บทที่1557 ตบตี
เพี้ย!
ตบฉาดนี้เสียงดังกึกก้อง ขณะเดียวกันทุกคนก็คิดไม่ถึง ว่าจู่ๆจางเสี่ยวลู่จะลงมือ ทุกคนต่างก็ตกใจยกใหญ่
ถางหยวนหยวนกับเมิ่งเข่อเฟยเป็นเพื่อนกันมาหลายปี ตอนนี้พอเห็นเพื่อนตัวเองโดนตบ ก็เดินเข้าไปปกป้องเธอ “จางเสี่ยวลู่เธอทำอะไร ?”
ก่อนหน้านี้เธอน่ารักใสซื่อมาตลอด คนที่สงบเรียบร้อยอย่างถางหยวนหยวนตอนนี้กลับเหมือนแม่ที่ปกป้องลูกดึงเมิ่งเข่อเฟยให้ไปหลบอยู่หลังตัวเอง “เธอทำเกินไปแล้วนะ”
“ฉันเกินไป ?” จางเสี่ยวลู่ยกมุมปากเบาๆ “เธอไม่ฟังที่เขาพูดออกมาก่อนว่านั่นคืออะไร มาบอกว่าฉันขโมยครีมกันแดดเธอ ตำแหน่งเตียงของฉันห่างจากเธอขนาดนั้น ฉันจะลุกขึ้นไปขโมยกลางดึกเหรอ”
ถางหยวนหยวนพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันไม่ได้บอกว่าพวกเธอขโมยสักหน่อย เธอจะตื่นเต้นไปทำไม อีกอย่างเธอเป็นคนสงสัยเฟยเฟยก่อน เฟยเฟยเองก็มีสิทธิ์สงสัยเธอเหมือนกัน”
ถ้าไม่ได้เห็นแก่ฐานะของยู่ฉือยี่ซู จางเสี่ยวลู่ก็คงตบถางหยวนหยวนไปด้วยอีกคน เพราะไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนทำตัวยโสแบบนี้ต่อหน้าเขามาก่อน แต่พอคิดถึงพี่ชายเธอ อนาคตเขาอาจจะมีโอกาสได้เป็นพี่สะใภ้เธอ เลยทำได้แค่อดกลั้นความแค้นที่อยู่ในใจเอาไว้ อดกลั้นอารมณ์แล้วพูดกับถางหยวนหยวนว่า “หยวนหยวน ฐานะทางบ้านเธอดี เลยไม่รู้ว่าด้านนอกนั้นมีผู้คนจิตใจโหดเหี้ยมอยู่ เหมือนคนอย่างเมิ่งเข่อเฟยที่แผนสูง เธอรีบถอยไป ฉันจะฉีกหน้ากากที่แท้จริงของเขาออกให้เธอดูเอง”
จางเสี่ยวลู่ตื่นเต้นมาก ส่วนหยวนเย่าหันที่อยู่ด้านข้างก็ยืนกอดอกมองดูด้วยท่าทางเหมือนกำลังดูเรื่องสนุก ไม่เข้าร่วมและไม่พูดจา
“ฉันแผนสูงอะไร ? ถ้าหากฉันแผนสูงล่ะก็ ทำไมฉันต้องเอาครีมกันแดดของตัวเองให้หยวนหยวนใช้ด้วย คำพูดพวกนี้ของเธอ มันจะใส่ร้ายป้ายสีกันเกินไปแล้วนะ”
คนในหอพักต่างก็เข้ามามุง แล้วมองดูฉากนี้ด้วยความสงสัย
“ใช่การใส่ร้ายป้ายสีจริงหรือเปล่ายังไม่รู้ เธอเป็นคนที่สนิทกับเขามากที่สุด การที่เธอจะทำเรื่องแบบนี้จึงสะดวกที่สุดด้วย”
“ถ้าหากถูกคนเพ่งเล็งเข้า ไม่ว่าจะสนิทหรือไม่ ก็ต้องหาโอกาสได้อยู่ดี”
จางเสี่ยวลู่ “ฉันพอจะเข้าใจแล้ว พูดให้ถูกเธอก็คือเธอเพ่งเล็งฉันสินะ รู้สึกว่าฉันขโมยครีมกันแดดของหยวนหยวนงั้นเหรอ ?”
