บทที่ 342 ดำเนินการหย่ากับเขา
“เห้อ เธอเลิกพูดหลักการอะไรแบบนั้นกับฉันเถอะ ยังไงก็คงเหมือนกันอยู่ดี”
เสิ่นโย่วพูดจบก็หันตัวไปมองรอบ ๆ ด้วยใจที่ยังคงไม่สงบเช่นนั้น: “ยังไงฉันก็เข้าใจความหมายของสิ่งที่เธอพูด เธอรู้สึกว่าการที่เป็นพี่สาวของฉันมันไม่แฟร์กับเธอและทำให้เธอรู้สึกลำบากสินะ ตอนนี้เธอได้อยู่โรงแรมที่ใหญ่โตขนาดนี้ แถมยังเป็นลูกสาวคนโตคนสำคัญของตระกูลหานอีก หลังจากนี้เธอก็คงจะไม่ต้องมาดูแลน้องสาวอย่างฉันแล้วสินะ ช่างมีความสุขดีจริง ๆ ”
เสิ่นเฉียวไม่รู้ว่าจะต้องอธิบายกับเธออย่างไรดี แล้วจากที่ได้อยู่ด้วยกันมาตลอดหลายปี เธอนั้นก็รู้ดีว่าคำพูดของเธอนั้นไม่สามารถเข้าไปในหัวของเสิ่นโย่วได้เลยแม้แต่น้อย เธอจึงไม่พูดอะไรต่อ
“งั้นก็แล้วแต่เธอเถอะว่าจะคิดยังไง ฉันเหนื่อยมากแล้ว อยากจะกลับไปนอนต่อสักหน่อย”
พูดจบ เสิ่นเฉียวก็ตรงเข้าไปในห้องทันที
เสิ่นโย่วถอนหายใจออกมาหนึ่งที ยืนนิ่งกับที่ไม่ไปไหน
เมื่อเสิ่นเฉียวเข้าไปนอนแล้ว เสิ่นโย่วมองไปยังห้องที่กว้างใหญ่ของโรงแรมนี้ด้วยความรู้สึกลำบากใจเป็นอย่างมาก แต่จู่ ๆ นั้นก็นึกอะไรขึ้นมาได้ รีบหยิบเอาโทรศัพท์ขึ้นมา และไปถ่ายรูปเซลฟี่ตัวเองในห้องน้ำ
หลังจากถ่ายรูปตัวเองเสร็จเธอก็รู้สึกว่ารูปนั้นไม่แย่เลย จึงได้ไปไล่ถ่ายรูปตามมุมต่าง ๆ ของโรงแรม หลังจากนั้นก็อัปโหลดโพสต์รูปเหล่านั้นลงไป
แท้จริงแล้วเสิ่นโย่วนั้นเป็นคนที่ทระนงตนมาตั้งแต่เล็ก มักจะเปรียบเทียบกับคนอื่นอยู่เรื่อย ๆ
วันนี้เมื่อเห็นบรรยากาศภายในโรงแรมที่ดูไม่เลว ก็จึงถ่ายเซลฟี่และโพสต์รูปเหล่านั้นลงไป หวังว่าจะสามารถได้รับความสนใจจากเหล่าเพื่อน ๆ
ซึ่งก็เป็นอย่างที่คิด หลังจากที่เธอเพิ่งจะลงรูปไปได้ไม่นาน ก็มีคนจำนวนมากเข้ามากดไลค์
เสิ่นโย่วที่ถือโทรศัพท์อยู่ก็รู้สึกสบายใจ ความโกรธก็หายไปมาก
*
หลังจากที่เสิ่นโย่วตื่นนอน เสิ่นโย่วก็ไม่ได้อยู่ในห้องของโรงแรมแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากวาดดูข้อความในวีแชท ก็พบกว่าเธอได้ส่งข้อความวีแชททิ้งไว้ให้เธอ บอกว่าเธอมีนัดกับเพื่อน เลยออกไปก่อนแล้ว
เสิ่นเฉียววางโทรศัพท์ลงและไปล้างหน้าล้างตา
เธอนั้นอยู่ที่นี่มาก็นานมากแล้ว ไม่สามารถที่จะอยู่แบบนี้ต่อไปได้แล้ว เธอควรจะทำตัวให้ร่าเริงและลุกขึ้นยืนใหม่อีกครั้ง ต้องไปหางานทำ แล้วก็……แม้ว่าเย่โม่เซินจะเอาใบเซ็นหย่ามาให้เธอแล้ว แต่ว่าทั้งสองคนนั้นยังคงไม่ได้ดำเนินเรื่องหย่ากัน
