บทที่ 1676 การเปลี่ยนแปลงไปของยู่ฉือยี่ซู
ยู่ฉือยี่ซูคิดว่าตนเองฟังผิด หยวนหยวนกับ... เด็กหนุ่มนั่นกำลังกินชาบูหม้อไฟอยู่เหรอ?
“ยู่ฉือยี่ซู? ยู่ฉือยี่ซู?”
จนตอนที่เพื่อนร่วมห้องตะโกนเรียกตนเองตั้งหลายครั้ง ยู่ฉือยี่ซูถึงได้สติกลับมา เขายื่นมือออกมาพลางมองเวลาบนนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่ง ริมฝีปากบางเม้มจนเป็นเส้นขีด ผ่านไปชั่วครู่ถึงได้เอ่ยปากถาม “อยู่ที่ไหน?”
ตอนที่เจียงหยู่กลับมานั้น พอดีกับทางพนักงานเอาของที่พวกเขาเพิ่งจะสั่งไปใหม่เอามาเสิร์ฟบนโต๊ะ หม้อไฟก็เปลี่ยนน้ำซุปมาใหม่ จงหย่งหรันกวักมือไปทางหยวนหยวน “รุ่นน้อง จะย้ายมานั่งทางนี้ไหม?”
เพราะว่าฝั่งพวกเขาทางนี้มีที่นั่งอยู่หกคน น่าจะนั่งฝั่งตรงข้ามฝั่งละสองคน แต่พอเพื่อนทั้งสองคนของยู่ฉือยี่ซูมาแล้ว ก็ดันไปนั่งกับหยวนหยวนแทน ส่วนฝ่ายตรงกันข้ามก็เหลือจงหย่งหรันคนเดียว
เมื่อสิ้นเสียงคำพูดของเขา เจียงหยู่ลุกขึ้นยืนทันที “ฉันไปฝั่งนั้นแล้วกัน”
จากนั้นเจียงหยู่ก็นั่งด้านข้าง จงหย่งหรัน พอดีเลยที่ข้างหยวนหยวนเหลือที่นั่งอีกหนึ่งที่ ถึงตอนนั้นพี่ซูมาก็จะได้เก็บไว้ให้เขานั่งพอดี
เจียงหยู่คนคนนี้ ฉลาดหลักแหลมพร้อมทั้งละเอียดรอบคอบ ก่อนหน้านี้ถางหยวนหยวนเคยไปที่หอพักมาครั้งหนึ่งแล้วเขาก็รู้สึกได้ว่าบรรยากาศระหว่างคนสองคนมันดูผิดปกติ จากนั้นถึงได้รู้ว่าคนเราสนิทสนมและเติบโตด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก
ในใจเลยเดาออกได้ประมาณหนึ่ง แต่ว่ายังครุมเครืออยู่ เจ้าตัวไม่เอ่ยเรื่องนี้เขาย่อมไม่พูดถึงอย่างแน่นอน
เรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้นั้น เขาก็ต้องอยู่ฝ่ายพี่น้องของเขาอยู่แล้ว ดังนั้นจึงได้โทรศัพท์ไปลองใจ เมื่อยู่ฉือยี่ซูได้ยินเรื่องแล้วก็เงียบงันไปนานถึงได้ถามที่อยู่ออกมาแล้ว เจียงหยู่เลยเข้าใจทุกอย่างในตอนนั้นเอง
ส่วนถางหยวนหยวนนั้นอยากจะไปจากที่นี่มากจริงๆ เพราะว่าการที่ชายหนุ่มสามคนมานั่งกินชาบูหม้อไฟด้วยกันนั้นเป็นสิ่งที่เธอไม่เคยคาดคิดมาก่อน อีกอย่างทั้งสามคนต่างก็ไม่ได้สนิทสนมกันมาก่อนด้วย
ท่ามกลางความอึดอัด เธอกำลังคิดว่า ถ้าพี่ชายมาปรากฏตัวในเวลานี้ก็คงดี
ตอนที่กำลังครุ่นคิดอยู่นั้น เจียงหยู่ที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามเธอก็กวักมือเรียกคนทางด้านหลังของถางหยวนหยวน สีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส่ “พี่ซู ตรงนี้”
พี่ซู?
