บทที่ 1376 มีแฟนแล้วเหรอ
“ไม่ใช่แน่นอน!”เสี่ยวเหยียนปฏิเสธตามสัญชาตญาณ ปฏิเสธเสร็จแล้วก็เข้าใจความหมายของหานชิงเลย จากนั้นก็รีบพูดว่า:“เอาละพอแล้ว ฉันไม่ถามคุณแล้วก็ได้ คุณก็อย่ามาถามฉันแล้วกัน”
“ทำไม”หานชิงขมวดคิ้ว เหล่มองเธอจากกระจกมองหลังอย่างขำๆ :“ไม่ทันไรก็เอาไม่อยู่ซะแล้วเหรอ”
“อืม ฉันยอมแพ้แล้ว!” เสี่ยวเหยียนยกมือทั้งสองขึ้น “ตั้งใจขับรถเถอะ”
ความจริงแล้วเสี่ยวเหยียนก็ยังมีความพึงพอใจอยู่บ้าง อย่างน้อยหลังจากที่เธอไล่คนลงจากรถ หานชิงก็ไม่ได้ถามอะไรเลยสักประโยค หรือว่าเคลือบแคลงสงสัยอะไร
ไม่มี ไม่มีอะไรเลย เขาไม่แม้แต่จะเรียกสวี่เย็นหวั่นขึ้นรถอีก ตอนนี้มาคิดๆดูแล้ว เขาไม่ได้เห็นใจเลยแม้แต่น้อยจริงๆ
สวี่เย็นหวั่นดูเหมือนว่าจะน่าเวทนามากจริงๆ เธอร้ายกาจเกินไปหรือเปล่านะ
ช่างเถอะไม่สนแล้ว ใครใช้ให้เธอไม่เรียกรถเอง จะต้องนั่งรถของแฟนเธอให้ได้ล่ะ แล้วยังมาถามคำถามที่ทำให้เธอไม่ชอบใจอีกด้วย
ก็ถือว่ากรรมตามสนองแล้วกันนะ~!
ช่วงนี้เจียงเสี่ยวไป๋มีแต่เรื่องน่าปวดหัว
เพราะนับตั้งแต่งานแซยิดของคุณย่าครั้งก่อน หลังจากที่คุณลุงของเธอได้พบกับเซียวซู่ในงานเลี้ยงแล้ว ก็คิดแต่จะหาโอกาสร่วมงานกับเซียวซู่ตลอด
แต่เขาไม่มีช่องทางนี้ เขาไม่รู้จักเซียวซู่ แต่ว่าเจียงเสี่ยวไป๋รู้จักนี่
ทว่าคุณลุงของเธอก็ไม่กล้าเรียกหาเจียงเสี่ยวไป๋โดยตรง ดังนั้นจึงไปพ่อของเธอเจียงเหย็นเคอและตู้เซียวหยู่แม่ของเธอ
ตอนที่ไปหาถือของขวัญของบำรุงต่างๆมากมาย พูดจาไพเราะน่าฟัง จากนั้นก็พูดถึงจุดประสงค์ที่มา
พูดถึงคุณลุงกับคุณป้านี้ ความจริงเจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีมีอะไรประทับใจพวกเขาเป็นพิเศษ
แต่เธอและลูกชายของคุณลุงเจียงเทียนโย่วกลับมีความสัมพันธ์ที่ไม่เลวเลยทีเดียว
คุณลุงยุ่งอยู่กับการทำงานหาเงินตลอดเวลา ตอนแรกคุณป้าก็ช่วยงาน จนกระทั่งต่อมาเริ่มมีชีวิตความเป็นอยู่ดีขึ้นก็เริ่มมีเวลาว่างพักผ่อน บางครั้งก็นำของมาให้พ่อแม่เธอเล็กน้อย
ตอนที่เจียงเทียนโย่วกำลังเรียนหนังสือก็ดูแลเธออย่างดีมาก
ดังนั้นตอนที่ตู้เซียวหยู่ถามเธอ เจียงเสี่ยวไป๋จึงไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร
แต่ว่า เธอคิดทบทวนความสัมพันธ์ของเธอกับเซียวซู่ดูแล้ว หากเป็นแฟนกันจริงก็ดูเหมือนจะไม่เป็นไร แต่เธอกับเซียวซู่ก็แค่แกล้งทำเป็นแฟนกันนี่
ตอนที่แกล้งเล่นละครก็ตกลงเงื่อนไขกันเรียบร้อย แต่เงื่อนไขเหล่านี้แทบจะไม่ได้รวมไปถึงว่าจะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของเขาในข้านี้
ดังนั้นตอนนี้เจียงเสี่ยวไป๋ปวดหัวมาก ได้แต่แสดงออกให้แม่เธอเห็นถึงความลำบากใจ
“แม่คะ หนูอยากช่วยคุณลุงนะคะ แต่ว่าหนูคิดดูแล้ว หนูกับเขาก็ไม่ได้ลงเอยกัน ตอนนี้เข้าไปแทรกแซงเรื่องงานของเขามันจะดูไม่ค่อยดีหรือเปล่าคะ คุณลุงมีหัวทางธุรกิจ แต่ที่ทำงานของเซียวซู่ไม่ใช่กลุ่มบริษัทองค์กรทั่วไป นี่ถ้าเกิดมีอะไรผิดพลาด ต่อให้คุณมีลูกสาวร้อยคนก็ไม่อาจชดเชยได้”
“พูดอะไรของลูก”ตู้เซียวหยู่ดุเธอ:“ลูกเห็นลุงเป็นคนยังไง เขาก็แค่อยากให้ลูกช่วยแนะนำให้พวกเขาสองคนรู้จักกัน ไม่ได้ให้ลูกเข้าไปแทรกแซงงานอะไรเลย พูดกันตามความจริง ตอนแรกพ่อกับแม่ของลูกก็ไม่อยากรับปาก แต่ว่าป้าสะใภ้ของลูกมาทุกวัน ซื้อของนั่นนี่มาให้ทุกวัน พ่อก็รู้สึกเกรงใจมากแล้ว แล้วอีกอย่างบ้านเขาก็ดูเหมือนว่าจะดีกับบ้านพวกเรามาตลอด เมื่อก่อนนี้ก็ไม่เคยขอร้องอะไรพวกเรา ตอนนี้เขาก็อุตส่าห์เอ่ยขอ แม่กับพ่อจะปฏิเสธได้ลงคอเหรอ”
นี้ก็ถือว่าจริง แม้แต่เจียงเสี่ยวไป๋ยังไม่กล้าที่จะปฏิเสธ
แต่ถ้าเธอไม่ปฏิเสธ อย่างนั้นคนที่จะลำบากใจก็คือตนเอง
“แม่ไม่กล้าปฏิเสธ อย่างนั้นหนูก็ไม่กล้าที่จะไปเสนอขอ ถ้าอยากเสนอก็ไปเอง ในเมื่อยังไงหนูก็ไม่ไปพูด”
“ไอ้ลูกคนนี้ นั่นมันแฟนลูกไม่ใช่แฟนแม่ แม่จะเป็นคนไปพูดได้ยัง”
“ยังไงหนูก็ไม่สน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่