เมิ่งเข่อเฟย “เธอเป็นคนจุดไฟบนหัวฉันก่อนนะ ฉันมีเหตุผลที่สมควรพอจะสงสัยว่าเธอพยายามจะเบี่ยงเบนสายตาหรือเปล่า”
คำพูดนี้ทำให้จางเสี่ยวลู่โกรธขึ้นมาได้สำเร็จ เธอยืนทำปากขมุบขมิบอยู่กับที่ ดูแล้วเหมือนจะหมดคำพูด ผ่านไปครู่หนึ่งจู่ๆก็พุ่งออกมาด้านหน้าเหมือนเสือดาว แล้วยื่นมือไปดึงผมของเมิ่งเข่อเฟย
“นังคนแพศยา ฉันให้เธอปากดี ฉันให้เธอสงสัย พูดว่าเบี่ยงเบนสายตาอะไร ฉันเบี่ยงเบนลุงเธอสิ”
จู่ๆจางเสี่ยวลู่ก็ใช้ความรุนแรงเหมือนผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง ทุกคนต่างก็คาดไม่ถึง บวกกับที่ส่วนสูงของเธอชิงความได้เปรียบมาก ดังนั้นเมิ่งเข่อเฟยพออยู่ต่อหน้าเธอก็ได้แค่ถูกรังแกเท่านั้น เธอพยายามเต็มที่คิดจะตอบโต้ และหยิกคอกับดึงเส้นผมของจางเสี่ยวลู่
“อย่าตีเฟยเฟยนะ!” ถางหยวนหยวนเห็นเมิ่งเข่อเฟยเพื่อนสนิทของตัวเองถูกรังแก แน่นอนว่าต้องเข้าไปช่วยอยู่แล้ว แต่เธอไม่เคยตบตีกับใครมาก่อน จึงทำได้แค่เข้าไปช่วยลากตัวจางเสี่ยวลู่ ออกมาเท่านั้น แต่จางเสี่ยวลู่คิดอยากจะฉีกท่าเดียว ฉีกใบหน้าที่หน้าซื่อใจคดของเมิ่งเข่อเฟยออก ลงมืออย่างโหดเหี้ยม ถึงแม้จะเป็นถางหยวนหยวนก็ไม่ละเว้น
พอหยวนเย่าหันที่อยู่ด้านข้างเห็นเข้า ก็คิดถึงพี่ชายของหยวนหยวนขึ้นมาได้ทันที ถึงเวลาหากหยวนหยวนเกิดเป็นอะไรขึ้นมา พี่ชายของเธอคงปวดใจแย่ ดังนั้นเขาเลยรีบเข้าไปลากตัวออกมา
“หยวนหยวน นี่เป็นเรื่องระหว่างพวกเขาสองคน เธออย่าเข้าไปยุ่ง”
“ไม่ได้ ปล่อยฉันนะ ห้ามตีเฟยเฟยนะ”
ถางหยวนหยวนเข้าไปช่วย แต่จางเสี่ยวลู่กลับฟาดฝ่ามือเข้ามา ฝ่ามือนี้ตอนแรกคิดจะตบเมิ่งเข่อเฟย แต่เป็นเพราะถางหยวนหยวนเข้ามาขวาง ดังนั้นเลยตบโดนใบหน้าของถางหยวนหยวน
เพี้ย!
เสียงดังกึกก้อง ขนาดจางเสี่ยวลู่เองก็ยังรู้สึกว่าฝ่ามือตัวเองสั่นด้วยความเจ็บปวด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่