ดังนั้นเธอก็ควรจะไปหาเย่โม่เซิน เพื่อเดินเรื่องหย่าให้เรียบร้อยสักหน่อย
จะผัดวันประกันพรุ่งก็คงไม่ดี งั้นก็วันนี้เลยแล้วกัน
เสิ่นเฉียวเปลี่ยนเสื้อผ้าและแต่งหน้า
ในวันปกติธรรมดานั้นเธอมักจะใช้ลิปสีอมชมพู แต่ว่าวันนี้เธอกลับใช้สีแดงเด่นชัด
หลังจากที่ดูตัวเองในกระจกแล้ว เสิ่นเฉียวรู้สึกตัวแบบนี้ทำให้ตัวเธอดูมีราศีขึ้นมาบ้าง
ก็ไม่มีทางเลือกล่ะนะ……
เธอไม่อยากให้เย่โม่เซินมองว่าเธอนั้นดูไม่ดี แล้วก็ไม่อยากที่จะให้เย่โม่เซินรู้สึกว่าตัวเธอนั้นน่าสังเวช แล้วก็รู้สึกแย่ ปวดใจเพราะเขา
แม้ว่าเธอจะรู้สึกแย่และปวดใจเป็นอย่างมาก แต่ว่า……เธอต้องการที่จะปิดบังสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด
เมื่อคิดได้เช่นนี้แล้ว เสิ่นเฉียวเม้มปากแน่น และค่อย ๆ ยิ้มมุมปากขึ้นเบา ๆ ที่ตรงหน้ากระจก
สู้ ๆ เสิ่นเฉียว
หลังจากออกประตูมาได้ไม่นาน ทันใดนั้นก็มีคนเข้ามาทักทาย: “คุณหนูเสิ่นต้องการจะออกไปข้างนอกอย่างนั้นหรือ?”
เมื่อได้ยิน เสิ่นเฉียวก็ชะงักลง “พวกคุณคือ……”
“พวกเราคือบอดี้การ์ดที่นายหานส่งมาที่นี่เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยของคุณหนูเสิ่น คุณหนูเสิ่นต้องการจะออกไปข้างนอกเหรอครับ?เดี๋ยวพวกเราเรียกคนขับรถมาให้คุณเอง?”
เสิ่นเฉียวรู้สึกแปลก ๆ แต่ก็ยังคงส่ายหน้าปฏิเสธ: “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฉันนั่งรถไปเองก็ได้”
“ไม่เป็นไรนะครับคุณหนูเสิ่น คนขับรถเองก็สแตนบายไว้ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง”
เมื่อเขาพูดเช่นนั้น เสิ่นเฉียวก็ไม่รู้จะปฏิเสธยังไง แต่ก็ยังคงจ้องไปยังชายคนนั้นด้วยสายตาที่รู้สึกสงสัย: “ให้พวกคุณมาคุ้มครองฉันถึงที่นี่เลยจริง ๆ อย่างงั้นเหรอ?”
เมื่อคนคนนั้นได้ยินก็ยิ้มขึ้นมาเบา ๆ : “คุณหนูเสิ่นวางใจเถอะ พวกเราน่ะเป็นคนที่นายหานส่งมาจริง ๆ หาได้มีจุดประสงค์ร้ายไม่ คนขับรถที่แสตนบายรอคุณหนูเสิ่นอยู่นั้นเองก็ เป็นคนคนนั้นที่คุณหนูเสิ่นเคยเจอก่อนหน้านี้”
คนคนนั้นที่เธอเคยเห็น?
“คนที่ไปส่งฉันที่โรงแรมก่อนหน้านี้งั้นเหรอ?”
“ใช่แล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: เจ้าสาวมือสองของคุณชายเย่