอาไว้ “ได้ งั้นเริ่มจับเวลาตอนนี้เลยนะ”

เสี่ยวเหยียนขี้เกียจจะไปจับเวลา สามนาทีเธอก็แค่พูดออกไปมั่วๆเท่านั้นเอง ไม่อย่างนั้นแบบนี้เธอก็เสียหน้าแย่นะสิ

โกรธคือโกรธจริงๆ แต่หลังจากผ่านเรื่องครั้งนั้นมา เสี่ยวเหยียนกลับรู้ว่าตนเองไม่อาจทำนิสัยดื้อรั้นเหมือนครั้งนั้นได้อีกแล้ว

อย่างน้อยเธอก็ควรรู้ถึงต้นสายปลายเหตุของเรื่อง แล้วค่อยตัดสินใจ

คำพูดของหานชิงเมื่อครู่ก็ได้เปิดเผยออกมาแล้วว่า สวี่เย็นหวั่นเป็นคนขอนั่งที่เบาะข้างคนขับเอง และหานชิงก็เป็นผู้ชาย เมื่อก่อนทั้งสองเป็นเพื่อนกัน แน่นอนว่าไม่ค่อยกล้าที่จะปฏิเสธ

จุดนี้เธอก็ไม่อาจจะโทษเขาได้ และอาจเป็นเพราะเธอใจแคบเอง

ตอนนี้มองสวี่เย็นหวั่นแน่นอนว่าไม่ชอบมากๆ

เรื่องของความรู้สึกยอมไม่ได้ที่จะมีอะไรมาทำให้ระคายใจ ถ้าเธอและหานชิงไม่ได้มีความสัมพันธ์อะไร แน่นอนว่าเธอเป็นเพื่อนกับหานชิงได้ แต่ถ้าเธอก็ชอบหานชิง อย่างนั้นความสัมพันธ์ของเขากับสวี่เย็นหวั่นก็ไม่อาจบริสุทธิ์ไร้เดียงสาเหมือนเมื่อก่อนได้แล้ว

ในเมื่อเป็นแบบนี้ สู้ไม่ต้องเป็นเพื่อนกันเลยจะดีกว่า

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่