ถางหยวนหยวนคิดว่าตนเองนั้นฟังผิดไป แต่พอตอนที่หันหลังกลับไปมองก็เห็นเงาของร่างกายสูงโปร่งมุ่งหน้าเดินมาทางนี้ คนคนนี้อกผายไหล่ผึ่งขายาว หน้าตาหล่อเหลา ตอนที่นั่งลงด้านข้างถางหยวนหยวนนั้น บนตัวยังมีความเย็นชาให้เห็นจากภายนอก แต่ว่าไม่นานนักก็ถูกไอความร้อนของชาบูหม้อไฟทำให้สลายไป
ยู่ฉือยี่ซูนั่งลงด้านข้างถางหยวนหยวน พร้อมทั้งเอาโทรศัพท์วางไว้บนโต๊ะ
ร่างกายของถางหยวนหยวนตึงเครียดทันทีอย่างไม่รู้ตัว
“พี่ชายท่านนี้ ฝั่งเราเพิ่มมาอีกหนึ่งคน คุณคงไม่ถือสานะ?” เจียงหยู่มองจงหย่งหรันที่อยู่ด้านข้าง พร้อมทั้งถามอย่างยิ้มแย้ม
เพราะว่าการปรากฏตัวอย่างฉับพลันของชายหนุ่มที่หล่อเหลางดงามคนนี้ ความจริงแล้วมันทำให้จงหย่งหรันมีความรู้สึกตกใจและประหลาดทันที เพราะว่ารัศมีบนร่างกายของเขานั้นช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน มีโลกของตนเองสูง
ทว่าเมื่อนานั่งด้านข้างของถางหยวนหยวนแล้ว บรรยากาศนั้นพลันหลอมรวมไปกับถางหยวนหยวนอย่างรวดเร็ว จากสายตามุมมองของเขานั้น ทั้งสองคนช่างเหมาะสมกันอย่างบอกไม่ถูก
“แน่นอนว่าไม่ถือสา เพราะว่าเป็นเพื่อนของหยวนหยวน เช่นนั้นทุกคนก็เป็นเพื่อนกัน”
“เขาเหรอ ไม่ได้เป็นแค่เพื่อนของหยวนหยวนธรรมดานะสิ” เจียงหยู่พูดเสริมต่อเหมือนไม่ได้จงใจพูด แต่ก็ไม่ได้บอกสถานะที่แท้จริงของยู่ฉือยี่ซู เพื่อให้จงหย่งหรันไปคาดเดาเอาเอง
จงหย่งหรันตะลึงไปชั่วครู่ พลันเข้าใจอย่างถ่องแท้ทันที เขาพยักหน้าให้ยู่ฉือยี่ซู “สวัสดีครับพี่ชายท่านนี้ ผมคือจงหย่งหรัน เป็นรุ่นพี่ของหยวนหยวน”
“อืม” ยู่ฉือยี่ซูตอบด้วยอารมณ์ปกติ พร้อมทั้งพูดอย่างเย็นชาออกมาหนึ่งประโยค “ยู่ฉือยี่ซู”
เมื่อพูดจบจากนั้นก็หันไปมองถางหยวนหยวน พร้อมทั้งจ้องหน้าเธออยู่สักพัก ทันใดนั้นก็ใช้มือหยิกแก้มเธอ พร้อมทั้งพูดออกมาหนึ่งประโยค “ผอมไปนะ”
ถางหยวนหยวนตัวแข็งทื่อทันที พร้อมทั้งมองยู่ฉือยี่ซูอย่างตกใจและประหลาดใจ จากนั้นริมฝีปากชมพูระเรื่อพลันเผยอขึ้น ราวกับอยากจะพูดอะไรบางอย่างออกมา แต่ถูกยู่ฉือยี่ซูพูดแทรกเสียก่อน
“เหมือนว่าตอนที่ฉันไม่ได้อยู่ข้างกายคุณ ไอ้นิสัยเสียเรื่องที่คุณไม่ยอมกินข้าวเริ่มกลับมาอีกแล้ว”
พูดจบ ยู่ฉือยี่ซูก็ให้พนักงานเอาข้าวมาหนึ่งถ้วย วางลงด้านหน้าเธอ “กินชาบูหม้อไฟอย่ากินกับอย่างเดียว กินข้าวด้วยสิ จะได้ไม่ต้องกินข้าวเย็นอีก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่