บทที่ 224 โจรตะโกนจับโจร
เสิ่นเฉียวยกริมฝีปากขึ้นหัวเราะเยาะ “พวกเราไม่เหมือนเธอที่มีทรัพย์สินเงินทองมากมาย อาหารกลางวันก็ต้องจ่ายเงินซื้อมาฉันจะกินอะไรเกี่ยวอะไรกับเธอด้วยไม่ทราบ”
และเฉินเฉียวเชื่อว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นที่ชั้นล่าง ทุกคนก็จ้องมองเธอด้วยสายตาดูถูกแบบนั้นโดยที่เธอไม่รู้ว่าเรื่องอะไร เธอเชื่อว่าหลังจากที่เธอกินอาหารมื้อนี้เสร็จชั้นล่างก็ยังอยู่เช่นเดิมและคงจะใช้เวลาทั้งวัน
เนื่องจากคนข้างล่างคงไม่หายไปไหนง่ายๆ แล้วทำไมเธอไม่กินอาหารก่อนให้เรียบร้อยที่จะไปล่ะ
เสี่ยวเหยียนรู้สึกหดหู่ใจมากขณะรับประทานอาหารและถามด้วยเสียงต่ำ “เธอไม่ได้รีบร้อนเลยนะ ฉันอยากรู้มากว่าเกิดอะไรขึ้นที่ชั้นล่าง ฉันจะมีใจกินข้าวลงได้อย่างไร”
“กินเถอะ ไม่มีอารมณ์จะกินก็ต้องกินเข้าไป ใครจะรู้ว่าเดี๋ยวจะต้องออกแรงอะไรหรือเปล่า” เสิ่นเฉียวตอบโดยไม่รู้ตัว
เสี่ยวเหยียนเข้าใจทั้งหมดในทันทีและพยักหน้า “เธอพูดถูกบางทีเราอาจจะยังต้องสู้รบตบมืออีก ฉันไม่ได้มีเรื่องมานานแล้วฉันก็ตื่นเต้นมาก”
เสิ่นเฉียว “……”
เธอแทบสำลัก มองเสี่ยวเหยียนอย่างทำอะไรไม่ถูก “ทำไมซนอย่างนี้”
“แบร่”
เพียงแต่ว่าเสิ่นเฉียวคงไม่คาดคิดมาก่อนว่าเรื่องที่เธอตัดสินใจจะกินอาหารมื้อนี้เป็นเรื่องถูกต้องจริงๆ เพราะเธอต้องออกแรงหลังจากลงไปข้างล่าง
เดิมเฉียงเวยมาที่นี่เพื่อหาเรื่อง ไม่ได้คาดคิดว่าพวกเธอจะสงบนิ่งขนาดนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกเขินอายเมื่อยืนอยู่ข้างๆ เธอจ้องไปที่เสิ่นเฉียวแล้วพูดอย่างโกรธเคืองว่า “ฉันจะคอยดูตอนที่ลงไปชั้นล่างจะใจเย็นแบบนี้ได้อีกไหม”
หลังจากพูดแล้วเฉียงเวยก็หันไปเดินจากไปด้วยความโกรธ
หลังจากที่เธอจากไป เสี่ยวเหยียนก็แลบลิ้นออกมา แสดงถึงการไม่สนใจแม้แต่น้อย
เสิ่นเฉียวหลุบตาลงอย่างช่วยไม่ได้และกินอาหารของตัวเองต่อไป
พวกเธอสองคนกินอย่างช้าๆ และครุ่นคิด คนอื่นๆ ก็ดูเป็นกังวลแทนพวกเธอ แต่ทั้งสองคนดูเหมือนจะไม่สนใจทำตัวสงบเงียบกว่าใคร ๆ
เมื่อพวกเขาทานอาหารเสร็จก็ผ่านไปสิบนาทีแล้ว เสี่ยวเหยียนก็เก็บข้าวของ “งั้นเราไปชั้นล่างกันเลยไหม”
เสิ่นเฉียวเอาทิชชู่เช็ดมุมปากพยักหน้า “โอเคลงไปเถอะ”
หลังจากที่ทั้งสองคนเก็บข้าวของเรียบร้อยแล้วก็ลงไปชั้นล่าง ในขณะที่พวกเขากำลังรับประทานอาหาร คนอื่นๆ ที่ต้องการชมละครก็เร่งความเร็วในการทานอาหาร เมื่อเห็นพวกเธอเดินลงไปชั้นล่างพวกเขาก็รีบเก็บข้าวของและตามลงไปชั้นล่าง ด้วยเพื่อรับชมการแสดง
ถึงยังไง คนก็เป็นแบบนี้ชอบนินทาและหาเรื่องเม้าท์
เสี่ยวเหยียนตามเสิ่นเฉียวลงไปชั้นล่างเหลือบมองไปที่คนข้างหลังแล้วถามด้วยเสียงต่ำ “ไม่เป็นไรจริงๆ เหรอ พวกเขาตามเรามาตลอดเลย ฉันไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นข้างล่างกันแน่ ให้ฉันลงไปสืบให้เธอก่อนไหม”
“เธอไม่จำเป็นต้องลำบากขนาดนั้นหรอก เกิดอะไรขึ้นลงไปข้างล่างก็รู้เอง” เสิ่นเฉียวฉันอยากรู้จริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น จู่ๆก็มีคนบอกว่าเธอเป็นมือที่สาม
คำว่ามือที่สามนั้นช่างห่างไกลจากเธอเหลือเกินนอกจาก ... แม้ว่าจะเป็นมือที่สามแต่เธอก็เป็นคนโดยไม่รู้ตัวมาก่อน
คิดถึงหลินเจียงขึ้นมา
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ก้าวย่างของเสิ่นเฉียวก็หยุดอย่างกะทันหัน คิดถึงเรื่องก่อนหน้านี้หลินเจียงเข้ามาและขอร้องตัวเองว่าอย่ายุ่งเกี่ยวกับเขาอีก แต่เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น มาตอนนี้คนที่มีความแค้นกับเธอน่าจะเป็นหลินเจียงและ มือที่สามอย่างซือฉีนเป่าคนที่เขาพาเข้ามาในบ้าน
“มีอะไรเหรอ” เสี่ยวเหยียนตระหนักว่ามีบางอย่างผิดปกติกับเธอจึงถาม
เมื่อได้ยินดังนั้นเสิ่นเฉียวกลับมามีสติอีกครั้ง “ไม่เป็นไร ฉันแค่คิดว่าฉันรู้แล้วว่าคนที่ทำให้เกิดเรื่องวุ่นวายอยู่ชั้นล่างคือใคร”
“คือใคร” เสี่ยวเหยียนถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
เสิ่นเฉียวยิ้มอย่างแผ่วเบา “ถ้าฉันเดาไม่ผิดก็น่าจะมีแต่คนคนนั้นที่จะทำเรื่องแบบนี้”
“... อะไรกัน ท่าทางแบบนี้ ไม่รู้ว่ากำลังพูดถึงใครอยู่ดี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่